รักครั้งใหม่ของ “จุ๋ม อุทุมพร” คบหนุ่มดีกรีเป็นถึงนายแพทย์สุดเท่ เผยอดีตเก่า
จุ๋ม อุทุมพร เปิดใจชีวิตในวัย 60 ปี ยอมรับว่ามีคนคุย คุยกับหนุ่มฝรั่งดีกรีเป็นนายแพทย์ คุณจุ๋มได้เล่าเรื่องราวในชีวิตวัยสาว บอกเลยว่าเขาทำให้ผู้ชายร้องไห้ได้ในคราวเดียวกันถึง 5 คน
เธอคนนี้เป็นดาราสาว 2000 ปี ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยก็ยังคงสวยไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับคุณจุ๋มแล้วนั้น ที่วันนี้ได้มาเปิดใจในรายการของ คุยแซ่บ SHOW ทางช่อง ONE31 ความรักครั้งใหม่ที่เกิดขึ้น แอบซุ่มคุยกับหนุ่มฝรั่งดีกรีเป็นถึงนายแพทย์มาสักพัก พร้อมกับเปิดใจเรื่องสุดช้ำในชีวิต ที่เคยโดนหลอก ถึงขั้นต้องพึ่งน้ำมนต์วัดเพื่อล้างสิ่งไม่ดีออกไป
– ในทุกวันนี้ยังมีหนุ่มๆมาจีบอยู่ เห็นว่ามาจีบบนเครื่องบินใช่ไหมครับ
จุ๋ม อุทุมพร : ฝรั่งทั้งนั้นแหละค่ะ ไทยคุยไม่รู้เรื่อง คือเขารู้จักเรามากเกินไป คนไทยบางทีชักจะเยอะๆจนไม่อยากจะตอบ เป็นเพื่อนกันดีกว่า
– เค้าเข้ามาจีบยังไง ?
จุ๋ม อุทุมพร : ลงจากเครื่องไป ก็มีแลกนามบัตร แลกอีเมลล์กัน เพราะเป็นคนทำธุรกิจ เป็นเจ้าของกิจการเหมือนกัน
– คุยกันเป็นเพื่อนก่อน ?
จุ๋ม อุทุมพร : ใจเราอะมันลาออกจากวงการชีวิตคู่ไปแล้ว ไม่เหมาะกับการมีชีวิตคู่ เป็นตนตรงไม่ดัดจริต มีความจริงมากเกินไป ชีวิตคู่มันต้องอะลุ่มอล่วย เป็นคนไม่ค่อยอะลุ่มอล่วยกับผู้ชาย
– หรือเป็นเพราะเราทุ่มเทให้กับงานมากเกินไป ?
จุ๋ม อุทุมพร : ให้กับลูกด้วยนะ ลูกอันดับ 1 บางครั้งเราคิดว่าเราเจอคนที่ใช่ พออยู่ ๆ ไปมันไม่ใช่ แล้วมันไม่ใช่เพราะเค้าด้วยนะ ไม่ใช่เพราะเราไปบอกว่าไม่ใช่ มันหมดความต้องการอยู่แบบคู่แล้ว มันทะนงตัวมากเกินไป อันนี้ไม่ดี
– ตอนนี้ก็ยังเปิดใจ ?
จุ๋ม อุทุมพร : ก็มีคุยกับคุณหมอท่านนึงอยู่ ตอนนี้เค้าอยู่อังกฤษ เป็นลูกครึ่งแขกกับฝรั่ง ชื่อโจค่ะ
– จริง ๆ แล้วเรารอคนที่ใช่เพื่อจะทำให้เราเปลี่ยนแปลงมั้ย ?
จุ๋ม อุทุมพร : เนื่องจากคุณหมอเค้าเปลี่ยนประเทศบ่อย เราก็เฝ้ารอว่าเมื่อไรเค้าจะแชทมา
– มีโอกาสแต่งงานอีกครั้งมั้ย ?
จุ๋ม อุทุมพร : คงไม่ขนาดนั้นค่ะ วัย 60 แล้ว จะมาแต่งงานหรอ
– แล้วมิสเตอร์โจคนนั้นใช่มั้ย ? คุยกันมานานขนาดไหนแล้ว ?
จุ๋ม อุทุมพร : ก็เกือบ ๆ แล้วนะ 2 เดือนเอง ยังน้อยอยู่มาก ให้เวลาพี่อีกซัก 3-4 ปีนะ
– พี่จุ๋มกลัวมั้ยว่าคนจะมองว่าเราอายุ 60 แล้ว ทำไมยังอยากจะมีแฟน อยากจะไปแต่งงาน ?
จุ๋ม อุทุมพร : กลัวค่ะ เพราะมันเป็นวัยทอง มันมีอะไรหลาย ๆ อย่าง ที่มันไม่ตอบโจทย์ของการมีคู่
– แล้วอะไรที่ทำให้พี่ต้องรีบรับโทรศัพท์เค้าล่ะ ?
จุ๋ม อุทุมพร : มีคนที่ใส่ใจเรามากมั้ง แล้วเราอยากฟังต่อว่าเค้าจะพูดอะไรกับเราวันนี้
– กลัวแล้วทำไมยังเดินหน้าต่อ ?
จุ๋ม อุทุมพร : ลองดูน่ะ คือกับคนอื่นนี่คบไปซักพักนี่เลิกไปเลย ไม่ต้องเป็นเพื่อนกันก็ได้ พี่เป็นผู้หญิงแรงค่ะ
– สมัยก่อนนี่แซ่บมากเลยเหรอ เห็นบอกว่าทำผู้ชายร้องไห้ทีเดียว 5 คน ?
จุ๋ม อุทุมพร : ก็มีแหละ มากกว่า 5 ก็มี (หัวเราะ) ก็เป็นช่วงวัยรุ่น วัยสนุก เป็นวัยที่มีชื่อเสียง เป็นนักแสดงแล้ว เค้ามาร้องไห้เองนะ ก็รถไฟชนกัน คนที่แพ้ก็ร้องไห้ บางทีเค้าก็คิดเอาเองไง บางคนเค้าประชดโดยการต่อยกำแพง ตบแก้ว พี่ไม่สนใจเลยนะ พี่หันมาคุยกับอีกคนเลย
– หวงลูกชายมั้ย ?
จุ๋ม อุทุมพร : ไม่หวง ถ้ามีแฟนเอามาเจอกันเลย แล้วจะเลี้ยงเป็นลูกสาวอีกคนนึงเลย แต่กับลูกสาวหวงค่ะ
– ครั้งหนึ่งเคยโดนคนใกล้ชิดทำให้เสียใจหนักมาแล้ว ถึงขั้นพรมน้ำมนต์ ?
จุ๋ม อุทุมพร : ก็แม่บอกว่าโดนของ ก็ไปเชื่ออะไรเค้า ไม่เชื่อคนในครอบครัวเลย เค้าพูดคำไหนก็คำนั้น กลัวเค้าโกรธ กลัวเค้าดุไปหมด มันไม่ใช่ตัวตนเราเลย เปลี่ยนไปจนแม่จับความรู้สึกได้
– เราจะรู้ได้ไงว่าคนที่เข้ามาคนไหนจริงใจ ไม่จริงใจ ?
จุ๋ม อุทุมพร : ตัวคนที่จะโดนกระทำไม่ระวังตัวอยู่แล้ว บางครั้งตัวเองทำงานเยอะแล้วไม่ทันระวังตัว คนที่จ้องจะทำร้ายมันก็ทำสำเร็จ ที่ผ่านมาพี่เป็นคนไม่ฟังคน คือการที่เค้าพูดอะไรแล้วไม่ฟังเค้า เค้าจะดูไม่มีความหมายไปเรื่อย ๆ เราเองก็จะไม่นับถือเค้าไปเรื่อย ๆ มันจะอยู่กันไม่ได้ ถ้าย้อนกลับไปได้ สมมุติว่าสามีพี่ พี่อาจจะฟังเค้ามากกว่านี้ ให้ความนับถือเค้ามากกว่านี้ ให้เวลาเค้ามากกว่านี้ อย่าเสพติดความสำเร็จ อย่าริเริ่มธุรกิจอะไรให้มันมากเกินกว่าความเป็นภรรยาและความเป็นแม่นัก ถ้าพี่ลดความสุดโต่งของพี่ลง พี่จะมีความสุขมากกว่านี้
– เป็นไปได้มั้ยที่จะกลับไปสร้างครอบครัวตัวเองให้สมบูรณ์อีกครั้งนึง ?
จุ๋ม อุทุมพร : เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เป็นเพื่อนสนิทกัน เราปรึกษากันได้ทุกเรื่องไม่ใช่เฉพาะแค่เรื่องลูกอย่างเดียว อยู่ในระดับนี้ดีแล้ว มีความสุขแล้วที่จะเจอกัน
– ยากมั้ยที่ลดระดับจากความเป็นคนรักมาเป็นเพื่อน ?
จุ๋ม อุทุมพร : มันยากตอนที่กำลังแตกกระจาย ไม่รู้จะรวมยังไงให้ติด เข้าหน้ากันก็ไม่ติด พูดจากันก็ไม่ดี อะไรนิดอะไรหน่อยก็หมดความอดทน ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ไม่ชอบเลย แต่เราก็ต้องรับผิดชอบว่าส่วนนึงเป็นการกระทำของเราที่เราไม่ฟังเค้าแล้วมันก็เกิดขึ้น
ขอขอบคุณ : คุยแซ่บShow
