ใครใช้น้ำปรับผ้านุ่ม หลายคนไม่เคยทราบ คิดให้ดีก่อนใช้

0

ใครใช้น้ำปรับผ้านุ่ม หลายคนไม่เคยทราบ คิดให้ดีก่อนใช้

ว่ากันด้วยเรื่องน้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาปรับผ้านุ่มนั้นที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กันเกลื่อนกลาดทุกบ้านทุกเรือน เพราะว่ามีกลิ่นหอมและมีสูตรที่หลากหลายออกมาให้เราได้เลือกสรร จนหลายคนมองไม่เห็นภัยแฝงที่ตามมา

สืบเนื่องจากตัวผู้เขียนเองได้รักษาซีสต์ที่มดลูก ด้วยวิธีโภชนาบำบัดจากหมอนอกกะลา จนกระทั่งซีสต์หาย

แต่ก็มีข้อข้องใจอยู่อย่างหนึ่งนั่นก็คือ เหตุใดทำไมหมอจึงมีข้อห้ามแปลกๆนั่นก็คือ ห้ามใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม ห้ามใช้น้ำยาขัดเบาะรถ จนกระทั่งในวันนี้ ผมก็ได้พบกับคำตอบ ถึงที่มาภัยจากน้ำยาปรับผ้านุ่มแล้ว

หมอนอกกะลา น้ำยาปรับผ้านุ่ม

ผมขอให้ภรรยาหยุดการใช้สิ่งแปลกปลอมใดๆ ในบ้าน เธอก็ไม่ยอมเชื่อสักที สงสัยจะดื้อเหมือนผม เอ๊ะ! หรือน่าจะมากกว่า ก็เลยต้องหาคำอธิบายให้เธอเข้าใจว่ามันทำอะไรกับเราและคนที่เรารัก และผมก็มีทั้งลูกชายและลูกสาว ผมก็ไม่อยากให้ลูกสาวผมใจแตกก่อนวัย และลูกชายก็ยังคงเป็นผู้ชายอยู่ขี้เกียจทำใจเพราะน้ำมือของคุณแม่ของเขาเองเวลาลูกชายเกิดเปลี่ยนไป เหตุคือมันออกฤทธิ์เหมือน ฮอร์โมนเพศหญิง Estrogen นั่นแหละครับ ให้สวยได้น้ำมะพร้าว ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง และ น้ำยาขัดเบาะรถด้วย แหล่มเลยครับ

ฮอโมนเพศหญิงแล้วยังไง?

รู้หรือไม่ว่าในน้ำยาปรับผ้านุ่มนั้นมีฮอร์โมนเพศหญิงทั้งนั้นเลย เราก็เลยต้องหาข้อมูลกันนานเลยทีเดียวเพื่อปราบความดื้อรั้นและให้เธอได้มองเห็นภาพในอนาคตที่อาจจะเกิดกับทุกคนโดยหาสาเหตุไม่เจอแล้วก็ไปหายามาทำลายตับไตกันอีก แล้วคุณเคยเห็นฉลากมั้ยว่าเขาใส่อะไรลงไปบ้าง ถ้าไม่เคยสังเกต ถ้างั้นผมชวนเราๆ ด้วยเลยนะครับ มาดูกันเลย

เมื่อได้รับสิ่งนี้ 5 ชนิดเข้าสู่ร่างกาย จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?

1. ส า ร เ อ ทิ ล อ ะ ซี เ ต ท (Ethyl acetate) ไอระเหยของมันอาจทำให้เกิดอาการง่วงซึมและเวียนศีรษะ ทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง ตา และทางเดินหายใจ ใครที่มีอาการเหล่านี้บ่อยๆ แนะนำให้ลองสังเกตตัวเอง และลองปรับเปลี่ยนการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่ม

2. ส า ร ค ล อ โ ร ฟ อ ร์ ม (Chloroform) ไอระเหยของมันทำให้ร่างกายหมดความรู้สึกหรืออาจถึงขั้นสลบได้ และไอระเหยของมันมีผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลางทำให้มีอาการปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ถ้าคุณหายใจเอาสิ่งเหล่านี้ที่ความเข้มข้นสูงเข้าไปเป็นประจำจะทำให้หมดสติและเสียชีวิตได้

3. ส า ร เ บ น ซิ ล แ อ ล ก อ ฮ อ ล์ (Benzyl alcohol) การหายใจเข้าไปจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อเมือก ทำให้ลำคออักเสบ เกิดอาการไอ หายใจถี่รัว เวียนศีรษะง่วงนอน หากสัมผัสถูกผิวหนังจะก่อให้เกิดการระคายเคืองผื่นแดง เจ็บปวด การกลืนหรือกินเข้าไปจะก่อให้เกิดการระคายเคืองลำคออักเสบ ปวดท้องคลื่นไส้ การสัมผัสถูกตา จะก่อให้เกิดการระคายเคืองตาแดง เจ็บตาตาพร่ามัว เมื่อสารดูดซึมผ่านร่างกาย ทำให้ระบบประสาทส่วนกลางผิดปกติ (อธิบายไว้ตอนท้าย)

4. ส า ร เ บ น ซิ ล อ ะ ซี เ ต ท (Benzyl acetate) การหายใจเข้าไปทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อเมือกมีอาการไอ เวียนศีรษะเมื่อสัมผัสถูกผิวหนังจะก่อให้เกิดการระคายเคืองผื่นแดงการสัมผัสถูกตาจะก่อให้เกิดการระคายเคือง ตาแดง เจ็บตาตาพร่ามัว

5. มั ส ไ ซ ลี น (Musk xylene) เป็นตัวก่อ ม ะ เ ร็ ง ซึ่งน่ากลัวมาก

ดังนั้นแล้วข้อมูลข้างต้นถือว่า เป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบให้เกิดผลเสียในร่างกายและทรัพย์สินของเรามาก หากท่านใดพบว่ามีสิ่งเจือปนที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย สามารถโทรแจ้งได้ที่หมายเลข 1166

ลองคิดดูละกันว่า เมื่อมีการเผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้เกิดขึ้น ข้อขัดแย้งและข้อเสียผลประโยชน์ตามมาอย่างมหาศาล เมื่อคุณนึกถึงเด็กที่บ้าน และคนที่คุณรัก คุณคงได้คำตอบแล้วนะว่า วันพรุ่งนี้ควรใช้ต่อไปหรือไม่

ภาพประกอบ : Postsara

ขอขอบคุณ : หมอนอกกะลา

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here