ภรรยาเก่าว่าผมจน หลังเลิกกันไป 6 ปี ผมได้ตัดสินใจ

0

ภรรยาเก่าว่าผมจน หลังเลิกกันไป 6 ปี ผมได้ตัดสินใจ

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีเรื่องราวของชายคนหนึ่ง โดยเขาได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ผมเป็นข้าราชการ ในทุกๆวันผมจะต้องไปทำงาน 09:00 เลิก 17:00 น เป็นชีวิตที่อยู่ในกฎระเบียบ งานค่อนข้างสบาย แต่เงินเดือนก็ไม่ได้เยอะ ซึ่งในงานปาร์ตี้ครั้งหนึ่ง ผมได้มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับเมียวๆ เธอเป็นผู้หญิงที่หุ่นดีมาก สวยมาก ริมฝีปากแดง ฟันขาว ผิวขาว ผิวเนียน แค่ครั้งแรกที่ผมเห็นผมก็รู้สึกตกหลุมรักความงามของเธอไปเรียบร้อยแล้ว

ต่อมาไม่นานเราได้มีโอกาสพูดคุยกัน เราสองคนเริ่มชอบกันและกันมากขึ้น จนตัดสินใจแต่งงานแบบสายฟ้าแลบ ที่บ้านของเธอเป็นผู้ดีมีฐานะ มีบ้าน 2 หลังในใจกลางเมืองใหญ่ พ่อแม่ของเธอเปิดธุรกิจส่วนตัว ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะยังมองและดูถูกผมอยู่ แต่เพราะเห็นว่าผมเรียนจบปริญญาโท แถมยังทำงานเป็นราชการ ก็รู้สึกว่าพอไปวัดไปวาได้ เลยยอมให้พวกเราสองคนแต่งงานกัน

ในงานแต่งงาน แม่ของเธอเรียกเยอะมาก ขบวนขันหมากมาขอจะต้องใช้รถถึง 18 คัน ทั้งๆที่ 8 กันก็มากพออยู่แล้ว งานแต่งงานจะต้องจัดที่โรงแรม 4 ดาวเป็นอย่างต่ำ จะต้องซื้อแหวนเพชรเม็ดใหญ่ให้กับลูกสาว เสียเงินเก็บของผมไม่เพียงพอ สุดท้ายพ่อกับแม่ของผมก็เลยต้องควักเงินเกษียณอายุทั้งหมดทั้งชีวิตที่พวกเขามีให้กับผมมาแต่ง แถมยังต้องไปหยิบยืมมาอีก 2-3 แสน ภรรยาของผมก็เอาแต่พูดว่าเมื่อไหร่จะซื้อบ้าน จะได้แยกออกมาอยู่กัน ฝันว่าตัวเองมีกำลังมากแค่ไหน ก็เลยปรึกษากับเธอและหวังว่าเธอจะเข้าใจ

หลังแต่งงาน เมียผมออกไปช็อปปิ้ง เล่นไพ่ทุกวัน ผมโน้มน้าวให้เธอหางานทำ แต่เธอบอกว่าตอนอยู่ที่บ้าน เธอไม่เคยออกไปทำงานที่ไหน ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรได้ เธออยู่บ้านใช้เวลากับพ่อแม่ผมเยอะ ไม่นานพวกเขาก็เริ่มขัดแย้งกัน เมียวๆใช้เงินเหมือนน้ำ ผมลิมิตเงินให้เธอใช้ เธอก็เลยว่าผมไร้น้ำยาต่อหน้าแม่ผม หาว่าผมจน เธอว่าเธอเสียใจที่แต่งงานกับคนอย่างผม

ในที่สุด หลังแต่งงานได้แค่ปีกว่า พวกเราก็หย่ากัน วันที่หย่า เมียวๆเก็บข้าวของเธอลากออกจากบ้านไป ผมยืนอยู่ข้างบน เห็นเธอเข้าไปนั่งในรถ BMW

แล้วผมก็โบกมือลาชีวิตแต่งงานของตัวเอง แม้ว่ามันจะเป็นช่วงสั้นๆ แต่ให้บทเรียนเป็นความผิดหวังอย่างรุนแรงกับผม ทำให้ผมไม่เชื่อในความรักอีก ไม่มีความกล้าพอที่จะไปตามหารักแท้ อีกครั้ง

ต่อมาหลังจากเป็นโสดได้ 3 ปีกว่า ผมได้มีโอกาสรู้จักชิงสาวบ้านนอกคนนึงผ่านการแนะนำของแม่สื่อ เธอไม่สวย คอหนาๆยิ้มเก่ง ครั้งแรกที่เห็นเธอ ผมไม่ชอบเธอเลย เปรียบเทียบกับเมียวๆแล้ว เธอต่างกันเกินไป นอกจากจะไม่สวยแล้ว ยังแต่งตัวไม่เป็น แถมไม่มีบุคลิกภาพเลย มองดูแล้วก็รู้ว่าเป็นสาวต่างจังหวัด

แต่ผมก็เตือนตัวเองว่าผมเคยแต่งงานแล้ว จะหาเมียอีกสักคนก็เรื่องมากนักไม่ได้ พอพ่อแม่กับแม่สื่อโน้มน้าว ผมก็เลยตัดสินใจลองคบกับเธอดู พอเธอได้ยินว่ามีคนจะลองคบกับเธอ เธอก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง หิ้วกระเป๋าเข้ามาหางานทำในเมืองที่ผมอยู่ทันที ตอนนั้นผมไม่ได้รู้สึกดีอะไรกับเธอนัก ก็ไม่เลยไม่ได้สนใจเธอมากมาย ไม่ได้ช่วยเธอหาที่พักอะไร ใครจะไปนึกว่า เพื่อจะประหยัดเงินเธอไปนอนอยู่ในม้านั่งในสวนถึง 2 คืน พอพ่อแม่ผมรู้เข้าก็ให้เธอเข้ามาอยู่ที่บ้านชั่วคราว แล้วช่วงนั้นเองเธอจะตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้ามาทำอาหารเช้าให้พวกเรา งานบ้านเธอก็จัดการอย่างเรียบร้อย แถมยังทำอาหารอร่อยมาก พอทำทุกอย่างในบ้านเสร็จเธอก็จะออกไปหางานทำ

แล้วเธอก็ได้งานพี่เลี้ยงแถวๆบ้าน ตอนนั้นผมรู้สึกขายหน้ามาก เธอเพิ่งจะอายุ 27 ทำไมไปทำงานเป็นพี่เลี้ยง แถมที่นี่ก็เป็นเขตเล็กๆ ถ้าผมบังเอิญเห็นเธอนอกบ้าน ผมจะรีบหลบทันที ทำเป็นไม่รู้จัก จนวันนึงแม่ผมเป็นลมในบ้าน ชิงกลับบ้านมาทำอาหารกลางวันพอดีก็เลยช่วยพาท่านไปโรงพยาบาล ช่วยชีวิตแม่ไว้ได้ทัน จากนั้นเธอก็ดูแลแม่ผมอย่างดี ผมถึงได้เริ่มหวั่นไหว

ผมเริ่มมองเห็นข้อดีของเธอ พอคุยๆกัน ผมก็ค่อยๆตกหลุมรักเธอ เธอเป็นคนซื่อสัตย์ กตัญญู แถมจิตใจดีมาก ต่อมาพวกเราก็เลยแต่งงานกัน หลังแต่งงานได้ 3 ปี เธอก็คลอดลูกชายหน้าตาน่ารักให้ผมคนนึง บ้านช่องเธอก็จัดการเรียบร้อย แม้ว่าเมียผมจะไม่ใช่ผู้หญิงสวย แต่งตัวเชยๆ แต่ผมกลับคิดว่าเธอมีค่ามากขึ้นทุกวันๆ ไม่นานมานี้ ภรรยาเก่าโทรมาหาผม เธอเล่าว่าเธอได้เลื่อนขั้น ตอนนี้เป็นรองประธานแล้ว แถมซื้อบ้านซื้อรถได้ด้วยความสามารถของตัวเอง…..คุยกันหลายต่อหลายเรื่อง สุดท้ายเธอก็นัดผมออกไปพบ ผมปฏิเสธไปแต่เธอยืนยันจะเจอผมให้ได้ ไม่งั้นจะมาหาที่บ้าน ผมก็เลยตกลงไปเจอเธอ วันต่อมาผมก็เลยพาภรรยาและลูกไปเจอเธอที่ร้านอาหารของโรงแรมแห่งหนึ่งตามที่เธอนัด

พอเธอเดินเข้ามา จากใบหน้าที่ยิ้มๆอยู่ก็กระด้างไป อาจจะเป็นเพราะเธอไม่คิดว่าผมจะพาภรรยามาเจอเธอ ตอนกินข้าวเธอก็ยืนยันที่จะดื่มเหล้า อาจจะเป็นเพราะดื่มมากเกินไป เธอก็เลยพูดออกมาว่า หย่ามาตั้ง 6 ปีแล้วแต่เธอก็ยังลืมผมไม่ได้ แล้วขอร้องให้ผมหย่าแล้วกลับไปแต่งงานกับเธอต่อหน้าภรรยาผม ผมก็ปฏิเสธไปตามเหตุผล

ตอนที่กินข้าวเสร็จ เธอแย่งไปจ่ายเงิน คิดไม่ถึงว่าเมียวๆจะหยิบเงินฟ่อนหนึ่งออกมาจากกระเป๋า แล้วโยนใส่หน้าผม เธอร้องไห้โฮ: ฉันมีเงิน ทำไมไม่รักฉัน ฉันให้คุณได้ทุกอย่าง กลับมาแต่งงานกับฉันนะ… พอมองเห็นเงินร่วงจากตัวผม อยู่ดีๆผมก็รู้สึกโล่งใจ ผมยิ้มกุมมือภรรยา แล้วว่า: โชคดีที่ตอนนั้นคุณขอเลิกกับผม คนบางคนรูปร่างหน้าตาดี แต่จิตใจแห้งแล้ง ขอบคุณที่ตอนนั้นคุณด่าว่าผมจน ทำให้ผมได้เจอผู้หญิงที่ดีที่สุดในโลก

เมียผมนิ่งอึ้งไป แล้วอยู่ดีๆเธอก็หน้าแดง ผมกับเธอมองหน้ากันแล้วยิ้มเดินจูงมือกันออกมาจากโรงแรม….เมียผมใส่เสื้อผ้าเชยๆ นั่นเป็นเพราะเธอเสียดายเงิน แต่กับผมและลูกแล้วเธอใจกว้างเวลาใช้เงินเสมอ แต่เวลาผมพาไปเดินช็อปปิ้งซื้อเสื้อผ้า เธอจะมองป้ายราคาก่อน แล้วก็หาข้ออ้างสารพัดที่จะไม่ซื้อ

นี่คือภรรยาของผม ไม่ใช่เธอไม่สวยพอ แต่เป็นเพราะเมื่อก่อนผมไม่เห็นความงามจากภายในของเธอต่างหาก…

ขอขอบคุณ : LIEKR

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here