อย่าลาออกจากงาน ถ้ายังไม่มี 5 สิ่ง บอกเอาไว้เลย

0

อย่าลาออกจากงาน ถ้ายังไม่มี 5 สิ่ง บอกเอาไว้เลย

การใช้ชีวิตของคนเรานั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่ใครหลายๆคนได้คิดเอาไว้ และความสำเร็จของแต่ละคนนั้นก็ย่อมมีจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกัน เชื่อว่าทุกคนคงจะทราบกันดีว่าการทำธุรกิจอะไรสักอย่างนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และหลายๆคนมักอยากที่จะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ไม่ชอบการเป็นลูกน้องใคร แต่ถ้าหากว่าคุณคิดจะลาออกจากงานที่ทำนั้นต้องคิดให้รอบคอบ และเตรียมความพร้อมในหลายๆด้าน และในวันนี้เราได้มี 5 สิ่ง มาบอกกับเพื่อนๆทุกคนว่า คุณจะต้องคิดให้ดีก่อนและจะต้องมีก่อนที่จะลาออกจากงาน

1. เก็บเงินให้พอที่จะสามารถอยู่รอดได้

หลังจากที่เราได้ลาออกจากงานที่ทำนั้น แน่นอนว่าในทุกก้าวของการใช้ชีวิตย่อมมีความเสี่ยง เพราะเราไม่ได้รับเงินเดือนประจำเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว ในการประกอบธุรกิจต่างๆที่เราตั้งใจเอาไว้อาจจะสำเร็จหรืออาจจะล้มเหลวก็เป็นได้ คุณควรต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี ปัญหาอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาคุณจะต้องมีแผนในการรับมือเรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์ทางธุรกิจที่คุณจะต้องเรียนรู้ไว้เพราะฉะนั้นคุณจะต้องมีเงินเก็บให้พอไว้สำหรับใช้ยามจำเป็น เพราะถ้าหากธุรกิจที่คุณทำล้มเหลวคุณจะได้มีเงินในการตั้งตัว

2. ลู่ทางทำธุรกิจ / อาชีพเสริม

หากใครที่มีความคิดว่าจะลาออกจากงาน แต่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าออกมาแล้วเราจะทำอะไรเลิกคิดไปเลย เพราะในบางครั้งเราตัดสินใจลาออกจากงานด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด ด้วยอารมณ์ที่คิดว่าไม่อยากทำ ไม่อยากเป็นลูกน้องใคร โดยไม่ได้เตรียมพร้อมว่าถ้าหากว่าเราออกมาแล้วนั้นเราจะทำอะไร จะหาเงินที่ไหนในการเลี้ยงตนเองและครอบครัว

เพราะฉะนั้น อย่า! ลาออกจากงานหากยังไม่รู้จะทำอะไรต่อไป หรือยังหาสิ่งที่ชอบสิ่งที่อยากทำไม่เจอ

3. เป้าหมายและแผนการ

หากคุณไม่มีเป้าหมายในชีวิต การเดินทางของคุณในแต่ละวันนั้นก็ย่อมไม่มีค่า ลองนึกภาพดูเล่นๆว่า คุณต้องขับรถออกจากบ้าน โดยมีน้ำมันอย่างจำกัด แต่คุณขับรถไปเรื่อยๆโดยที่ไม่รู้ว่าจะไปไหน ต้องขับกี่ชั่วโมง การทำธุรกิจก็เช่นกัน คุณทำไปเรื่อยๆแต่คนไม่มีจุดมุ่งหมายของการทำธุรกิจ ซึ่งไม่ต่างอะไรจากการนั่งทำงานประจำ เราควรมีเป้าหมายและแผนการในการใช้ชีวิตการทำงาน และการหาเงินให้ชัดเจน เพื่อที่จะเดินทางไปสู่เป้าหมายให้ถึงฝั่ง

เพราะฉะนั้น จงตั้งเป้าหมาย และที่สำคัญกว่าเป้าหมายคือ ต้องทำอย่างไรบ้างถึงจะสามารถไปยังเป้าหมายที่เราหวังไว้

4. ความรู้ความชำนาญ

เรียกได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ หากคิดที่จะออกมาทำธุรกิจของตนเองออกมาเป็นเจ้านายตัวเอง ความรู้ความชำนาญ และความสามารถที่เรามีจะนำไปสู่อาชีพจะนำไปสู่ธุรกิจที่เราอยากทำ แต่ถ้าหากว่าเราไม่มีความรู้และความชำนาญเราก็ต้องถามตัวเองต่อว่า เราจะทำสำเร็จไหม หากเจอคู่แข่งเราจะรับมืออย่างไร เมื่อมีปัญหาต่างๆเข้ามาเราจะแก้ไขได้หรือไม่

เพราะฉะนั้น จงหาความรู้ ฝึกฝน พัฒนาตนเองซะตั้งแต่ตอนนี้ก่อนที่จะรู้ตัวว่าสายเกินไป

5. แผนสำรอง (แผน B)

ไม่ว่าจะทำอะไรการทำงานหรือการใช้ชีวิตย่อมมีความเสี่ยงย่อมมีโอกาสสำเร็จและมีความผิดพลาดที่พอๆกัน หากเรามีปัญหาเข้ามา เราไม่รู้ว่าจะต้องแก้ไขอย่างไร สิ่งที่เราควรมีและสิ่งที่เราควรคิดไว้คือแผนสำรอง แผนการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้

เพราะฉะนั้น ต้องมีแผนสำรองสำรองเสมอ ควรคิดวิเคราะห์ถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นล่วงหน้าแล้วเตรียมแผนรับมือกับมันซะ

เขียน / เรียบเรียง : postsara

ขอขอบคุณ : Meawbin

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here