อาหารที่แม่ทำมื้อสุดท้ายคือสามชั้นตุ๋น แต่ยังไม่ทันได้กิน

0

อาหารที่แม่ทำมื้อสุดท้ายคือหมูสามชั้นตุ๋น แต่ยังไม่ทันได้กิน

เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของน้องโฮตานิ มิสึกิ อายุ 25 ปี ที่คุณแม่ของเขานั้นจากไปเมื่อ 5 ปีก่อน และอาหารมื้อสุดท้ายที่แม่ของเขาทำนั่นก็คือหมูสามชั้นตุ๋น แต่ยังไม่ได้ทันได้กิน แม่ของเขาก็จากไปเสียแล้ว หลังจากวันนั้นคุณพ่อของเขาก็ได้เอาใส่ ทัพเพอร์แวร์เก็บไว้ให้ ผ่านไปนานก็กำลังจะเอาไปทิ้งแต่น้องก็ไม่ยอมให้เอาไปทิ้ง

จนกระทั่งถึง 5 ปี ก็เริ่มทำใจได้แล้ว เลยเขียนบอกรายการว่าอยากจะกินหมูจุ่มที่แม่ทำ ให้รายการช่วยหน่อยว่าจะกินได้ไหม

รายการเลยมาช่วยเอาหมูตุ๋นส่งไปตรวจที่แลปของมหาวิทยาลัยโตเกียวโนเงียว หาว่ามี เ ชื้ อ โ ร ค หรือเปล่าและกินได้มั้ย ทางแลปตรวจเสร็จแล้วก็บอกว่า มันมีพวก เ ชื้ อ แ บ ค ที เ รี ย อยู่ จะกินก็กินได้แต่อาจจะปวดท้องได้ ให้เอาไปผ่านความร้อน 100 องศาขึ้นไป พอรู้ว่ายังกินได้ ทางรายการเลยเชิญเชฟมาทำอาหารให้ถึงบ้าน

น้องบอกว่าอยากให้มันเป็นรสชาติเดิมของแม่ เชฟก็พยายามสุดชีวิต พอน้องกับพ่อได้ชิมก็บอกว่าอร่อยมาก เหมือนรสชาติของแม่เลย เชฟนี่ก็ซึ้ง ร้องไห้ตาม ถือเป็นเรื่องราวดี ๆ

กดดูไปทีละรูปนะคะ บรรยายเพิ่มในรูป

โฮตานิ มิสึกิ อายุ 25 เป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง อาศัยอยู่ในโตเกียว น้องได้เขียนจดหมายถึงรายการบอกว่า

“ฉันชอบหมูสามชั้นตุ๋นมากค่ะ มีเรื่องอยากขอร้องทีมงานคือ ฉันอยากกินหมูสามชั้นตุ๋นที่เก็บไว้ในตู้เย็นที่บ้านตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว หน้าตามันกลายเป็นสีขาวไปหมด เลยไม่รู้ว่ายังกินได้มั้ย แต่ยังไงก็อยากจะกินค่ะ ที่จริงหมูนั้นเป็นอาหารที่คุณแม่ที่เสียไปทำค่ะ โปรดช่วยให้ฉันได้ทานหมูตุ๋นที่แช่แข็งไว้นาน 5 ปีนั้นด้วยค่ะ”

รูปคุณแม่ที่เสียไปตอนอายุ 54 ปี

เก็บเอาไว้อย่างดีในตู้เย็น

หมูสามชั้นตุ๋นเมื่อ 5 ปีก่อน

น้องเล่าว่า เช้าวันนั้นก่อนที่จะออกไปมหาลัย แม่ถามว่าเย็นนี้อยากกินอะไร น้องก็ตอบว่าหมูสามชั้นตุ๋น และพอน้องกลับบ้านมาตอนเย็น เห็นคุณแม่ทรุดอยู่ เลยเรียกรถพยาบาล ตอนนั้นพี่สาวก็ไม่อยู่ พ่อก็ไปทำงานที่อเมริกาพอดี เหลือน้องเฝ้าแม่ทั้งคืนอยู่คนเดียว

น้องกลับบ้านมาตอนเช้า แค่เห็นหม้ออาหารที่แม่ทำทิ้งไว้ก็ร้องไห้แล้ว ไม่มีอารมณ์จะกินอะไรเลย วันต่อมาพ่อกลับจากอเมริกา และเอาใส่ทัพเพอร์แวร์เก็บไว้ให้ แม่ก็จากไป

เวลาผ่านไป คุณพ่อจะเอาไปทิ้ง น้องก็ไม่ยอมให้ทิ้ง จนตอนนี้ 5 ปี ก็ทำใจได้ เลยอยากกินหมูตุ๋นของแม่อีกครั้ง

ทางรายการก็ได้นำเนื้อบางส่วนไปที่มหาวิทยาลัยโตเกียว โนเงียว เพื่อหาดูว่ามี เ ชื้ อ โ ร ค อะไรมั้ย ทางอาจารย์ก็บอกว่า ผ่านไปตั้ง 5 ปี แค่คิดดูก็ไม่น่าจะกินได้แล้ว แต่ที่สำคัญคือ ตอนเก็บรักษา เก็บไว้ยังไง ก่อนเอาใส่ทัพเพอร์แวร์ อาหารโดน เ ชื้ อ ไปหรือยัง

พอส่องกล้องขยายดูก็เห็นว่ามันมี เ ชื้ อ แ บ ค ที เ รี ย อยู่บ้าง ก็ต้องตรวจละเอียดขึ้น

ตกตอนเย็น รายการก็โทรไปถามผลกับอาจารย์ที่แลป

อาจารย์ก็บอกว่า ถ้าจะกินก็กินได้ ให้เอาไปผ่านความร้อนมากกว่า 100 องศา ถ้ากินเข้าไปอาจจะมีโอกาสปวดท้องได้ น้องก็บอกว่าปวดท้องก็จะกิน

รายการเลยเรียกเชฟมาทำให้ถึงที่บ้านเลย ก็อธิบายให้ฟังว่าหมูตุ๋น 5 ปีมีที่มายังไง

น้องอยากให้รสชาติเหมือนเดิม ไม่ให้เชฟเปลี่ยนอะไร เชฟก็พยายามอย่างเต็มที่

จนได้หมูสามชั้นตุ๋นหน้าตาน่ากินมาก ๆ กลิ่นหอม

มาถึงเวลาชิม

ชิมมม

พอให้น้องชิม น้องก็บอกว่าอร่อยมาก ไม่รู้สึกเลยว่าเป็นของเมื่อ 5 ปีก่อน และรสชาติเหมือนเดิมกับรสชาติที่แม่ทำเลย

เชฟก็อิ่มเอมใจตามไปด้วย (นี่คือจุดสูงสุดของการเป็นเชฟครับ)

คุณพ่อก็ยืนยันอีกคนว่ารสชาติเดียวกัน

คิดถึงคุณแม่ไปตาม ๆ กัน

น้องก็ขอบคุณทางรายการ และบอกว่านี่ช่วยทำให้น้องสู้ต่อในวันข้างหน้าได้แล้ว

เป็นอย่างไรกันบ้างอ่านแล้วรู้สึกซึ้งเลยใช่ไหม ขนาด Admin อ่านแล้วยังน้ำตาคลอเลย เรื่องราวดีๆแบบนี้อย่าลืมที่จะแบ่งให้เพื่อนๆได้อ่านกันด้วยนะครับ

ขอขอบคุณ : JapaneseBaobao

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here