7 เมนูอาหารแคลเซียมสูง กินช่วยบำรุงกระดูกและฟัน แก้ปวดเมื่อย

0

7 เมนูอาหารแคลเซียมสูง กินช่วยบำรุงกระดูกและฟัน แก้ปวดเมื่อย

อายุมากขึ้น ปัญหาต่างๆที่จะเกิดขึ้นกับสุขภาพร่างกายของเราก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ในเรื่องของสุขภาพ กระดูกที่ไม่ค่อยแข็งแรงและหนึ่งในปัญหาที่จะต้องเกิดขึ้นแน่ๆ นั้นคือ อาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อต่างๆ สาเหตุหนึ่งนั้นมาจากการที่เราได้ขาดสารอาหาร ที่จะมีส่วนช่วยบำรุงและเสริมความแข็งแรงในเรื่องของกระดูกและฟัน และในวันนี้เราได้มีเมนูอาหาร ที่มีส่วยช่วยเสริมแคลเซียมที่จะสามารถช่วยทำให้กระดูกของเราแข็งแรงยิ่งขึ้น

อาหารประจำชาติที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์จนทำให้ชาวต่างชาติติดใจกัน จนต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลมารับประทานอาหารของทางบ้านเราแบบแท้ ๆ นอกจากจะเต็มไปด้วยคุณค่าทางอาหารและสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพแล้ว หลายๆ เมนูยอดฮิตก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยแคลเซียม สารอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกระดูกและฟันได้อย่างไม่น่าเชื่อ บางทีหนึ่งในเมนูนั้นอาจเป็นจานโปรดของคุณก็ได้ เรามาดูกันเลย เมนู 7 อาหารที่ว่ามานี่ มีเมนูอะไรบ้าง

น้ำพริกกะปิ – ปลาทู

เมนูอาหารแบบเรียบง่ายนี้ขอบอกเลยว่ามีแคลเซียมสูงปรี๊ดเลยเชียวล่ะ เพราะส่วนประกอบแต่ละอย่างที่อยู่ในน้ำพริกนั้นมีแคลเซียมอยู่ทั้งนั้นเลย แถมยังมีสารอาหารอื่น ๆ ที่สำคัญอีกด้วย โดยในแต่ละส่วนผสมของเมนูนี้มีปริมาณแคลเซียมดังนี้

กะปิ : มีปริมาณแคลเซียม 1,556 มิลลิกรัม ต่อกะปิ 100 กรัม

พริกขี้หนู : มีปริมาณแคลเซียม 4 มิลลิกรัมต่อพริก 100 กรัม

กระเทียม : มีปริมาณแคลเซียม 5 มิลลิกรัมต่อกระเทียม 100 กรัม

กุ้งแห้ง : มีปริมาณแคลเซียม 2,305 มิลลิกรัมต่อกุ้งแห้ง 100 กรัม

หอมแดง : มีปริมาณแคลเซียม 16 มิลลิกรัมต่อหอมแดง 100 กรัม

ปลาทูทอด : มีปริมาณแคลเซียม 136 มิลลิกรัมต่อปลาทู 100 กรัม

ยำถั่วพู

ถั่วพูเป็นอาหารที่มีปริมาณแคลเซียมสูงมากพอตัว ถือเป็นอาหารชั้นยอดของในตระกูลถั่วทั้งหมด นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนผสมอื่น ๆ เช่นกุ้งสด พริกแห้ง และหอมเจียวที่มีปริมาณแคลเซียมสูงเช่นเดียวกันค่ะ ซึ่งปริมาณแคลเซียมของยำถั่วพูมีดังนี้

ถั่วพู : มีปริมาณแคลเซียม 33 มิลลิกรัมต่อถั่วพู 100 กรัม

กุ้งสด : มีปริมาณแคลเซียม 63 มิลลิกรัมต่อกุ้งสด 100 กรัม

พริกแห้ง : มีปริมาณแคลเซียม 59 มิลลิกรัมต่อพริกแห้ง 100 กรัม

หอมแดงเจียว : มีปริมาณแคลเซียม 16 มิลลิกรัมต่อหอมแดง 100 กรัม

ผักคะน้าผัดน้ำมันหอย

ผักคะน้าเป็นผักที่มีปริมาณแคลเซียมสูสีกับนมสดเลยล่ะค่ะ แถมยังมีกากใยสูงช่วยในการขับถ่ายอีกด้วย ใครที่ชอบรับประทานผักเมนูนี้ไม่ควรพลาดเลยเชียวล่ะ โดยปริมาณแคลเซียมในอาหารจานนี้มีดังนี้

ผักคะน้า : มีปริมาณแคลเซียม 245 มิลลิกรัมต่อผักคะน้า 100 กรัม (เทียบเท่ากับการดื่มนม 1 แก้ว)

ลาบเต้าหู้

เต้าหู้ อีกหนึ่งอาหารที่ถือว่าอุดมไปด้วยแคลเซียม แถมยังมีไขมันต่ำและไม่มีคอเลสเตอรอล เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะคนในวัยทอง เพราะเต้าหู้นั้นมีปริมาณของสารไฟโดเอสโตรเจน ซึ่งถือว่าเป็นสาร­­­ที่จำเป็นต่อสตรีในวัยหมดประจำเดือนที่ต้องการฮอร์โมนเอสโตรเจ­­น­ค่ะ ซึ่งปริมาณของแคลเซียมของอาหารจานนี้มีเยอะกว่าที่คาดด้วยล่ะ

เต้าหู้ : มีปริมาณแคลเซียม 250 มิลลิกรัมต่อเต้าหู้ 100 กรัม

ก๋วยเตี๋ยวใส่ลูกชิ้น

ใครจะไปเชื่อล่ะว่าเมนูก๋วยเตี๋ยวที่หลาย ๆ คนชื่นชอบจะมีแคลเซียมสูง ขอบอกเลยล่ะค่ะว่าทั้งเส้น และลูกชิ้นในก๋วยเตี๋ยวน่ะมีแคลเซียมที่ดีกับร่างกายเลย นอกจากนี้ผักอย่างเช่นถั่วงอกก็มีแคลเซียมเหมือนกัน ไปดูกันเลยว่าปริมาณแคลเซียมของอาหารจานนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง

เส้นใหญ่ : มีปริมาณแคลเซียม 10 มิลลิกรัมต่อเส้นก๋วยเตี๋ยว 100 กรัม

เส้นเล็ก : มีปริมาณแคลเซียม 12 มิลลิกรัมต่อเส้นก๋วยเตี๋ยว 100 กรัม

เส้นบะหมี่ : มีปริมาณแคลเซียม 78 มิลลิกรัมต่อเส้นก๋วยเตี๋ยว 100 กรัม

เส้นหมี่ : มีปริมาณแคลเซียม 21 มิลลิกรัมต่อเส้นก๋วยเตี๋ยว 100 กรัม

ลูกชิ้นเนื้อ : มีปริมาณแคลเซียม 8 มิลลิกรัมต่อลูกชิ้น 100 กรัม

ลูกชิ้นหมู : มีปริมาณแคลเซียม 27 มิลลิกรัมต่อลูกชิ้น 100 กรัม

ลูกชิ้นกุ้ง : มีปริมาณแคลเซียม 89 มิลลิกรัมต่อลูกชิ้น 100 กรัม

ลูกชิ้นปลา : มีปริมาณแคลเซียม 64 มิลลิกรัมต่อลูกชิ้น 100 กรัม

ถั่วงอก : มีปริมาณแคลเซียม 45 มิลลิกรัมต่อถั่วงอก 100 กรัม

แกงจืดตำลึง

เมนูพื้นๆ ง่ายๆ อย่างนี้ก็คงคาดไม่ถึงใช่ไหมละคะว่าจะมีปริมาณแคลเซียมสูงจนต้อ­­­งเอามาแนะนำเลย เพราะนอกจากตำลึงจะมีไฟเบอร์แล้วก็ยังมีวิตามินซีและฟอสฟอรัส ที่สำคัญปริมาณแคลเซียมก็สูงเช่นกัน ยิ่งถ้าหากนำมาทำแกงจืดใส่เต้าหู้ด้วยละก็ โหย แคลเซียมจัดเต็มสุดๆ เลยล่ะจะบอกให้

ผักตำลึง : มีปริมาณแคลเซียม 126 มิลลิกรัมต่อตำลึง 100 กรัม

เต้าหู้ : มีปริมาณแคลเซียม 250 มิลลิกรัมต่อเต้าหู้ 100 กรัม

ยำมะม่วงปลากรอบ

รสชาติเปรี้ยวและเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดของอาหารจานนี้ ขอบอกเลยว่าได้แคลเซียมไปเต็ม ๆ เพราะนอกจากแคลเซียมจากปลาตัวเล็กทอดกรอบ มะม่วง และกุ้งแห้งแล้ว วิตามินซีในน้ำมะนาวที่ใช้ในการปรุงแต่งรสชาติก็ยังช่วยทำให้ร่­­­างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้นอีกด้วย

มะม่วงดิบ : มีปริมาณแคลเซียม 14 มิลลิกรัมต่อมะม่วง 100 กรัม

ปลาตัวเล็กทอดกรอบ : มีปริมาณแคลเซียม 860 มิลลิกรัมต่อปลา 100 กรัม

กุ้งแห้ง : มีปริมาณแคลเซียม 2,305 มิลลิกรัมต่อกุ้งแห้ง 100 กรัม

หอมแดง : มีปริมาณแคลเซียม 16 มิลลิกรัมต่อหอมแดง 100 กรัม

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ : มีปริมาณแคลเซียม 38 มิลลิกรัมต่อเม็ดมะม่วงหิมพานต์ 100 กรัม

นอกจากนี้ยังมีอาหารอีกหลายชนิดที่อุดมไปด้วยแคลเซียม ไม่ว่าจะเป็นกุ้งฝอย หรือปลาข้าวสารทอดกรอบ ให้หลาย ๆ คนได้เลือกรับประทานกัน แต่ไม่ใช่รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมกันจนลืมดื่มนมล่ะ เพราะนมเองแม้อาจจะมีแคลเซียมที่ไม่เทียบเท่ากับอาหารบางอย่างแต่ก็มีแร่ธาตุและวิตามินที่เราควรได้รับ ดื่มนมวันละแก้วควบคู่กับการรับประทานอาหารเสริมแคลเซียมด้วย ขอบอกเลยว่าแจ่มกว่ากันเยอะเลย

ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here