เสียเงินซื้อโสมแพงๆไปทำไม ในเมื่อสมุนไพรตัวนี้ถูกกว่า ดีกว่า

0

เสียเงินซื้อโสมแพงๆไปทำไม ในเมื่อสมุนไพรตัวนี้ถูกกว่า ดีกว่า

กระชายดีกว่าโสมตรงไหน? ไม่ว่าโสมชนิดใดก็มีคุณสมบัติพิเศษคือ ศาลทั้งหลายที่อยู่ในโสมนั้นมีทั้งสารที่ดีและสารไม่ดี เมื่อรับประทานเข้าไปจะหมุนเวียนอยู่ในร่างกาย

ยาบางตัวที่ทานเข้าไปนั้นสามารถขับถ่ายล้างออกไปได้ บางทีเรากินหัวไชโป๊หรือกินอะไรเข้าไปก็จะล้างออกหมด แต่โสมล้างเท่าไหร่ก็ล้างไม่ออก กินไปนานๆมันจะหมุนเวียนอยู่ในร่างกายทำให้เลือดเหนียว แล้วจะทำให้ทางเดินเลือดแข็ง แขนแข็ง ขาแข็ง ยืดเหยียดลำบาก นั่งๆนอนๆจะลุกเดินไปไหนก็ลำบาก นี่คือผลจากการกินโสม

แต่โสมล้างเท่าไหร่ไม่ออก พอกินไปนานๆ มันจะหมุนเวียนอยู่ในร่างกายเรา ทำให้เลือดเหนียว เลือดเหนอะ แล้วจะเดินตัวแข็ง แขนแข็ง ขาแข็ง ยืดขาลำบาก นั่งนานๆ ไม่ได้ นั่งนานจะลุกลำบาก นั่นเป็นผลจากการกินโสม

ในประเทศไทยเรามีสมุนไพรไทยตัวหนึ่งเหมือนโสมทุกอย่างในด้านดี คุณประโยชน์ด้านดีเหมือนโสมทุกอย่าง เสียอย่างเดียวมันไม่มีสารพิษแบบโสม ราคาเลยถูกกว่าเยอะ

ตัวนั้นคือกระชาย แล้วกระชายที่ดีที่สุดต้องเป็น กระชายเหลือง (กระชายเหลืองคือกระชายที่ใช้ปรุงเครื่องแกงต่างๆ) คุณสมบัติของกระชายที่มีตัวยาสูงสุดคือ กระชายเหลือง รองลงมาคือ กระชายแดง แล้วตัวบ๊วยคือ กระชายดำ ที่คนไทยเราไปเห่อและไปโปรโมทตัวบ๊วยคือ กระชายดำ จนทำให้ราคาแพง แล้วก็เอาไปกินกันยกใหญ่

เรื่องมีอยู่ว่าครั้งหนึ่งอาจารย์สุทธิวัสส์ คำภา ท่านไปบรรยายที่จังหวัดเลย คนมีปัญหาโรคไตถามว่าจะต้องกินอะไร อาจารย์แนะนำให้ดื่มน้ำกระชาย คนอีสานเขาไม่รู้จักกระชาย แต่เขาพยายามไปหามา เขาไปขุดหัวกระชายดำมาให้ดูว่าอย่างนี้ใช่หรือเปล่า ธรรมดาสมุนไพรสีดำทุกชนิดจะช่วยบำรุงไต ไม่ว่าจะเป็นขิงดำ กระชายดำ ไพรดำ

อาจารย์เห็นว่าเป็นกระชายดำก็บำรุงได้ จึงบอกว่าให้เอาไปดื่มปรากฎว่าหลังจากนั้นหายจากโรคไต เลยร่ำลือกันใหญ่ว่ากระชายดำรักษาไตได้ แล้วต้องเป็นกระชายดำจังหวัดเลย เพราะว่าคนหายคนแรกอยู่ที่จักหวัดเลย จนกระทั่งกระชายดำราคากิโลกรัมละ 200 บาท กระชายธรรมดากิโลกรัมละ 20 บาท ต่อมาอาจารย์สุทธิวัสส์พูดชี้แจงความจริงทางรายการวิทยุ จนตอนนี้กระชายดำเหลือกิโลกรัมละ 20 บาท กระชายเหลืองกิโลกรัมละ 40 บาท ทำเอากระชายเหลืองขึ้นราคา เพราะคนดื่มกันมากแล้วทำเป็นเครื่องดื่มได้อร่อย

วิธีทำ

คือเอากระชายมาตำ หรือปั่นแลัวคั้นน้ำ จะได้หัวเชื้อกระชาย ถ้าอยากให้ไม่มีกลิ่นฉุนก็ใส่ใบกระเพรา ใบโหระพา ลงไปด้วยจะได้ช่วยดับกลิ่นกระชาย แต่จะได้สรรพคุณคือเพิ่มเม็ดเลือดขึ้นมา

คนที่นิยมกินหญ้าปักกิ่ง กินแล้วท้องอืด ถ้าใส่น้ำกระชายลงไปจะเสริมสรรพคุณหญ้าปักกิ่งให้ดีขึ้น น้ำใบบัวบกผสมกับน้ำกระชายบำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้ดีมาก

‍‍สูตรมาตรฐานวิธีทำน้ำกระชายสำหรับดื่ม‍‍

นำเอากระชายเหลือง (กระชายที่ใส่ผสมในเครื่องแกง) มา 500 กรัม(ครึ่งกิโลกรัม) ปั่นกับน้ำ 2 ลิตร แล้วกรองเอาแต่น้ำ ถ้ากลัวกลิ่นกระชายไม่หอม ให้ใส่ใบกระเพรา ใบโหระพา หรือใบบัวบก อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือจะใส่ทุกอย่างก็ได้ลงปั่น และถ้าเป็นใบบัวบกจะช่วยบำรุงสมองได้ด้วย ไม่มีกลิ่นกระชายนำมาดื่มได้ทันที เหลือเก็บไว้ในตู้เย็น ถ้าจะปรุงรสเพิ่มเติมเพื่อความอร่อยให้ดื่มง่าย

สำหรับคนไม่ชอบกลิ่นกระชาย เวลาดื่มให้รินน้ำกระชายเพียงครึ่งแก้ว แล้วเติมสไปรท์ หรือเซเว่นอัฟ ถ้าเป็นเด็กก็ให้เติมเฮบลูบอยสีเขียวจะหอมมาก และใส่โซดา ส่วนผสมไม่มีสูตรตายตัว ให้ถือเอาความอร่อยความถูกปากถูกใจผู้ดื่มเป็นสำคัญ

เด็กๆ ถ้าให้ดื่มบ่อยๆ จะไม่ค่อยป่วย ผู้ใหญ่ดิ่มเป็นประจำจะทำให้หัวใจแข็งแรง บำรุงไต บำรุงหัวใจ บำรุงสมอง บำรุงกระดูก ปรับความดันสูงไป หรือต่ำไป ปรับให้พอดี และปรับฮอร์โมนผู้หญิง เพราะถ้ามีฮอร์โมนมากไปจะเป็นมะเร็งเต้านม ฮอร์โมนน้อยไปก็จะเป็นมะเร็งมดลูก กระชายจะปรับให้สมดุล ใครความดันมากก็จะลด ใครความดันต่ำก็จะเพิ่ม ประโยชน์ของการกระชาย กระชายไม่เพิ่มฮอร์โมน แต่ปรับฮอร์โมน

คนกระผุ กระดูกพรุน หมอบอกว่าเป็นโรคกระดูกบาง ให้ดื่มพักเดียวไปตรวจใหม่หมอจะงงว่าทำไมกระดูกตัน น้ำกระชายยังเป็นตัวหนึ่งที่บำรุงสำหรับคนที่เป็นเบาหวาน

สรรพคุณของกระชาย

ในน้ำกระชาย 1 แก้ว มีคุณค่าสูงกว่านม 1 แก้วหลายๆเท่า มีวิตามิน ซี บี 1 บี 3 บี 5 และแคลเซี่ยม

– ช่วยให้ เส้นผมแข็งแรง ผมขาวกลับดำ ผมบางกลับหนา มีแคลเซียมสูง ช่วยบำรุงเส้นเอ็นให้แข็งแรง กระดูกไม่เปราะบาง

– ช่วยบำรุงหัวใจ ระบบกล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง เต้นสม่ำเสมอ ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหัวใจได้ดีขึ้น

– ช่วยย่อยอาหาร แก้โรคกระเพาะ ช่วยขับลม แก้ลมจุกเสียด แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยเจริญอาหาร

– แก้โรคในช่องปากและคอ แก้โลหิตเป็นพิษ ถอนพิษต่างๆ แก้ปวดมวนในท้อง แก้บิดมูกเลือด เป็นยาขับปัสสาวะ เป็นยารักษาริดสีดวงทวาร รักษาแผลในปาก กลาก เกลื้อน

– บำรุงสมอง เพราะช่วยให้เลือดเลี้ยงสมองส่วนกลางดีขึ้น ถ้ากินคู่กับใบบัวบก จะบำรุงสมองได้โดยตรง ต้องกินเป็นประจำเพื่อป้องกันความจำเสื่อม

– ปรับสมดุลของความดันโลหิตให้พอดี ไม่ให้สูงมากหรือต่ำมากเกินไป

– ช่วยบำรุงตับไตให้แข็งแรง ช่วยให้ไตทำงานได้ดีขึ้น ดูแลระบบมดลูก รังไข่ กระเพาะปัสสาวะ ดูแลหูรูดกระเพาะปัสสาวะให้แข็งแรง

– ช่วยฟื้นฟูต่อมไร้ท่อต่างๆ เช่น ต่อมไธรอยต์ ต่อมใต้สมอง ต่อมหมวกไต และตับอ่อน เมื่อต่อมไธรอยต์ปกติดีจะไม่เป็นโรคคอพอก และยังมีส่วนในการช่วยลดกรดยูริค

– ช่วยบำรุงมดลูก แก้ตกขาว ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนแอสโตรเจน ในเพศหญิง เนื่องจาก ถ้าผู้หญิงมีฮอร์โมนเพศหญิงในตัวมากเกินไปก็อาจเป็นมะเร็งเต้มนม หรือถ้ามีน้อยไปก็อาจจะเป็นมะเร็งปากมดลูก ช่วยซับน้ำคาวปลา สตรีหลั่งคลอดบุตร ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ในเพศชาย ควบคุมไม่ให้ต่อมลูกหมากโต แก้ปัญหาไส้เลื่อน ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงกำลัง ทำให้กระปรี้กระเปร่า และใช้บำบัดโรคกามตายด้าน ทำให้กระชุ่ม กระชวย มีกำลัง เสริมสมรรถทาพทางเพศอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย

กระชาย ถ้านำไปเปรียบกับโสม ราคามันต่างกันราวฟ้ากับดิน ของถูกๆ คนไทยไม่นิยม ชอบของแพงตามภาษาของคนรสนิยมสูงรายได้ต่ำ

ขอขอบคุณ : รักษ์สุขภาพ

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here