อยู่กรุงเทพอายุ 42 ต้องมีรายได้ต่อเดือน เงินเก็บเท่าไหร่ถึงจะอยู่อย่างมีความสุข

0

อยู่กรุงเทพอายุ 42 ต้องมีรายได้ต่อเดือน เงินเก็บเท่าไหร่ถึงจะอยู่อย่างมีความสุข

ตอนนี้ผมอายุ 40 กว่าแล้ว เมื่อก่อนทำงานเป็นครูโรงเรียนประถมมีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาทต่อเดือน ผมเคยลงทุนทำธุรกิจเปิดร้านคอมสุดท้ายก็เจ้ง และก็ทำให้ชีวิตของผมต้องมีหนี้ที่จะต้องผ่อนชำระพอสมควร

เมื่อ 2 ปีที่แล้วเพื่อนสมัยเด็กชอบชักชวนให้เลิกเป็นครู แล้วออกมาทำเป็นอาชีพเซลล์ขายอาหารปลาคาร์ฟ เพราะเห็นว่าผมเป็นคนที่ชอบเลี้ยงปลาคาร์ฟมาตั้งแต่เด็ก เป็นเซลล์ทำให้มีรายได้ดีขึ้นแต่การเปลี่ยนอาชีพสำหรับคนที่อายุ 40 มันไม่ง่ายเลย

ผมไม่เคยเป็นเซลล์ขายของ ไม่เคยขายของมาก่อนเลย ต้องปรับปรุงเยอะมาก บ่อยครั้งที่จะต้องขับรถไปไกลและโดนคนปฏิเสธไม่ซื้อ แล้วต้องเลิกงานกลับดึกทุกวัน บางวันก็เหนื่อยยอมรับว่าท้อแท้มาก คิดที่อยากจะเลิกกันหลายครั้ง

แต่เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้บังเอิญได้มาพูดคุยกับคุณตาตัวเล็กๆท่านหนึ่ง พี่เขากำลังยืนขายข้าวเหนียวหมูทอดอยู่หน้าสะพานรถไฟฟ้า BTS ฝั่งสถานีธนบุรี เราคุยกันได้ประมาณ 15 นาที ซึ่งเป็น 15 นาทีที่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดเชิงลบของผมไปเลย

คุณตากำจัด คุณตาท่านนี้แกชื่อว่ากำจัด จริงๆผมเคยเห็นแกขายข้าวเหนียวหมูทอดอยู่ตรงนี้มาเดือนกว่าๆแล้ว แต่ผมไม่เคยซื้อของแกกินเลย เรียกว่าไม่เคยนึกสนใจแกมาก่อนด้วยซ้ำ

จนกระทั่งช่วงที่ผมเริ่มเครียดหนักเข้ามากๆ ตอนนั้นมันเหมือนกับว่าผมพยายามมองหาคนประเภทเดียวกับผม คือดูแล้วน่าจะมีปัญหาชีวิตคล้ายๆกัน เพื่อมาทดแทนความรู้สึกที่ว่าเราไม่ได้เครียดอยู่คนเดียว ตอนนั้นผมคิดว่าคุณตาแก่ๆแบบนี้ ทำไมยังมายืนทำงานขายของตากแดด เขาอาจจะมีชีวิตที่แย่เหมือนกับเราก็ได้ แต่อีกความรู้สึกหนึ่งมันก็ขัดๆกันนิดหน่อยตรงที่แกจะยิ้มแย้มให้ผู้คนที่เดินไปมาตลอด

ก็อดคิดไม่ได้ว่าแกอาจจะเป็นคนมีตังค์แต่เบื่ออยู่บ้าน เลยออกมาขายของพูดคุยกับคนอื่นเล่นๆตามประสาคนแก่รึเปล่า และด้วยความอยากรู้นี้ ผมจึงเดินเข้าไปหาแก

แกจะยิ้มของแกแบบนี้ตลอดเวลามีใครเข้าไปพูดคุย ใครผ่านไป ผ่านมาละแวกนี้ไปอุดหนุนหรือพูดคุยกับแกได้นะครับ

ผมเดินทำทีไปซื้อข้าวเหนียวหมูร้านแก ก็เห็นว่าแกทำมาเป็นชุดๆวางใส่กล่องไม้ใบเล็กๆมาขาย หน้ากล่องไม้จะแปะกระดาษ A4 มีข้อความว่าหมูทอดชุดละ 30 บาท

ก็ลองถามแกเล่นๆว่าวันนึงคุณตาทำมาขายเยอะมั๊ยครับ?

แกยิ้มให้และตอบว่า “วันละ 25 ชุด ขายหมดบ้างไม่หมดบ้างแล้วแต่วัน” ผมคำนวณตัวเลขในใจ 30 บาท ขาย 25 ชุด ได้ 750 บาทต่อวัน

ก็ถามแกว่ากำไรดีมั๊ยครับ แกก็บอกว่าถ้าขายหมดก็ได้กำไรประมาณ 300 บาท แต่ขายไม่ได้หมดทุกวัน เหลือนิดๆหน่อยๆ และขายเฉพาะวันจันท์-ศุกร์

ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ต้องพัก เพราะแถวนั้นขายคนทำงานออฟฟิตตึกสินสาธร และ ที่จะขึ้น BTS กรุงธนบุรีไปทำงาน

ผมสอบถามดูก็รู้ว่าแกอายุ 81 ปีแล้ว ตอนนั้นผมรู้สึกว่าแกยังดูไม่แก่ขนาดนั้น ดูเหมือนแกสุขภาพดี ใบหน้ายิ้มแย้มตลอด ผมบอกว่าคุณตา ยังดูไม่แก่ขนาด 80 กว่าปีเลยนะ

เลยถามแกว่าดูแลตัวเองยังไงครับ คุณตากำจัดก็บอกว่า “ไม่ได้ทำอะไรหรอก คือถ้าเรามีความสุข เราก็จะสุขภาพดี มันเลยดูไม่ค่อยแก่ เรื่องปวดเมื่อยตามร่างกายมันก็มีเป็นธรรมดา แต่ถ้าใจเราไม่ไปนึกถึงมัน มันก็จะไม่รู้สึกปวด” คำพูดของแกตอนนั้นดังชัดในใจผมมากๆ เพราะตรงกับสิ่งที่ผมกำลังต้องการเลย ผมต้องการกำลังใจ ต้องการแนวคิดที่จะช่วยสร้างแรงกายแรงใจให้ตัวเอง

ผมเลยหาเรื่องคุยกับแกไปเรื่อยๆ แกก็เล่าประสบการณ์ชีวิตต่างๆให้ฟัง สรุปความได้ว่า ทุกวันนี้แกเช่าบ้านคนแถวนี้อยู่ เดือนละ 3,000 บาท ไม่มีทีวี ไม่มีตู้เย็น คือมียังไงก็อยู่อย่างงั้น ทั้งที่เมื่อก่อนแกเคยมีครอบครัว มีรถมีบ้าน มีหน้าที่การงานมั่นคง แต่ด้วยความที่ภรรยาติดการพนันและถูกเจ้าหนี้ยึดทรัพย์สินต่างๆไปจนหมด หลังจากนั้นก็ทะเลาะและเลิกรากันไปนานแล้ว แกรู้สึกเข็ดกับการมีชีวิตคู่ ก็เลยตัดสินใจใช้ชีวิตตัวคนเดียวมาตลอด

แกบอกว่าทุกวันนี้แกทำงานด้านการกุศลเป็นผู้ตรวจการลูกเสือชาวบ้าน และมีรายได้หลักจากการขายข้าวเหนียวหมู มีคนใจดีให้ทุนแกเริ่มต้นทำ แต่กำไรก็ไม่เยอะ แกทำเท่าที่พอทำไหว เพราะด้วยอายุอานามขนาดนี้ แกขอพอมีพอกินอยู่รอดก็พอใจแล้ว

แกบอกว่าเดือนนึงก็ขายได้กำไรประมาณ 5,000 บาท ผมถามว่าค่าเช่าบ้านก็ 3,000 แล้ว ตาจะกินพอได้ยังไง แกก็บอกว่าแกกินวันละมื้อเดียว และกินน้ำแทน “ผมทำแบบนี้เป็นปกติเพราะผมเคยบวชพระมาหลายพรรษา ผมกินอยู่แบบพระ กินวันละมื้อก็อยู่ได้แล้ว คนเราถ้ามีความสุขความพอใจในสิ่งที่มีมันก็อยู่ได้ ไม่เครียด สุขภาพก็ไม่ได้แย่ เพราะใจมันไม่ทุกข์”

“ถามว่ามีเท่านี้แล้วใช้พอไหม ตรงนี้มันไม่ได้อยู่ที่เงิน แต่มันอยู่ที่ใจ ถ้าเราพอใจ อยู่ตรงไหนเราก็มีความสุขได้เหมือนกัน สำหรับผม ผมพอแล้ว”

วันนั้นผมอิ่มมากๆ ครับ ข้าวเหนียวหมูนั้นอีกเรื่อง แต่ที่อิ่มมากๆคืออิ่มสุข อิ่มกำลังใจมากๆ จากที่ผมต้องการหาแนวร่วมของคนมีทุกข์ แต่ผมกลับได้แนวทางจากคุณตาแก่ๆ ที่ผ่านความลำบากมามากกว่าผม ถ้าพูดกันตามตรงชีวิตแกแย่กว่าผมอีก แกล้มเหลวกับชีวิตครอบครัว และทุกวันนี้ก็มีรายได้น้อยมาก มันแย่ตรงที่รายได้น้อยแถมยังต้องตื่นตีสี่มาทำของขายตอน 7 โมงเช้าทั้งๆ ที่วัยอย่างคุณตาควรจะอยู่บ้านพักผ่อนสบายๆได้แล้ว แต่กลับกัน แกดูมีความสุขกว่าผมตั้งเยอะ

จากที่ถามตัวเองมาตลอดว่าทำยังไงถึงจะหารายได้มากๆ ให้พอกับความต้องการของตัวเองและครอบครัว ตอนนี้ผมถามตัวเองใหม่แล้ว ว่าทำยังไงถึงจะมีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่ ผมคำนวณดูแล้วว่าถ้าผมกินอยู่ง่ายๆ รายได้ตอนนี้มันก็พอกับรายจ่าย แต่เพราะที่ผ่านมาผมคิดแต่ว่าอยากใช้ชีวิตแบบที่เคยใช้ กินอะไรก็กิน ซื้ออะไรก็ซื้อ และผมโชคดีที่มีคนรักอยู่เคียงข้าง ไม่ทิ้งกันไปไหน วันนั้นผมไม่รู้จะขอบคุณคุณตา ยังไง ทำได้คือซื้อข้าวเหนียวหมูคุณตามา 10 กว่าถุง

วันนั้นผมจำได้ว่ายกมือไหว้ขอบคุณแกหลายครั้งมาก และมากจนจำไม่ได้เหมือนกันว่าขอบคุณไปกี่ครั้ง เพราะผมคิดว่าขอบคุณเท่าไหร่ก็ไม่มากพอกับคำสอนของแกที่ล้างความคิดเชิงลบของผมไปจนหมด

คุณตากำจัดแกจะยืนขายข้าวเหนียวหมูอยู่ใกล้ๆกับคอนโด Q House ใกล้ทางลงรถไฟฟ้า BTS ธนบุรี แกขายตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 10 โมงครับ

ข้าวเหนียวหมูทอดฝีมือคุณตากำจัดครับ อร่อยและเยอะดี

หลังจากวันนั้นผมก็มักแวะเวียนไปซื้อของและทักทายแกอยู่เสมอ

ที่ผมเขียนเล่าเรื่องของคุณตากำจัด หนึ่งคืออยากเล่าเรื่องที่ผมไปเจอมา เผื่อเพื่อนคนไหนกำลังท้อแท้จะได้มีกำลังใจและคิดบวก ขึ้นมาบ้าง

สองถ้าใครที่ได้เดินผ่าน BTS กรุงธนบุรีฝั่นคอนโด Q House และได้อ่านบทความนี้ แวะทักทายคุยตาจำกัด บ้างแกคงดีใจ ทุกวันนี้แกต้องยืน 4 ชั่วโมง จันทร์ถึงศุกร์ เพื่อขายข้าวเหนียวหมูทอด 25 ชุด บางวันก็ขายหมด บางวันก็ไม่หมด ถ้าคนได้อ่านบทความนี้อาจจะอยากแวะซื้อ ข้าวเหนียวหมูทอดชิม

อย่างน้อยก็ถือว่าได้ช่วยให้คุณตาไม่ต้องยืนขายของนานหลายชั่วโมงอย่างที่เป็นมา แกจะได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น สุดท้ายผมอยากให้เรื่องราวของคุณตาถูกส่งต่อเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังมีความรู้สึกท้อแท้ในชีวิตได้เปลี่ยนวิธีคิดใหม่ และมีแรงพลังในการดำเนินชีวิตต่อไปเหมือนกับคุณตากำจัดคนนี้ครับ

ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า ถ้าผมพอ ผมก็มีความสุขได้ ณ วันนี้เลย พอเห็นรอยยิ้มอิ่มสุขจากคุณตา ผมเองก็จะต้องยิ้มให้ได้แบบนี้เหมือนกัน

ขอขอบคุณ : น้าเดชนะจ๊ะ

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here