เพียงแค่ 7 ขั้นตอน “หุงข้าวเหนียว” แช่เย็นยังไงก็ไม่แข็ง ทิ้งค้างคืนก็ยังนุ่ม

0

เพียงแค่ 7 ขั้นตอน “หุงข้าวเหนียว” แช่เย็นยังไงก็ไม่แข็ง ทิ้งค้างคืนก็ยังนุ่ม

ในวันนี้หมู่เฮาจะมาบอกวิธีหารหุงข้าวเหนียว หุงยังไงไม่ให้แข็ง เป็นวิธีที่บ้านๆมา แต่หลายคนยังไม่เคยรู้ บอกเลยว่า ถ้าหากนำไปใช้ประกอบอาชีพแล้วละก็ ต้องต้องขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าได้เลย วิธีนี้จะช่วยให้ข้าวเหนียวแข็งๆเคยเคยหุง กลับมานิ่มเหมือนหุงใหม่ๆเลย

ยิ่งถ้าได้หมูฝอย หรือไก่ทอดสักชิ้น พร้อมส้มตำปลาร้านี่นะ ไม่ต้องพูดถึงกันเลยทีเดียว ว่าจะมีความอร่อยมากแค่ไหน จะมีวิธีทำอย่างไรบ้าง ลองมาดูกันเลนะคะ

วิธีหุงข้าวเหนียว

1. นำข้าวเหนียวเก่า แช่น้ำนาน ประมาณ 6 ชม ส่วนข้าวเหนียวใหม่แช่น้ำนาน 3 ชม.

2. แช่เสร็จแล้วอย่าเอาน้ำแช่ข้าวทิ้งเด็ดขาดสำคัญมาก เค้าเรียกน้ำแช่ข้าวว่า “น้ำหม่า” เก็บใส่ชามแช่ตู้เย็นไว้

เสริมความรู้ : น้ำหม่า อันนี้เรียกว่าหัวเชื้อเอาไว้แช่ข้ามในวันต่อไปและนำส่วนที่เหลือเอามาพรมข้าวเหนียวนั่นเอง

บางเคล็ดลับโบราณที่ว่า คือเขาจะเอาน้ำหม่านี้ละเป็นหัวเชื้อ เทเติมตอนแช่ข้าวในวันต่อๆไป 1 ถ้วย อีก1ถ้วยจะเอาไว้พรม

บนข้าวเหนียวที่หุ้งในหวดใกล้ๆสุกแล้ว

3. หลังจากแช่ข้าวเหนียวเสร็จแล้วก็นำมาใส่หวดนึ่งปกติ พอข้าวเกือบจะ น้ำมาใส่หวดนึ่ง ตามปกติ

4. พอข้าวใกล้จะสุกแล้วนำน้ำหม่าที่เก็บไว้ในตู้เย็นมาพรมๆปริมาณ 1/3 ถ้วย แล้วใช้ไม้พายคนจากด้านล่างขึ้นบนทั่วๆเบาๆ

5. หรือจะทำวิธีแบบโบราณก็ได้คือกระดกหวดสัก 2-3 ครั้ง ให้ข้าวเหนียวในหวดผสมกันให้หมดและนึ่งต่อ

6. ทำแบบข้อที่ 5 ไปทั้งหมด 3 ครั้ง โดยกะปริมาณน้ำหม่าให้พอสำหรับ 3 ครั้ง และรอข้าวเหนียวสุกได้ที่

7. หลังจากสุกแล้ว ยกลงจากเตาห้ามเปิดฝาอย่างน้อย 15 นาที หลังจากนั้นก็จัดเก็บข้าวเหนียวตามปกติ

ง่ายๆ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ทานข้าวเหนียวที่อร่อย นุ่ม แช่ตู้เย็นนำกลับมากินใหม่ก็ยังคงความนุ่มไว้อยู่ ลองทำทานกันดูนะคะ ไม่ยากเลยใช่ไหม?

ประโยชน์ของข้าวเหนียว

– ช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง

– ช่วยบำรุงเลือดลม ช่วยขับลมในร่างกาย

– ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เนียนกระจ่างใสขึ้น

– ให้พลังงานสูง ทำให้อิ่มท้องได้นาน ไม่หิวง่าย

– มีฤทธิ์อุ่น ข่วยในการรักษาอุณหภูมิของร่างกายจากอากาศที่หนาวเย็นได้ดีเยี่ยม

– ช่วยชะลอความแก่ก่อนวัย ช่วยให้อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายไม่เสื่อมถอยไปก่อนเวลาอันควร

– ธาตุเหล็กกับกรดโฟลิกในข้าวเหนียว ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ทำให้เม็ดเลือดมีความสมบูรณ์

– ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของกระเพาะอาหาร ช่วยรักษาสมดุลและให้ความชุ่มชื้นภายในกระเพาะอาหาร

– ข้าวเหนียวมีโปรตีนเช่นเดียวกับข้าวเจ้า ซึ่งช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย

– ช่วยคลายเครียด ช่วยทำให้จิตใจสงบ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และช่วยให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ในระหว่างวันได้อย่างสดใสร่าเริง

– ในข้าวเหนียวมีวิตามินอี ที่ช่วยในการบำรุงการทำงานของระบบประสาทกับสมอง และช่วยในการป้องกันปัญหาวุ้นนัยน์ตาเสื่อมกับช่วยในการป้องกันอาการหลอดเลือดหัวใจตีบ

ขอขอบคุณ : Postsod, รักษ์สุขภาพ

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here