ขอรองเท้าฟรี อั๊วบอก “ของฟรีมีที่ไหนต้องทำงานแลก” หลายปีต่อมาต้องขอบคุณ

0

ขอรองเท้าฟรี อั๊วบอก “ของฟรีมีที่ไหนต้องทำงานแลก” หลายปีต่อมาต้องขอบคุณ

ในวันนี้เรามีเรื่องราวดีๆจากเว็บไซต์ต่างประเทศมาฝากเพื่อนๆกันครับ เป็นเรื่องราวของหนูน้อยกำพร้าคนหนึ่ง พี่ชื่อว่าอาตง

โดยอาตรงนั้นได้เล่าว่า ในตอนที่เขาอายุได้ 13 ปี พ่อแม่ของเขานั้นก็ไม่สบายและจากไป เขาก็เลยกลายเป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ที่เติบโตมาภายใต้การดูแลของญาติๆ จนขึ้นม. 5

ในวันนั้นอาตรงกำลังซ้อมวิ่งอยู่ที่สนามเด็กเล่น อยู่ดีๆก็มีอะไรสักอย่างปริวออกจากเท้าของเขาไป เขารู้สึกว่าเท้าของเขาเบามาก ที่แท้พื้นรองเท้ากีฬาคู่โปรดของเขา เป็นคู่เดียวที่เขามี ได้หลุดลอยหายไป ซึ่งในอาทิตย์หน้าก็จะเริ่มแข่งขันกีฬาสีแล้ว แล้วก็สมัครวิ่งทางไกลไปแล้วด้วย แต่พอรองเท้ามาพังแบบนี้ เขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี

เขานั้นเป็นเด็กที่มีความอดทน ชอบวิ่งเล่น ปกติในชั่วโมงพละเขาก็วิ่งได้เร็วที่สุดในห้อง เขาอยากจะลงแข่งในครั้งนี้มาก แต่ในตอนนี้รองเท้าของเขากลับพัง แถมเขาก็ไม่มีเงินสักบาทที่จะไปซื้อใหม่ เขาต้องสละสิทธิ์จริงๆแล้วหรือ

เขาจึงคิด..ที่จะไปลองขอรองเท้าดูสักคู่นึง

ทุกๆ คนล้วนรู้ว่าอาตงเป็นเด็กกำพร้า ใช้ชีวิตประจำวันและไปโรงเรียนได้เพราะมีคนใจดีช่วยเหลือ ปกติแล้วเวลาเขากินข้าว ตัดผม เจ้าของร้านล้วนไม่เคยคิดเงินเขา อาตงตรงไปที่ร้านขายรองเท้าร้านเดียวในเมือง เจ้าของร้านเป็นชายวัยกลางคนพุงพลุ้ย อาตงอ้ำๆ อึ้งๆ พูดจุดประสงค์ของการมาที่ร้านของเขา

เถ้าแก่ได้ยินก็พูดว่า : “อยากได้รองเท้าร้านอั๊วฟรีๆ งั้นรึ ฝันไปเถอะ” อาตงอายจนหน้าแดง มือจับชายเสื้อแน่น อยากจะเข้าไปหลบซ่อนตัวในซอกที่ไหนสักแห่ง “เถ้าแก่ เด็กมันออกจะน่าสงสาร ให้รองเท้าแกไปสักคู่เหอะ ถือซะว่าทำบุญ” ลูกค้าคนหนึ่งในร้านโน้มน้าว อาตงซึ้งจนน้ำตาคลอ มองเถ้าแก่ด้วยสายตาละห้อย นึกอยากให้เขาเปลี่ยนใจ

เถ้าตา ยิ่งถลึงตามองเขา : “รองเท้าร้านอั๊วก็ต้องใช้เงินซื้อมานะ จะให้ลื้อฟรีๆ ได้ยังไง” ลูกค้าคนนั้นก็พูดเปรยๆ ว่า “ขี้งกเอ๊ย” แล้วก็เดินออกจากร้านไป แต่เถ้าแก่ไม่ได้ใส่ใจ อาตงก้มหน้า ค่อยๆ เดินไปทางประตูร้าน พอกำลังจะเดินออกนอกร้าน เถ้าแกก็ว่า : “จะให้อั๊วให้รองเท้าลื้อ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธี” อาตงหยุดขา เถ้าแก่ก็พูดต่อ : “ถ้าลื้อมาทำงานที่นี่สองวัน อั๊วจะให้ร้องเท้ากีฬาลื้อ”

ช่างเป็นความพอดี นับจากพรุ่งนี้โรงเรียนหยุด 2 วัน เขาจะมาทำงานได้ อาตงก็เลยตอบอย่างดีใจ : “ได้ครับเถ้าแก่” 2 วันต่อจากนั้น อาตงซึ่งไม่เคยทำงานมาก่อนก็ได้ไปทำพาร์ทไทม์ในร้านรองเท้า เขาช่วยเถ้าแก่เช็ดชั้นวาง เรียงรองเท้าให้เป็นระเบียบ แล้วก็ดูแลลูกค้าอย่างเอาใจใส่ พอดีกับเป็นช่วงที่สินค้าล๊อตใหม่มาส่งที่ร้าน อาตงก็ช่วยขนของจนเหงื่อโทรม ปวดขาปวดเอวไปหมด แต่ในใจเขากลับเต็มไปด้วยความปลื้มปิติ

เวลาสองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว พอตกค่ำร้านปิด เถ้าแก่ก็ยื่นรองเท้าคู่ใหม่คู่หนึ่งให้เขา แล้วว่า : “อ่ะ อั๊วให้ นี่เป็นสิ่งที่ลื้อควรได้รับ” อาตงดีใจที่ได้รองเท้าใหม่จนพูดไม่ออก

แล้วเขาก็ได้เหรียญทองจากการแข่งขันวิ่งระยะไกล เขารู้ว่าถ้าไม่มีรองเท้าคู่นี้ เขาไม่มีทางได้รางวัล แถมรองท้องคู่นี้เขาก็ได้มาด้วยหยาดเหงื่อแรงกายตัวเอง การได้ทำอะไรด้วยน้ำพักน้ำแรงตนเองนี่เป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆ

ต่อมา อาตงสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เขาไม่ต้องรับความช่วยเหลือจากชาวบ้านอีกต่อไป เขายื่นของทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา แถมทำงานพาร์ทไทม์ไปด้วย ชีวิตของเขาลำบากเลยทีเดียว

หลังเรียนจบ อาตงก็ได้งานที่ไม่เลว แต่ถึงแม้ว่าจะยุ่งแค่ไหนเขาก็ไม่เคยลืมบ้านเกิด ในที่สุดเขาก็หาเวลาว่างกลับไปที่นั่นจนได้ หลังลงจากรถเขาก็ตรงไปที่ร้านขายรองเท้าทันที

ร้านรองเท้าของเถ้าแก่ยังอยู่ เถ้าแก่ก็ยังอยู่ อาตงหยิบรองเท้าออกมาคู่นึง ดูออกว่าเจ้าของดูแลอย่างดี เพราะแม้ว่าจะเก่า แต่ก็สะอาดเอี่ยม

เถ้าแก่พูดว่า : “นี่ลื้อยังเก็บรองเท้าคู่นี้ไว้อีกหรอเนี่ย”

อาตงตอบว่า : “ผมเก็บไว้อย่างดี เถ้าแก่ ผมอยากถามอะไรเถ้าแก่อย่างนึง ตอนนั้นทำไมเถ้าแก่ช่วยผม”

เถ้าแก่ยิ้มมุมปาก : “อั๊วช่วยลื้อตรงไหน”

อาตงว่า : “หลังจากนั้นผมได้รู้ว่า รองเท้าคู่นี้เป็นรองเท้ามียี่ห้อ ราคาอย่างต่ำก็ 2 พันกว่า ผมทำงานที่ร้านเถ้าแก่แค่ 2 วันจะได้ค่าแรงสักเท่าไหร่ หรือบางทีเถ้าแก่อาจจะไม่ได้ต้องการแรงงานอย่างผมเลยด้วยซ้ำ เถ้าแก่ก็แค่ช่วยผม ทำไมต้องทำแบบนั้นครับ”

เถ้าแก่ว่า : “โอเค อั๊วพูดความจริงก็ได้ วันนั้นตอนที่ลื้อเข้ามาขอรองเท้าอั๊ว อั๊วรู้สึกเจ็บในใจลึกๆ อั๊วรู้ว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปลื้อจะมีชีวิตอยู่ยาก เพราะลื้อเคยชินกับการมีคนสงสารและหยิบยื่นทุกอย่างให้ แต่มันไม่ดีกับตัวลื้อเอง อั๊วก็เลยให้ลื้อทำงานแลกมันมาแทน…”

อาตงยกมือไหว้เถ้าแก่อีกครั้ง : “เถ้าแก่ ขอบคุณที่สอนผม”

ขอขอบคุณ : LIEKR

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here