ลาออกจากสาวโรงงาน มาทำไร่หม่อน สร้างเงินเดือนหลักแสน

0

ลาออกจากสาวโรงงาน มาทำไร่หม่อน สร้างเงินเดือนหลักแสน

คนเราในยุคของปัจจุบันนี้ต่างก็มีความต้องการที่จะทำงานเป็นนายของตัวเองทั้งนั้น น้อยคนที่คิดอยากจะเป็นลูกจ้าง แต่โดยส่วนมากแล้ว เราก็ไม่ค่อยมีทางเลือกมากนัก เพราะต้นทุนของคนเรานั้นมีความแตกต่างกัน ทางเลือกของคนเราก็มีความต่างออกไปเช่นเดียวกัน

และในวันนี้เราได้มีหนึ่งเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่ง แต่เดิมเธอทำงานเป็นสาวโรงงานเอกชนแห่งหนึ่ง ในขณะที่ทางครอบครัวของเธอนั้นมีอาชีพทำสวนยางพารา

แต่เนื่องจากที่ผ่านมาราคายางพาราตกต่ำ จนกระทั่งเมื่อประมาณ 8 เดือนที่ผ่านมา พ่อแม่ตัดสินใจโค่นยางพาราทิ้ง และปรับพื้นที่ใหม่ทั้งหมด หันมาปลูกปาล์มและทุเรียนแทน การปลูกปาล์มและทุเรียนกว่าจะได้เก็บเกี่ยวผลผลิต ก็ต้องใช้เวลาหลายปี

เธอจึงได้มีแนวคิดในระหว่างนี้ ว่าจะหาพืชอะไรมาปลูกเสริมในพื้นที่นี้ดี ระหว่างสวนปาล์มและทุเรียนที่ยังว่างอยู่ ประกอบกับตนเองนั้นมีลักษณะนิสัยเป็นคนชอบท่องเที่ยว และได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆมาหลายแห่ง จึงมีโอกาสได้เข้าเที่ยวชมสวนมัลเบอร์รี่ของป้าชบาที่ตั้งอยู่ที่ซอย โกเตง ต.วัดประดู่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี

ได้สอบถามข้อมูลส่วนหนึ่งจากเจ้าของสวน และกลับศึกษาเพิ่มเติม พบว่าการปลูกมัลเบอร์รี่ หรือ ลูกหม่อน ไม่ได้ยากอะไรมากมาย

สามารถปลูกแซมในสวนปาล์มหรือผลไม้ได้ อีกทั้งให้ผลผลิตเร็ว จึงตัดสินใจซื้อพันธ์ุมัลเบอร์รี่ จำนวน 500 ต้น มาปลูกแซมร่องปาล์ม บนพื้นที่ 5 ไร่ ขณะเดียวกันก็ได้ใช้พื้นที่ส่วนอื่นปลูกมะนาว ต้นเหลียง ผักสวนครัวปลอดสารอื่นๆ และข้าวไร่ ไปด้วย

ปรากฏว่าหลังจากปลูกมัลเบอร์รี่ไปได้เพียง 5 เดือน ได้รับผลอย่างไม่คาดคิดมาก่อน ทุกต้นออกผลเต็มต้น ได้ผลเกินคาด ซึ่งการดูแลก็ไม่ต้องดูแลอะไรมากมาย เพราะจะได้รับน้ำและปุ๋ยจากที่ทางเราให้ต้นปาล์มทางอ้อม

สำหรับ “มัลเบอร์รี่” หรือ “ลูกหม่อน” เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่เมื่อผลสุกแล้วจะเป็นสีดำ รสชาติเปรี้ยวอมหวาน เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ลักษณะลำต้นตั้งตรง ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบปลายใบแหลมยาว มีประโยชน์ต่อร่างกายเยอะมาก

สำหรับข้อดีของต้นมัลเบอร์รี่ คือ ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก แต่จะมีปัญหาบ้าง เช่น เรื่องการเก็บเกี่ยว เพราะต่อครั้งจะให้ผลผลิตค่อนข้างเยอะ ต้องเก็บผลสุกออกจากต้นไม่เกิน 3 วัน เพราะถ้าเกินนี้จะเกิดเชื้อรา

แต่เนื่องด้วยครอบครัวของตนเองที่มีอาชีพเกษตรกรมาโดยตลอด เธอถึงคิดหาวิธีไม่ให้มัลเบอร์รี่ไม่ออกผลพร้อมกันทั้งหมด เลยนำวิธีแบบสมัยโบราณมาลองใช้

คือการแกล้งให้ต้นเฉ่า จัดโซนแถวที่ต้องการให้ออกลูกสลับกับการไม่ให้ออกลูก โซนที่ไม่ต้องการให้ออกผลก็จะปลิดใบทิ้งทั้งต้นไว้ก่อน ซึ่งถือเป็นวิธีที่ได้ผล และสามารถบริหารการเก็บผลผลิต ออกขายจำหน่ายได้ทุกวัน

ยอดจำหน่ายส่วนใหญ่ มาจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชมสวนและพักผ่อน ซึ่งทางเราจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่เข้าเยี่ยมชมสวนสามารถเก็บมัลเบอร์รี่จากต้นทานเอง ฟรีแบบไม่อั้น พร้อมมีน้ำมัลเบอร์รี่เย็นๆ หวานช่ำ ให้ลองทานฟรี

แต่หากต้องการนำกลับบ้านก็จะใส่แพ็กจำหน่ายราคา 35, 60, 100 บาท หากต้องการซื้อเป็น กิโล ขายกิโลละ 200 บาท ส่วนลูกค้าที่สั่งผ่านออนไลน์หรือโทรมาสั่ง เราก็มีบริการส่ง สัปดาห์ละ 2 ครั้ง

“มัลเบอร์รี่ แม้จะเป็นผลไม้ลูกเล็ก แต่อุดมไปด้วยคุณค่าและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ณ ห้วงเวลานี้คนบ้านเราและชาวต่างชาติรู้จักมากขึ้น กลุ่มคนที่ดูแลสุขภาพก็ให้ความสนใจผลไม้ชนิดนี้มาก ฉะนั้นมัลเบอร์รี่จึงเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่น่าจับตามอง”

อย่างไรก็ตาม สำหรับไร่มัลเบอร์รี่ “ระพี” นอกจากจะเปิดให้เที่ยวชมสวนฟรีแล้ว ยังมีบริการ กางเต็นท์ ริมธารน้ำ ให้พักค้างคืน สำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนแบบสงบเพื่อดื่มด่ำธรรมชาติ โดยมีอาหาร ปิ้งย่าง รอบกองไฟ นั่งดูดาว

สำหรับกลางคืน พร้อมอาหารเช้ารูปแบบอาหารท้องถิ่นของพื้นที่ ซึ่งเต็นท์ใหญ่สามารถพักได้ 5-6 ท่าน เต็นท์เล็ก สามารถพักได้ 2-3 คน ตั้งแต่เปิดมามีนักท่องเที่ยวมาค้างคืนตลอดเช่นกันบางครั้งที่พักไม่เพียงพอด้วยซ้ำ

ซึ่งอนาคตมีโครงการจะขยายที่พัก และร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน สำหรับรายได้แต่ละเดือน ตอนนี้ก็อยู่ระดับหลักแสนบาท หากใครสนใจสามารถโทรสอบถามรายละเอียด และเส้นทาง

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 064-029-7319

ขอบคุณข้อมูลจาก : ระพีพรรณ จันทบูรณ์

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here