10 เหตุผล ว่าทำไมเพื่อนสมัยเรียนมัธยมถึงดีที่สุด อยู่กับเรานานที่สุด

0

10 เหตุผล ว่าทำไมเพื่อนสมัยเรียนมัธยมถึงดีที่สุด อยู่กับเรานานที่สุด

เคยได้ยินกันไหมว่าในช่วงวัยชีวิตของเรานั้น ลองสังเกตรอบๆตัวเราไหมว่าทำไม “เพื่อนสมัยมัธยมถึงคบกันนาน” คบกันมาถึงทุกวันนี้ จนกระทั่งเข้าช่วงวัยทำงาน เข้าช่วงมีครอบครัว เราก็ยังมีเพื่อนๆในสมัยมัธยมที่ยังอยู่รอบตัวรอบข้างเราอยู่เสมอ เรามีเหตุผลดีๆมาให้เพื่อนๆได้อ่านกันเรามาดูกันเลยว่าเพราะอะไร

1. คบกันที่ตัวตนจริงๆ ใครเป็นใครมีนิสัยอย่างไร เห็นกันหมด ใครเรียนเก่ง ใครไม่ฉลาด ใครหัวอ่อน ใครดื้อ ใครขี้เกียจ ใครมีเงินหรือไม่มีเงิน กระทั่งพ่อแม่เป็นใคร ครอบครัวเป็นอย่างไร เรารู้หมดทุกอย่าง ไม่ต้องมาวางฟอร์มใส่กัน

2. คบกันเพื่อความสุข ไม่มีผลประโยชน์ใส่กัน ไม่มีผลประโยชน์ใดๆอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง คบกันเพราะว่าเราเป็นเพื่อนกันพร้อมที่จะลุยในทุกเรื่องไปด้วยกัน เราเหมือนๆกัน ไม่ใช่เพียงเพราะจะพึ่งพาอะไรกัน อย่างดีก็แค่ขอลอกการบ้านหน่อย เดินพาไปส่งห้องน้ำหน่อย แบบนี้เจอประจำ

3. รู้จักไปถึงครอบครัว พ่อแม่ญาติพี่น้อง บ้านอยู่ที่ไหน รู้ไส้รู้พุงกันหมด สนิทแบบไม่มีเรื่องอะไรมาปิดกั้น สนิทกันจนขนาดเรียกชื่อเพื่อนเป็นชื่อพ่อของมัน และเพื่อนที่ดีคือมันจะไม่เคยโกรธเราเลยไม่ว่าเราจะเรียกยังไง

4. หัดความจีบสาวพร้อมกัน ทุกวันนี้ยังมานั่งคิดอยู่เลยว่าทำไปได้อย่างไร ในตอนนั้นใช้มุขแป๊กๆมุขจีบสาวซื่อๆ ตอนนั้นคงมีความสุขมากๆ แต่ลองมาย้อนคิดดูก็ยังนั่งขำอยู่เลย ว่าเราทำไปได้ยังไง เราเมื่อไหร่ก็ฮาเมื่อนั้น ยิ่งมาเจอกันในช่วงหลังวัยเกษียณแล้วทำให้นึกถึงภาพเก่าๆ

5. ทำอะไรก็โง่ๆเหมือนกัน ในวัยมัธยมนั้นเป็นช่วงรอยต่อวัยของความเป็นเด็กกับวัยรุ่น ที่กำลังจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ จะมีเรื่องราวต่างๆให้เราทำกันเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการโดดเรียน ปีนกำแพงข้ามรั้ว เข้าห้องปกครอง เพื่อนแต่ละคนก็จะมีความต่างกันออกไปแต่พออยู่ด้วยกัน จับกลุ่มคุยกัน เม้าท์กันในเรื่องต่างๆเป็นอะไรที่มีความสุขมากๆ

6. เราจะใช้เวลากิน นอน เที่ยว ด้วยกัน ในวัยมัธยมเป็นวัยที่ตัวติดกันเป็นตังเม เวลาจะไปไหนทีก็ต้องไปกันยกกลุ่ม จะไปกินข้าวก็ต้องเดินกันไปเป็นกลุ่ม จองโต๊ะใหญ่ๆเวลาจะไปห้องน้ำก็ต้องลากเพื่อนไปหลายๆคน เวลานอนก็จะนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นด้วยกัน เรียกได้ว่าไปไหนไปกันเจอคนนี้ก็ต้องเจอคนนั้น ความผูกพันที่เรามีจะหล่อหลอมจนเป็นเนื้อเดียวกันจนแยกเราไม่ออก

7. โดนคุณครูทำโทษมาด้วยกันจนไม่เหลือความหมายอะไรให้อาอีกแล้วใหม่ๆแล้วก็จะรู้สึกไงแต่ว่าสนิทกันมากก็จะไม่มีความรู้สึกนั้นทั้งเขาและเราก็จะชินไปเอง

8. มีอดีตและวีรกรรมที่ร่วมกันมายาวนาน รู้ในทุกเรื่องในช่วงชีวิตที่ผ่านมา วีรกรรมมากมายที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีและไม่ดี พูดอีกกี่ครั้งก็ไม่มีวันหมด ทุกครั้งที่ได้กลับไปเยี่ยมเยียนสถาบันเก่าที่เราได้เรียนกันมา เราก็มักจะนึกถึงภาพจำเก่าๆ ว่าเราทำอะไรกันอยู่ตรงไหน ตอนกลางวันเรานั่งกันอยู่ตรงไหน ตอนเย็นเลิกเรียนเราไปที่ไหนกัน ใต้ต้นไม้นี้ใครเคยปีน ใครถูกทำโทษ จำได้ทุกสิ่งอย่าง

9. ขอเงินเพื่อ นขอกันแบบซื่อๆขอแบบง่ายๆไม่ต้องคิดอะไรมาก ทุกคนที่ได้เงินมาโรงเรียนก็จะไม่ได้มากมายหลักสิบกันเท่านั้ นจะต่างไปในตามฐานะของแต่ละบ้านบ้าง แต่ก็เพียงแค่ไม่กี่บาทส่วนมากเรามักจะซื้อของกินมานั่งจับกลุ่มกินด้วยกัน มีเรื่องพูดคุยกัน นึกถึงช่วงนั้นก็มีความสุขมากๆ

10. เมื่อเราได้มาพบเจอกันในอีกครั้งหลังจบการศึกษา เราจะได้เห็นพัฒนาการของเพื่อนในแต่ละคนของแต่ละกลุ่มเพื่อน แค่เจอหน้ากันเราก็ยิ้มให้กันแล้ว มีความสุขแล้ว เราได้รื้อฟื้นความหลัง ความทรงจำเก่าๆที่เราทำร่วมกันมา เพราะสิ่งเหล่านี้แหละที่ทำให้เรามีความสุขในทุกครั้งที่เราได้เจอและได้พูดคุย

ในทุกวันนี้ ชีวิตในช่วงมัธยมของใครหลายๆคน อาจจะผ่านพ้นกันมาหลายปี แต่เชื่อได้เลยว่าในตอนนี้ หากคุณได้นึกถึงความทรงจำเก่าๆ นึกถึงเพื่อนของคุณในวัยเรียน นึกถึงตัวคุณที่นั่งเรียนอยู่หน้ากระดาน นึกถึงตอนได้พูดคุยกัน เราจะเชื่อได้เลยว่าคุณจะยิ้มออกมาในทันทีและทำให้คุณมีความสุขในช่วงเวลาเหล่านี้อีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก : ดร.พนม ปีย์เจริญ

เรียบเรียง : postsara

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here