หาเวลาทำก่อนสิ้นปี ขอขมาไหว้เจ้าที่กลางบ้าน

0

หาเวลาทำก่อนสิ้นปี ขอขมาไหว้เจ้าที่กลางบ้าน

เข้าใกล้ช่วงปีใหม่มาทุกที หากใครที่กำลังพบเจอปัญหาในเรื่องของการไม่มีโชคการเงินไม่ดี ให้ท่านหาเวลาทำก่อนช่วงสิ้นปีนี้ขอขมาไหว้เจ้าที่กลางบ้านที่อยู่อาศัยของเรา ทำบ่อยๆจะมีโชคลาภ ท่านจะเปิดทางสว่างช่วยให้ชีวิตมีความราบรื่น

การไหว้เจ้าที่เจ้าทางเจ้าของบ้านเรือนที่เราอาศัยอยู่นั้น ซึ่งมีความต่างกับศาลพระภูมิที่เป็นเจ้าที่ที่เราเชิญท่านลงมาเพื่อปกป้องรักษา

ซึ่งการไหว้ดังกล่าวเราจะไหว้ทุก 3-6 เดือนต่อครั้งเป็นอย่างน้อย เพื่อเป็นการขอขมาในบางครั้งที่เราได้ล่วงเกินไปโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ เวลาว่างๆควรไหว้เวลาเที่ยงของวันอังคารและวันเส าร์ เพราะถือได้ว่าเป็นวันรับ โดยอุปกรณ์ที่เราจะต้องเตรียมในการไหว้นั้นมีตามนี้

วิธีการไหว้เจ้าที่กลางบ้าน

เทียน 1 คู่ ธูป 5 ดอก , ดาวเรือง 9 ดอก , น้ำ 5 แก้ว , ผลไม้ 9 อย่าง เพื่อความเป็นศิริมงคล , หมากพลู 9 คำ

ซึ่งผลไม้แต่ละชนิดก็มีความหมายแตกต่างกัน

องุ่น ความเชื่อจะช่วยในเรื่องของการเงินเงินทอง หรือทรัพย์สมบัติ ที่ให้มีมากขึ้นมีเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ไม่ติดขัดในเรื่องของการเงิน

กล้วย ความเชื่อจะช่วยในเรื่องของสิ่งต่างๆ แก้ไขได้ง่ายขึ้น ทำได้ง่ายขึ้น ให้มีความราบรื่นไม่ติดขัด

แก้วมังกร ความเชื่อจะช่วยในเรื่องของการปกครองลูกน้อง บริวาร สำหรับเจ้าของกิจการที่มีบริวารที่ต้องดูแล

สับปะรด ความเชื่อจะช่วยในเรื่องของให้เรามีหูตาที่กว้างไกล มองเห็นถึงสิ่งต่างๆได้อย่างชัดเจน ในเรื่องของโอกาสแก้ปัญหาแก้ไขได้ดี

วิธีการจัดของ

ให้ใช้ผ้าขาวปูกลางบ้าน โดยหันหลังให้กับประตูหน้า แล้วเอาของทุกอย่างวางบนผ้าขาว จากนั้นให้จุดธูปเทียนแล้วกล่าวขอขมาว่า

“ข้าแต่เเจ้าที่เจ้าทาง เจ้าของที่เจ้าของทาง เจ้าของบ้านเจ้าของเรือนบ้านเลขที่…บ้านหลังนี้ วันนี้เป็นวันดี ข้าพเจ้ากล่าว (ชื่อ-นามสกุล) นำเครื่องสักการะบูชามาตั้งถวาย เพื่อขอขมาก ร รม หากมีสิ่งใดก็ตามที่ข้าพเจ้าได้ทำผิดไปทั้งตั้งใจก็ดีไม่ตั้งใจก็ดี ทั้งรู้ก็ดีไม่รู้ก็ดี ข้าพเจ้าขออโหสิก ร ร มท่าน ขอท่านจงโปรดง ดโ ท ษ เว้นโ ท ษและอโหสิก ร รมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ และโปรดช่วย…(อธิฐานขอตามปรารถนา)”

จากนั้นให้รอจนธูปหมด (ภายในบ้าน) แล้วค่อยดับเทียน และลาผลไม้ โดยวิธีการก็คือให้จับที่ตัวพานหรือถาดผลไม้แล้วพูดว่า

“ขอแดนขอชานให้ลูกให้หลานกิน เพื่อความเป็นศิริมงคล” จากนั้นก็นำไปทานได้เลย

เป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่ทำมาตั้งแต่ในสมัยโบราณ ทำมาจนถึงในปัจจุบันนี้ ลองดูไม่เสียหาย เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตนเองและคนในครอบครัว

ขอบคุณข้อมูลจาก : อาจารย์นิ่ม เทวจิตศิษย์ปู่

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here