ปรับจริง ไม่จ่ายใบสั่งมีผลอายัดทะเบียนรถ เริ่มต้นปี2562

0

ปรับจริง ไม่จ่ายใบสั่งมีผลอายัดทะเบียนรถ เริ่มต้นปี2562

คนที่ใช้รถใช้ถนนควรรู้เอาไว้ เพราะขอบอกเลยว่าปีหน้าจับจริง สำหรับการส่งใบสั่งที่มีการขับรถเร็วเกินกําหนดหรือการทำผิดกฎจราจรบนท้องถนนต่างๆ หากผู้ขับขี่ไม่มาจ่ายใบสั่งตามกำหนด มีกฎหมายออกมา กับการอายัดทะเบียนรถยนต์ของผู้ขับขี่ อ่านรายละเอียดด้านล่างนี้

โดยนายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทาง ไม่มีการเปิดเผยความคืบหน้าของการเชื่อมระบบอายัดชำระภาษีประจำปีกับผู้ที่ไม่ยอมชำระค่าปรับหรือใบสั่งกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งก็ได้มีการพัฒนาระบบไว้รองรับเป็นที่เรียบร้อยและค่อนข้างมีความพร้อมกับการใช้งานและจะเร่งรัดให้ได้ข้อสรุปแนวทางในการเชื่อมต่อข้อมูลใบสั่งกับตำรวจและระบบขนส่งจึงคาดว่าระบบนี้จะสามารถใช้ได้ในช่วงไตรมาส 1 คือเดือนมกราคมถึงมีนาคม 62

โดยระบบนี้จะถูกออกแบบมาเพื่อบังคับใช้กับผู้ที่ไม่ยอมมาชำระค่าปรับตามกำหนดของกฎหมายถือเป็นการยกระดับวินัยการจราจรและเพิ่มความปลอดภัยให้ท้องถนนกับประชาชนมากยิ่งขึ้น โดยจะมีการเร่งหารือกับตำรวจเพื่อให้ได้ข้อสรุปเรื่องการอุทธรณ์ใบสั่งของประชาชนและหากพบว่าประชาชนคนใดยังไม่ชำระค่าปรับโทษจราจร ก็สามารถต่อภาษีได้และมีใบสั่งสะสมเบื้องต้นก็จะมีการออกป้ายวงกลมชั่วคราว 30 วันคล้ายกับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีให้กับผู้ที่มาขอต่อทะเบียนยานพาหนะแต่หากครบ 1 เดือนละยังไม่ยอมเคลียร์โทษทั้งหมดก็ต้องมีความผิดในข้อหาไม่ต่อภาษียานพาหนะ

ดอยทา พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 ในฐานะคณะกรรมการแก้ไขปัญหาจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้มีการยืนยันถึงความคืบหน้าของระบบนี้โดยจะทำให้ระบบดังกล่าวมีความพร้อมใช้งานมากยิ่งขึ้น และจะมีการติดตั้งระบบดังกล่าวเพื่อให้พร้อมต่อการทดลองการใช้งานโดยจะเริ่มในมกราคมปี 62 เพื่อที่จะได้เริ่มทดลองการใช้งานเสมือนจริง เพื่อดูข้อบกพร่องต่างๆของโปรแกรม ถ้าหากยังไม่พบปัญหาก็จะทำการประชาสัมพันธ์ ให้กับประชาชนได้ทราบโดยใช้ว่าคาดว่าใช้เวลาประมาณ 45-50 วันก่อนที่จะมีการประกาศบังคับใช้อย่างเป็นทางการ

“ตอนนี้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20 ล้านใบ อายุความของค่าปรับ 1 ปี ถ้าเกิน 1 ปีเราต้องยอมรับว่าขาดอายุความไม่สามารถบังคับได้ เพราะฉะนั้น ต้องมาดูวันที่เราเริ่มใช้ระบบนี้เป็นทางการแล้วก็ถอยหลังไป 1 ปีครับ” ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก : hunsa.siamtodaynews

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here