เจ้าของร้าน ให้ข้าวเหลือคนข้างทางกินทุกวัน 2 ปีผ่านไป มีคนเอารถหรูมาให้ เมื่อรู้ความจริง…

0

เจ้าของร้าน ให้ข้าวเหลือคนข้างทางกินทุกวัน 2 ปีผ่านไป มีคนเอารถหรูมาให้ เมื่อรู้ความจริง…

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่อยากให้ทุกคนได้อ่านกัน ซึ่งเป็นเรื่องราวที่มีผู้คนให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก เป็นเรื่องราวของพ่อค้าหนุ่มคนหนึ่งที่ได้มีการส่งต่อเรื่องราวเหล่านี้ จากต่างประเทศโดยเรื่องราวเหล่านี้มีอยู่ว่า

ผมได้เปิดร้านข้าวแกงกับตามสั่งแห่งหนึ่ง เนื่องจากในแถวนั้น มีคนงานเยอะก็เลยขายดิบขายดี เข้าปีที่ 2 ของการเปิดร้าน ได้มีคนจรจัดคนหนึ่ง ซึ่งผมเองไม่รู้ว่าเขามาจากไหน แต่เขาจะเดินมาวนเวียนอยู่แถวร้านเป็นประจำทุกวัน

ในหลายๆครั้งลูกค้าที่ร้านมักจะมีคนรังเกียจ ไม่ให้ไปอยู่หน้าร้าน แต่เจ้าของร้านก็ไม่ได้ไล่ให้เขาไปแต่ไกล และเนื่องจากอาหารที่ร้านมักจะเหลือทุกวัน เมื่อแขกกลับหมด ผมก็จะห่อให้แกกิน 1 กล่อง ผมขายอะไรแกก็กินอย่างนั้นแหละ

เพราะผมคิดว่า อาหารที่ผมขายไม่หมดนั้น ถ้าไม่ให้แกกินยังไงก็ต้องทิ้งอยู่ดี เลือกที่จะให้แกกินมันไม่ดีกว่าหรอ และหลังจากที่ผมให้เขากินเกือบจะทุกวัน ดูเหมือนว่าแกก็ค่อยๆย้ายถิ่นฐานมาอยู่แถวๆร้านของผมเลย

แม้ตัวผมเองจะไม่รู้ว่าแกนอนที่ไหนอะไรยังไง แต่เมื่อพอถึงเวลากินข้าวแกก็จะโผล่มาอยู่ตรงหน้าร้านทุกวัน ถ้าวันไหนแกไม่มาผมเองก็จะรู้สึกไม่ค่อยชิน จะเป็นแบบนี้เกือบทุกวัน

แล้วอยู่ดีๆ วันหนึ่งแกก็หายไปไม่มาอีกเลย ผมคิดว่าแกคงย้ายไปที่อื่นแล้ว…

เวลาผ่านไปสองปี เช้าตรู่วันหนึ่ง ผมเปิดประตูร้านเตรียมเปิดร้านตามปกติ ก็เห็นรถใหม่เอี่ยมคนนึงมาจอดอยู่หน้าประตู ผมไม่ได้สนใจอะไร คิดว่าเป็นคนผ่านไปมามาจอดทำธุระ

แล้วก็มีผู้ชายสองคนเดินลงมาจากรถ ตรงมาที่ผม ผมมองหน้า ไม่รู้จัก ไม่รู้ว่าพวกเขามาทำไม แล้วตอนนั้นเอง ผู้ชายคนที่ดูหนุ่มกว่าก็เดินมาหยุดข้างหน้าผม ถามว่า… เถ้าแก่เจ้าของร้านใช่มั้ยครับ? ผมตอบว่าใช่ เขารีบคุกเข่าลงต่อหน้าผม ผมตกใจมาก รีบถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วเขาก็เล่าให้ฟัง…

ที่แท้ ชายคนนี้เป็นลูกของชายคนจรจัดที่เคยมากินข้าวร้านผมเป็นประจำ

เมื่อ 10 ปีที่แล้วพ่อของเขาหนีออกจากบ้านมาเพราะป่วย แล้วเขาก็ไม่ได้ข่าวอีกเลย 10ปีมานี้เขาและที่บ้านพยายามตามหาพ่อมาตลอด แต่หายังไงก็หาไม่เจอ

แต่อยู่ดีๆ วันหนึ่งพ่อก็กลับมาที่บ้าน เขาก็เลยรีบพาพ่อไปหาหมอ หลังจากรักษาได้สองปี พ่อก็หาย พอท่านได้สติประโยคแรกของท่านก็คือ

ขอให้ผมพาท่านมาขอบคุณผู้มีพระคุณ และผู้มีพระคุณคนนั้นก็คือเถ้าแก่ ผู้ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ เขาก็คือพ่อเขานั่นเอง

พ่อของเขาแตกต่างจากชายจรจัดคนนั้นเป็นคนละคน ถ้าเขาไม่บอกผมไม่มีทางรู้ แล้วชายหนุ่มก็พูดต่อ เขาทำธุรกิจได้เงินมาไม่น้อย ก็เลยซื้อรถมาเป็นของตอบแทนที่ผมเคยช่วยดูแลพ่อเขาไว้

ผมได้ยินก็ยืนกรานไม่ยอมรับ พ่อเขาก็เลยว่า ถ้าผมไม่ยอมรับ พวกเขาก็จะคุกเข่ารอจนกว่าจะรับ ผมไม่มีทางเลือก ก็เลยโอเคไป

นับจากนั้นมา ทุกปี สองพ่อลูกจะต้องมาที่ร้านปีละครั้งสองครั้ง มานั่งคุย มากินอาหารที่ร้าน ชายหนุ่มบอกว่า พ่อเขาพูดว่า ถ้าตอนนั้นผมไม่ได้ให้ข้าวเขากิน เขาก็คงไม่รอด อย่างหมาข้างถนนไปแล้ว อาหารที่ร้านผม เป็นสิ่งที่เขาจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต

ขอบคุณข้อมูลจาก : แชร์สดออนไลน์

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here