ชายผู้ยากจน ถาม พระพุทธเจ้า “เหตุใดข้าจึงยากจนยิ่งนัก”

0

ชายผู้ยากจน ถาม พระพุทธเจ้า “เหตุใดข้าจึงยากจนยิ่งนัก”

เมื่อกาลครั้งหนึ่ง ได้มีขอทานคนหนึ่งออกจากบ้านไปขอทานทุกวัน เขาอยากจะมีชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป เพราะฉะนั้นเขาจึงขอทานแล้วเสบียงตุนเอาไว้ แต่ว่าเขากักตุนเสบียงมาหลายปี ยุ้งฉางข้าวของเขาก็มีข้าวสารเพียงเล็กน้อย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เขาจึงตัดสินใจค้นหาสาเหตุของความจริง

ค่ำคืนวันหนึ่ง เขาแอบอยู่ที่มุมหนึ่งของบ้านและจ้องไปที่เสบียง ไม่นานเขาก็เห็นหนูตัวใหญ่ เข้ามาขโมยและกินทะเบียนอาหารของเขา เขารู้สึกโกรธมาก จึงตะโกนไปที่เจ้าหนูตัวใหญ่ตัวนั้นว่า

“บ้านคนรวยก็มีอาหารตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมแกไม่รู้จักไปกินที่บ้านคนรวยของเขาล่ะ ทำไมต้องมาเจาะจงกินอาหารบ้านของข้าที่ข้ากักตุนมาด้วยความยากลำบาก”

เจ้าหนูตัวนั้นจึงพูดขึ้นว่า

“ชะตาของเจ้านั้นมีข้าวสารได้แค่เพียง 8 ส่วน เดินให้ทั่วหล้า หาให้มากแค่ไหนก็ไม่สามารถมีข้าวได้ครบถัง”

ขอทานจึงเอ่ยปากถามเจ้าหนูว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

เจ้าหนูจึงตอบว่า

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน เจ้าลองไปถามพระพุทธองค์ดูสิ”

เช้าวันรุ่งขึ้นขอทานจริงตัดสินใจออกเดินทางไปทางทิศตะวันตก เพื่อถามพระพุทธองค์ว่า เพราะเหตุใดข้าถึงมีชะตาชีวิตเช่นนี้

ในวันหนึ่งเขาเดินจนฟ้ามืดถึงพบค่ำ ได้เจอบ้านหลังหนึ่ง รีบเข้าไปเคาะประตู มีพ่อบ้านเดินออกมาถามว่ามีเรื่องอะไรกัน เขาบอกว่าขอข้าวกินหน่อย พอดีเศรษฐีเจ้าของบ้านออกมาเห็นเขา เลยถามขอทานว่า พบคำอย่างนี้แล้วทำไมยังออกมาเดินอยู่อีก ขอทานจึงเล่าชะตาชีวิตให้กับเศรษฐีพวกนั้นฟังว่า ข้าจะไปถามเหตุผลกับพระพุทธองค์ เศรษฐีได้ยินดังนั้นจึงรีบเชิญขอทานเข้าไปนั่งในบ้าน

ให้เสบียงข้าวปลาอาหารสารพัด ขอทานถามว่าทำไมถึงทำเช่นนี้ เศรษฐีจึงเล่าเหตุผลให้กับขอทานฟังว่า

ลูกสาวของค่านั้นอายุได้ 16 ปี ยังพูดไม่ได้เลย ขอร้องให้เจ้าช่วยถามเหตุผลกับพระพุทธองค์ด้วย

เศรษฐีเคยสาบานว่าใครก็ตามที่ทำให้ลูกสาวพูดได้ เขาก็จะให้ลูกสาวแต่งงานกับคนนั้น ขอทานได้ฟังเช่นนั้น คิดว่าไหนๆก็จะไปหาพระพุทธองค์อยู่แล้ว เราก็ถือโอกาสช่วยถามให้เขาก็ได้ ขอทานจึงรับปากจะถามให้

ขอทานเดินทางต่อไปผ่านภูเขาลูกแล้วลูกเล่า เดินถึงเขาลูกหนึ่ง เห็นวัดแห่งหนึ่งตั้งอยู่ ก็เลยเข้าไปขอน้ำดื่ม เห็นพระแก่รูปหนึ่งถือไม้เท้าดีบุก ท่าทางแก่มาก แต่ดูกระฉับกระเฉง พระชราให้น้ำเขาดื่มและบอกให้เขาพักผ่อนสักครู่ แล้วถามเขาว่าจะไปไหน ขอทานบอกจุดหมายที่จะไป พระชรารีบจับมือขอทานไว้และพูดว่า ขอร้องเจ้าต้องช่วยถามพระพุทธองค์ให้หน่อย ข้าเข้าฌานฝึกฝนมา 500 กว่าปีแล้ว ตามหลักควรจะขึ้นสวรรค์แล้ว ทำไมยังบินขึ้นไปไม่ได้ ขอทานก็เลยรับปากพระชรา

เดินไปข้างหน้า ผ่านหนทางทั้งห้วยหนองคลองบึง ขอทานมาถึงริมแม่น้ำสายหนึ่ง ในแม่น้ำไม่มีเรือสักลำ ขอทานร้อนรนใจ จะทำอย่างไรดี จะข้ามไปยังไง ขอทานร้องไห้และพูดว่า หรือว่าชีวิตข้าจะต้องลำบากเช่นนี้หรือ?

ทันใดนั้น เต่าตัวใหญ่แก่ตัวหนึ่งโผล่ขึ้นเหนือน้ำ เต่าแก่พูดภาษาคนได้ ถามขอทานว่ามาร้องไห้ที่นี่ทำไม ขอทานเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง เต่าแก่พูดกับเขาว่า ข้าได้เข้าฌานปฏิบัติตนมา 1000 ปีแล้ว ตามหลักน่าจะกลายเป็นมังกรบินไปแล้ว ทำไมยังเป็นแค่เต่าแก่ๆตัวหนึ่ง ถ้าเจ้าไปพบพระพุทธองค์ช่วยถามให้ข้าด้วย ข้าจะให้เจ้าขี่ข้ามแม่น้ำไปฝั่งตรงข้าม ขอทานรับปากด้วยความดีใจ

ขอทานเดินทางมาไกลมากแต่ก็หาพระพุทธองค์ไม่เจอ คิดในใจว่าพระพุทธองค์อยู่ไหนนะ แดนสุขาวดีน่าจะถึงแล้ว ขอทานเสียใจมาก เลยผลอยหลับไปแบบงุนงง

ทันใดนั้นพระพุทธองค์ปรากฏองค์ขึ้น ขอทานดีใจมาก พระพุทธองค์ถามขอทานว่า เจ้ามาไกลขนาดนี้ น่าจะมีคำถามอะไรที่สำคัญมากใช่ไหม? ใช่เจ้าค่ะขอทานตอบ ข้าน้อยจะถามคำถามหลายคำถาม หวังว่าท่านจะอธิบายให้ข้าน้อยเข้าใจได้ พระพุทธองค์ตอบว่า ได้สิ! แต่มีเงื่อนไขหนึ่งนะเจ้าถามได้สูงสุดแค่ 3 คำถามเท่านั้น เพราะว่าไม่เคยมีใครถามเกิน 3 คำถามมาก่อน ขอทานตอบตกลง คิดในใจว่า ข้าจะถามคำถามไหนดีขอทานรู้สึกว่าคำถามของตนเองช่างไม่มีความสำคัญเลย

1. เต่าแก่เข้าฌานมา 1000 ปีแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่าย คำถามเขาน่าจะลองถามดู

2. พระชราปฏิบัติมา 500 ปี ก็ลำบากมาก คำถามเขาก็น่าจะถามดู

3. ลูกสาวเศรษฐีช่างน่าสงสารนัก พูดไม่ได้แล้วจะแต่งงานได้ยังไง

ขอทานจึงไม่ลังเลที่จะถามคำถามที่ 1 ทันที

คำถามที่ 1 พระพุทธองค์ตอบเขาว่า เต่าแก่ไม่ยอมสละกระดองของมัน ก็เลยไม่สามารถกลายเป็นมังกรได้ ในกระดองของเต่ามีไข่มุกราตรีอยู่ 24 เม็ด ถ้ามันยอมสละกระดอง มันก็จะกลายเป็นมังกรได้

คำถามที่ 2 ท่านตอบว่า พระชราถือไม้เท้าวิเศษทั้งวัน ในใจพะวงแต่ไม้เท้าว่าเป็นของวิเศษ ใช้ไม้เท้าเคาะบนพื้น 1 ที บนพื้นก็จะกลายเป็นธารน้ำใส ถ้าหากพระชรายอมโยนไม้เท้าทิ้ง เขาก็จะขึ้นสวรรค์ได้แล้ว

ขอทานดีใจมาก จึงถามคำถามที่ 3 ท่านตอบว่า ถ้าเด็กสาวได้พบคนที่เธอรัก เธอก็จะพูดได้เอง และทันใดนั้นพระพุทธองค์ก็หายไป?

ขอทานรู้สึกว่า ปัญหาของตัวเองไม่มีอะไรสำคัญ กลับไปขอทานตามเดิมดีกว่า แล้วจึงรีบเดินทางกลับ ขอทานกลับมาถึงริมแม่น้ำ เต่าแก่คำนวนว่าขอทานน่าจะมาถึงแล้ว จึงรีบถามว่าพระพุทธองค์ตรัสว่ายังไง ขอทานพูดว่า เจ้าพาข้าข้ามแม่น้ำไปก่อน ข้าจะเล่าให้ฟัง เต่าพาขอทานข้ามแม่น้ำไป ขอทานเล่าสาเหตุให้ฟัง เต่าฟังแล้วเข้าใจทันที จึงถอดกระดองออกยกให้ขอทานและพูดว่า ในนี้มีไข่มุกราตรี 24 เม็ด เป็นของที่หาค่ามิได้ สำหรับข้าไม่มีประโยชน์แล้ว ข้าขอยกให้เจ้า เต่าแก่จึงกลายเป็นมังกร บินหายไป

ขอทานเอาไข่มุกราตรี 24 เม็ด รีบเดินทางกลับมาถึงบนเขาพบกับพระชรา พระชรารีบถามว่าพระพุทธองค์ท่านตรัสว่าอย่างไร ขอทานเล่าสาเหตุให้ฟัง พระชราได้ฟังดีใจมาก จึงมอบไม้เท้าวิเศษให้แก่ขอทาน พระชราจึงขี่เมฆบินขึ้นท้องฟ้าหายไป

ขอทานเดินทางมาถึงหน้าบ้านเศรษฐี ทันใดนั้น มีหญิงสาววิ่งออกมาและตะโกนเสียงดังว่า คนที่ไปถามพระพุทธองค์กลับมาแล้ว เศรษฐีก็วิ่งออกมา เขาตกใจมากที่อยู่ๆลูกสาวเขาพูดได้ ขอทานถ่ายทอดคำตรัสพระพุทธองค์ เศรษฐีดีใจมาก จึงให้ลูกสาวแต่งงานกับขอทาน

ความรักที่ให้ออกไป ความรักก็จะย้อนกลับคืนมา

ความสุขที่ให้ออกไป ความสุขก็จะย้อนกลับคืนมา

คิดเผื่อคนอื่น ย่อมจะต้องมีคนคิดถึงคุณ

นี่คือเหตุและผล นี่คือกฏเกณฑ์

เมื่อท่านอ่านบทความนี้จบ

ขอให้ท่านเผยแพร่ออกไปเต็มความสามารถ ทำให้โลกนี้มีความรักเพิ่มขึ้น

การแบ่งปันเล็กๆของท่าน อาจสามารถส่องสว่างให้แก่ชีวิตคนมากมาย คนมีความฝันจึงทำให้ยิ่งใหญ่ การกระทำยิ่ง

ทำให้ประสบความสำเร็จ การเรียนรู้ของท่านทำให้ท่านเปลี่ยนแปลง

ขอให้ท่านกระจายความรักของท่านจะช่วยให้คนส่วนมากเติบใหญ่ขึ้น ขอบคุณการสนับสนุนของท่าน ข้าพเจ้าได้เลือกทำข้อที่ 1 แล้ว

เรียบเรียงโดย : Postsara

บทความส่วนหนี่งจาก : Postsodchonburipost

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here