5 สัญญาณ “มะเร็งกระเพาะอาหาร” รู้ก่อนเสียใจไปตลอด

0

5 สัญญาณ “มะเร็งกระเพาะอาหาร” รู้ก่อนเสียใจไปตลอด

หากใครมีอาการเจ็บที่ท้อง จะต้องรู้ จะต้องเริ่มดูแลตัวเองได้แล้วก่อนที่จะสาย เพราะไม่แน่คุณอาจเป็นโรคกระเพาะอักเสบก็ได้ ในวันนี้จะมาบอกสิ่งที่ต้องรู้ สิ่งที่แสดงอาการว่าคุณกำลังเป็น

5 สัญญาณเตือน “มะเร็งกระเพาะอาหาร”

1. มีอาการปวดตรงบริเวณใต้ลิ้นปี่

ซึ่งเป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ในระยะเริ่มแรกของมะเร็งกระเพาะอาหารจะมีอาการปวดเมื่อยเรื่อยๆ มักจะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคกระเพาะอาหารหรือเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหาร

2. ความรู้สึกไม่สบายตรงบริเวณใต้ลิ้นปี่

ส่วนใหญ่จะมีความรู้สึกว่าท้องอืดหรือแสบมาก สามารถบรรเทาความรู้สึกนี้แบบชั่วคราวได้แต่อาการก็จะปรากฏขึ้นอีก

3. เบื่ออาหาร อาหารไม่ย่อยและอาการอื่น ๆ

หลังอาหารมักจะรู้สึกว่าท้องอืดและแน่นตรงบริเวณใต้ลิ้นปี่มาก พร้อมกับมีอาการตดบ่อย

4. อุจจาระเป็นสีดำหรือมีโลหิตออกมาด้วย

ในกรณีที่ไม่ได้กินยาหรืออาหารที่ได้ผสมสีมาก่อน และอุจจาระที่ขับถ่ายออกมาเป็นสีดำหรือมีโลหิตออกมาด้วย คุณก็ควรรีบไปหาหมอให้เร็วที่สุด

5. ไม่มีแรง น้ำหนักลดและโรคโลหิตจาง

นี้เป็นอาการที่พบบ่อยมากที่สุดเมื่อเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร เนื่องจากการเบื่ออาหารและมีอาการโลหิตออกในระบบทางเดินอาหาร ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเหนื่อยล้าและไม่มีแรง…. ขอเตือนอีกครั้งหนึ่งว่า: เมื่อมีอาการโรคกระเพาะอาหารหรือรู้สึกท้องค่อยไม่สบายควรรีบไปตรวจที่โรงพยาบาลจะดีกว่า

สุดท้ายเรามาดูตารางเวลาการดูแลรักษากระเพาะอาหารกัน

07:00 ตื่นนอนแล้วควรดื่มน้ำอุ่นหนึ่งแก้ว

ตื่นนอนแล้วควรดื่มน้ำอุ่นหนึ่งแก้วสามารถส่งเสริมการไหลเวียนของโลหิตและป้องกันโรคหัวใจและหลอดโลหิตได้ ควรดื่มน้ำอุ่นโดยที่ไม่ได้ใส่เกลือจะดีที่สุดสำหรับคนที่มีอาการท้องผูก นำน้ำผึ้งมาผสมกับน้ำอุ่นแล้วดื่มก็เป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกัน

08:00 ทานอาหารที่อุ่นในตอนเช้า

หลายคนมักจะให้ความสำคัญกับอาหารกลางวันและอาหารเย็น แต่อาหารเช้านี่แหละ ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ การวิจัยแสดงให้เห็นว่า การที่ไม่ทานอาหารเช้า มีโอกาสสูงถึง11.7%ที่จะเป็นโรคตับ และมีโอกาสสูงถึง36% จะเป็นโรคกระเพาะอาหาร ดังนั้น การที่มีอาหารเช้าแบบสมดุลมีความสำคัญมากต่อร่างกายของเรา อาหารเช้าที่ดีควรมี นมเนื้อสัตว์ อาหารที่ทำจากถั่วผลไม้และผัก….

12:00 ทานน้ำซุปหนึ่งถ้วยก่อนอาหารกลางวัน

การที่ทานน้ำซุปหนึ่งถ้วยก่อนอาหารกลางวันจะสามารถช่วยการย่อยและการดูดซึมอาหารในกระเพาะอาหารให้ดีขึ้นแต่ต้องระวังอย่ากลืนข้าวพร้อมกับน้ำซุปเข้าไปทีเดียว เพราะว่าข้าวยังไม่ทันได้เคี้ยวก็กลืนลงไปก่อน อาจก่อให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อยก็ได้

19:00 หลังอาหารเย็นควรยืนก่อนเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร

คนที่มีอาการกรดในกระเพาะอาหาร หลังอาหารอย่ารีบนั่งลงหรือหงายท้อง ไม่งั้นจะทำให้อาหารไหลย้อนไปยังหลอดอาหาร และจะทำให้อาการกรดในกระเพาะอาหารนั้นหนักขึ้นก็ได้

22:00 ดื่มนมก่อนนอน

ก่อนนอนสองชั่วโมงไม่ควรจะรับประทานอาหารใดๆ รวมทั้งนมและน้ำผลไม้ เพราะนมอาจทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหารและทำให้เกิดความเสียหายต่อเยื่อเมือกของกระเพาะอาหารได้

ดังนั้น เราควรให้ความสนใจกับการอาการผิดปกติที่ของร่างกายแสดงออกมาและทานอาหารให้ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสม จึงจะไม่เป็นภาระให้กับกระเพาะอาหารของเรา

ขอขอบคุณ : liekr

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here