ในวันหนึ่งเราจะรู้ว่า คนร่ำรวยที่สุด ไม่ใช่คนมีเงินมาก

0

ในวันหนึ่งเราจะรู้ว่า คนร่ำรวยที่สุด ไม่ใช่คนมีเงินมาก

คนเราทุกคนที่เกิดมาบนโลกใบนี้นั้น ต่างมีความต้องการและการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน เป้าหมายในชีวิตแต่ละในช่วงวัยก็มีความต่างกันด้วย ในบทความด้านล่างนี้เป็นเรื่องจริงของคนในยุคสมัยปัจจุบัน ที่ล้วนแต่หาความสุขให้กับตัวเองจนลืมใส่ใจความรู้สึกของคนรอบข้าง คนในครอบครัวที่เลี้ยงดูเรามาจนเรามีถึงทุกวันนี้

โตขึ้นน้องจะรู้ว่า ยากยิ่งกว่าหาคนดีๆ

คือ หาทำเลค้าขายดีๆ

ยากยิ่งกว่าสอบเข้า มหาวิทยาลัยดีๆ

คือ การมีอาชีพการงานดีๆ

โตขึ้นน้องจะอึ้งว่า

พ่อแม่เราเอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงเรา

ขนาดเราเงินเดือน 3 หมื่น

ยังไม่พอจะให้พ่อแม่ได้เลย

โตขึ้นน้องจะเข้าใจ

ว่าโซดาขวดละ 100

ในร้านที่น้องไป..แพงขนาดไหน

น้องจะเริ่มสงสัยว่า

แม่คนเดียวทำไมเลี้ยงลูก 3-4 คนได้จนเรียนจบ

แต่ลูก 3-4 คน เรียนจบ มีงานทำหมด

แต่ไม่มีใคร เลี้ยงดูแม่ได้สักคนเดียว

โตขึ้นน้องจะเข้าใจ

ว่าทำไมแม่ต้องทำงานหนัก

วันหยุดไม่ได้พัก ค่ำมืดยังไม่ได้กินข้าว

น้องจะรู้ว่าเขาทำ…เพื่อใคร

วันนึงน้องจะคิดได้

ว่าชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย

เป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขที่สุดแล้ว

เพราะมีคนหาเงินให้ใช้

เรียนไปเที่ยวไปไม่ต้องคิดอะไร

วันนึงน้องจะรู้

ว่าคุณค่าของชีวิต

ไม่ได้วัดกันที่โทรศัพท์เครื่องใหม่

หรือกระเป๋าแบรนด์เนม

แต่มันวัดกันที่ ความรับผิดชอบ

และ สามัญสำนึก

วันนึงน้องจะรู้ว่า คนที่ร่ำรวยที่แท้จริง

คือ คนที่เลี้ยงดูพ่อแม่ได้

ไม่ใช่คนที่สามารถจ่ายค่าเหล้า

ขวดละ 5 พันโดยไม่เสียดาย

วันที่พ่อแม่จากไป…

วันนั้นแหละ คือวันที่โลกนี้

ไม่มีใครรักน้องจริง หลงเหลืออยู่อีกแล้ว!!

เมื่อก่อนร้องเรียกหาแต่ เพื่อนในโซเชี่ยล

วันนึงน้องจะเรียกร้องหาแต่พ่อแม่

ที่ไม่มีวันหวนกลับคืนมาได้

แม่ขายแกงได้วันละไม่ถึงพัน

เลี้ยงลูกจนเรียนจบมีงานทำมาได้

ลูกเงินเดือน 2-3 หมื่น กลับเลี้ยงดูแม่ไม่ได้

วันนี้บทความนี้

น้องอ่านแล้วอาจจะไม่เข้าใจ

สักวัน….ที่คิดได้ จะเข้าใจมันดี

คนเก่งคือคนที่เลี้ยงดูพ่อแม่ได้

ขอบคุณข้อมูลจาก : สิริทัศน์ สมเสงี่ยม

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here