หมอออกมาเผย กินแกงกะทิ จะทำให้มีอาการ

0

หมอออกมาเผย กินแกงกะทิ จะทำให้มีอาการ

เป็นอาการหนึ่งที่เรามักพบได้บ่อยในคนทั่วไป สาเหตุหนึ่งที่เราพบบ่อยที่สุดนั่นคือการกินอาหารในแต่ละวันในแต่ละมื้อ หรืออาจจะเป็นเพราะระบบย่อยอาหารของแต่ละคนนั้นมีการทำงานที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ เนื่องด้วยสุขภาพร่างกายของคนเรามีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นวัยเด็กหรือวัยผู้ใหญ่ก็สามารถพบได้ทั้งนั้น

ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อไม่ให้สุขภาพร่างกายของเราย่ำแย่ไปกว่าเดิม เมื่อเรารู้ถึงสาเหตุอาการเหล่านั้นสิ่งหนึ่งที่เราควรเปลี่ยนแปลงนั่นคือ อาหารการกินสิ่งนี้จะเป็นตัวช่วยได้ดีขึ้นมาก

แพทย์ได้ออกมาเผยถึงอาการของโรคท้องอืด สิ่งที่สอบถามคนไข้นั้นมักจะเจอกับปัญหาที่มันเหมือนกันคือ การทานแกงกะทิ แล้วเกิดอาการท้องอืด เป็นปัญหาที่สร้างความอึดอัดและพบอย่างมาก เพราะส่วนมากในอาหารของบ้านเรานั้นก็จะเป็นพวกแกงกะทิ แกงเทโพ แกงพะแนงหรืออาหารอื่นๆที่มีส่วนผสมของกะทิเป็นหลัก จึงทำให้เรามีอาการท้องอืดจุกเสียดและแน่นท้องได้ง่ายมาก

ดังนั้น “หม่อมหลวงขวัญทิพย์” หรือ “หม่อมป้อม” พิธีกรและหนึ่งในคณะกรรมการจากรายการ Master Chef Thailand ได้ออกมาแนะนำว่าควรกิน “ขมิ้นขาว” คู่กันกับอาหารที่ใส่กะทิ เพื่อขับลม และลดอาการจุก เสียด แน่นท้องจากกะทินั่นเอง แถมขมิ้นขาวยังช่วยทำให้อาหารมีรสชาติที่ดีขึ้นอีกด้วย

หากสำหรับบางคนที่ไม่ชอบรับประทานสมุนไพรหรือผักชนิดต่างๆ เราได้มีข้อนำเสนอดีๆที่เป็นวิธีแก้ในเบื้องต้นมาฝากเพื่อนๆทุกคนได้ลองทำตามกัน รับรองว่าปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นแน่นอน

1. หลีกเลี่ยงการทานผักดิบ

อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าผักนั้นมีส่วนประกอบของเส้นใยอาหารอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นหากคุณทานผักชนิดดิบเข้าไปในปริมาณมาก ก็จะทำให้ร่างกายของคุณเกิดอาการท้องอืดได้ง่ายขึ้นแนะนำให้ทานเป็นผักที่ผ่านการลวกหรือต้มมาแล้วเพราะผักที่ผ่านการทำให้สุกนั้นจะช่วยบรรเทาอาการท้องอืดได้

2. เคลื่อนไหวร่างกายเมื่อมีอาการจุกเสียด

เมื่อใดก็ตามที่เรารู้สึกว่าท้องอืดและมีอาการจุกเสียดในท้อง แนะนำให้ลุกขึ้นยืนเดินเพื่อทำการเคลื่อนไหวของร่างกาย ไม่แนะนำให้นั่งอยู่ที่เดิมเพราะนอกจากจะไม่ทำให้อาการดีขึ้นแล้วยังทำให้มีอาการจุกเสียดรุนแรงมากยิ่งขึ้น

3. ทานมื้อเล็กพร้อมเคี้ยวให้ละเอียด

การทานมื้อเล็กและหมั่นเคี้ยวอาหารให้ละเอียดจะช่วยแก้ไขอาการท้องอืดได้ ในขณะที่การทานอาหารมื้อใหญ่จะทำให้เกิดการดื่มน้ำคราวละมากๆ ดังนั้นจึงทำให้อาหารเกิดการโป่งออกมา และทำให้หูรูดในบริเวณหลอดอาหารที่อยู่ส่วนล่างเกิดการหย่อนลง และนั่นจะทำให้เกิดกรดไหลย้อนได้มากขึ้นเช่นกัน

4. ดื่มน้ำอุ่น

หากคุณมีอาการท้องอืด แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกทานยาชนิดใด หรือบางครั้งอาจมีความจำเป็นไม่สามารถหายามาทานได้ แนะนำให้ดื่มน้ำอุ่นในปริมาณที่พอประมาณ เพราะน้ำอุ่นจะช่วยให้กรดและน้ำย่อยไหลลงกระเพาะอาหารได้เร็วขึ้น จึงทำให้อาการดังกล่าวค่อยๆ หายดีขึ้น

5. ลดของหวาน อาหารมัน และเนื้อสัตว์

ไม่ว่าจะเป็นของหวาน อาหารมัน หรือแม้แต่เนื้อสัตว์ ล้วนเป็นอาหารที่ทำให้เกิดอาการท้องอืดได้ด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นจึงควรใส่ใจในเรื่องการเลือกทานอาหารในแต่ละวันให้ดี โดยเริ่มจากการจดบันทึกรายการอาหาร เพื่อที่จะช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงอาหารดังกล่าวได้ เนื่องจากกระเพาะอาหารของคนเรานั้นต้องใช้เวลามากถึง 5-8 ชั่วโมงในการย่อยอาหารประเภทดังกล่าว และนั่นจึงทำให้เกิดการหมักหมม จนกลายเป็นแก๊สในท้องได้

6. ดื่มชาสมุนไพร

การดื่มชาสมุนไพร ไม่ว่าจะเป็นชาขิง ชาเทียนข้าวเปลือก หรือชาเปปเปอร์มิ้นท์ จะช่วยลดอาการท้องอืดได้เป็นอย่างดี เนื่องจากชาสมุนไพรนั้นจัดเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยให้อาการท้องอืดหายได้เร็วขึ้น จึงไม่แปลกใจว่าทำไมทุกครั้งที่ทานอาหารมื้อเที่ยงหรือมื้อเย็น แล้วตามด้วยดื่มชาสมุนไพร จะช่วยให้คุณปลอดภัยจากอาการท้องอืดได้

7. เคี้ยวเมล็ดเทียนข้าวเปลือก

เมื่อมีอาการท้องอืด การนำเมล็ดเทียนข้าวเปลือกมาเคี้ยวจะช่วยลดอาการดังกล่าวได้ เนื่องจากเมล็ดเทียนข้าวเปลือกนั้นมีสรรพคุณช่วยในการกระตุ้นการย่อยอาหารได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ทั้งนี้มันยังมีฤทธิ์ในการขับลมภายในกระเพาะอาหาร และยังช่วยทำให้ลมหายใจของคนเราหอมสดชื่นอีกด้วย ดังนั้นเมื่อมีอาการท้องอืดหลังจากทานอาหารแต่ละมื้อ แนะนำให้เคี้ยวเมล็ดเทียนข้าวเปลือกเข้าไป จะช่วยแก้ไขอาการท้องอืดได้อย่างแน่นอน

8. หลีกเลี่ยงการทานผลไม้พร้อมกับเนื้อสัตว์

เนื่องจากการที่คนเราทานผลไม้เข้าไป ระบบย่อยอาหารจะใช้เวลาในการย่อยผลไม้ประมาณ 30 นาที ในขณะที่การทานเนื้อสัตว์ต้องใช้เวลาในการย่อยมากถึง 5 ชั่วโมง ดังนั้นเมื่อทานเนื้อสัตว์และผลไม้ในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน จะทำให้เนื้อสัตว์ไปขัดขวางการย่อยผลไม้ทันที และนั่นจะทำให้น้ำตาลและเอนไซม์ที่อยู่ในผลไม้สร้างความปั่นป่วนภายในท้อง จนทำให้เกิดอาการท้องอืดได้ หากต้องการทานทั้งเนื้อสัตว์และผลไม้ แนะนำให้ทานห่างกันประมาณ 30 นาทีเป็นอย่างต่ำ จะทำให้ร่างกายปลอดภัยจากอาการท้องอืดได้

9. เคี้ยวโป๊ยกั๊ก

การเคี้ยวโป๊ยกั๊กจะช่วยแก้ไขอาการท้องอืดได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เพราะโป๊ยกั๊กจัดเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการขับลมภายในกระเพาะอาหาร ช่วยกระตุ้นระบบการย่อยอาหารให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้เช่นกัน สำหรับใครที่ใจกล้ามากพอ หรือชื่นชอบการทานสมุนไพรแต่เดิมแล้ว แนะนำให้เคี้ยวโป๊ยกั๊กสดๆ หลังจากทานอาหารแต่ละมือที่จัดเต็ม หรือหากไม่ชอบกลิ่นของสมุนไพรเอามากๆ ก็แนะนำให้ใส่ลงไปในอาหารสักหนึ่งเมนู เพื่อให้กลิ่นของโป๊ยกั๊กจางลงจากเดิม

10. ลดปริมาณน้ำตาลในอาหาร

ทราบกันหรือไม่ว่าน้ำตาลทุกชนิดนั้นมีส่วนทำให้ท้องของคนเราเกิดอาการปั่นป่วนได้เสมอ อีกทั้งยังเป็นตัวกระตุ้นแก๊สในกระเพาะอาหารได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นเพื่อลดอาการท้องอืดที่จะเกิดขึ้น จึงควรลดปริมาณน้ำตาลทั้งจากการปรุงอาหาร หรือจากการสั่งเครื่องดื่มที่ร้านให้ลดปริมาณน้ำตาลลงมาจากเดิม รับรองว่าอาการท้องอืดจะไม่มีทางมากวนใจได้บ่อยๆ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านที่เรานำข้อมูลมาฝากกันในวันนี้ หลายๆคนมักจะมีอาการจุกเสียดแน่นท้อ งเราอยากให้ทุกท่านได้หันมาดูแลสุขภาพของตนเอง ด้วยการเลือกอาหารการกินและการออกกำลังกาย เพื่อการมีสุขภาพที่ดีและที่สำคัญยังช่วยห่างไกลจากโรคต่างๆได้ดีอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก : liekr

เรียบเรียง : postsara

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here