เผยเคล็ดลับ หมอแอมป์บอก อย่ากินน้ำตาลหลัง 6 โมงเย็น
เรียกในว่าตอนนี้เป็นบทความที่ถูกแชร์ส่งต่อกันเป็นอย่างมาก สำหรับเคล็ดลับดีๆในการดูแลตัวเองให้มีความอ่อนเยาว์ อ่อนวัย เป็นเคล็ดลับของคุณหมอหน้าใสสุดหล่อคนนี้ มองดูแล้วคิดว่าอายุ 16
“หมอแอมป์” หรือ “นพ.ตนุพล วิรุฬหการุญ” ผู้อำนวยการศูนย์ Bangkok Royal Life Anti Aging Center โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้บอกวิธีการดูแลของเวชศาสตร์เกี่ยวกับการชะลอวัยให้อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น บอกเลยว่าวิธีการนี้เป็นวิธีที่ใครหลายคนยังไม่รู้มาก่อน
น้ำตาลของห้ามหลัง 6 โมงเย็น
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของหวาน แม้กระทั่งผลไม้ น้ำอัดลม เนื่องจากในสิ่งเหล่านี้มีสารที่ให้น้ำตาลทำให้ขัดขวางการหลั่ง Growth Hormone ซึ่งเจ้าตัวนี้มีหน้าที่ในการฟื้นฟูสภาพร่างกายในขณะเวลาที่นอนหลับ หากรับประทานน้ำตาลในช่วงหลังเวลา 6 โมงเย็นไปแล้วนั้น จะส่งผลให้ร่างกายย่อยน้ำตาลไม่ทัน ส่วนน้ําตาลที่เหลือนั้นก็จะไปขัดขวางการซ่อมแซมของร่างกาย ทำให้ร่างกายทำหน้าที่อย่างไม่สมบูรณ์
การรับประทานน้ำตาลในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นจึงขัดขวางความอ่อนเยาว์ ความเยาว์วัยของเราไปอย่างมาก โกสฮอร์โมนทุกคนเมื่อมีอายุประมาณ 25 ปีขึ้นไป ร่างกายจะเริ่มผลิตน้อยลง 10-14 เปอร์เซ็นต์ และจะลดลงแบบนี้ทุกๆ 10 ปี อย่าได้นิ่งนอนใจโดยเด็ดขาด เลี่ยงได้ให้เลี่ยง
ในช่วงเวลาที่หลายคนจะเน้นเรื่องการออกกำลังและการรับประทานอาหารคลีน ทว่าน้อยนักที่จะให้ความสำคัญเรื่องของการนอน โดยผอ.ตนุพล ได้ให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ ซึ่งหากให้เลือกระหว่าง การออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร หมอแอมป์จะเลือกการนอน เพราะการนอนมีผลต่อระบบร่างกายมนุษย์เราเป็นอย่างมากในเรื่องของฮอร์โมนที่ถูกบั่นทอนการทำงานของระบบการทำงานภายในร่างกายที่จะทำให้ดูมีอายุมากแก่มากหรือว่าดูอ่อนเยาว์แก่ช้านั้นเอง
และนี่ก็คือเคล็ด(ไม่)ลับส่วนหนึ่งของนายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ผู้อำนวยการศูนย์ Bangkok Royal Life Anti Aging Center โรงพยาบาลกรุงเทพ ที่ได้ให้ความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับเวชศาสตร์ชะลอวัย โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามความรู้ดีๆ อาทิเรื่องการชะลอวัย เรื่องลดน้ำหนัก หรือฮอร์โมนในร่างกาย ได้อีกในคลิปช่องทางยูทูป Royallife Antiaging
เรียบเรียงโดย : Postsara
ขอขอบคุณ : Royallife Antiaging, นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ
