เรื่องจริงที่หลายคนไม่รู้ ของกินใกล้ตัวไม่ควรแช่ในตู้เย็น เชื้อราเพียบ!

0

เรื่องจริงที่หลายคนไม่รู้ ของกินใกล้ตัวไม่ควรแช่ในตู้เย็น เชื้อราเพียบ!

ตู้เย็นนับเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทุกบ้านมีกัน เรียกว่าขาดไม่ได้กันเลยทีเดียว เพราะหลายๆบ้านเคยชินที่จะนำอาหารทุกอย่างของกินแช่ไว้ในตู้เย็นเพื่อหวังว่าจะช่วยในการรักษาคุณภาพของอาหารเหล่านั้นไว้ให้ได้นานมากยิ่งขึ้น

แต่เรื่องจริงที่หลายคนไม่เคยรู้ว่าความจริงแล้ว การช่วยรักษาคุณภาพของอาหารให้อยู่ได้นานนั้นใช้ไม่ได้กับอาหารทุกชนิด เพราะอาหารหลายชนิดคุณไม่ควรนำไปแช่ไว้ในตู้เย็นเลย จะส่งผลเสียมากกว่าผลดีด้วยซ้ำ ตามมาดูกันเลยว่ามีอาหารชนิดไหนบ้างที่ไม่ควรแช่ หลายคนแช่อยู่รีบเอาออกเลย

1. มันฝรั่ง

อากาศที่เย็นในตู้เย็นนั้นจะทำให้แป้งในมันฝรั่งกลายเป็นเนื้อทราย รวมไปถึงการสูญเสียรสชาติของความหวานของมันฝรั่งออกไป เพราะฉะนั้นเราควรเก็บมันฝรั่งใส่ไว้ในถุงกระดาษและเก็บไว้ในที่แห้ง

2. น้ำผึ้ง

‍หลายคนมักชอบเก็บน้ำผึ้งไว้ในตู้เย็น แต่คุณรู้หรือไม่หากเราเก็บไว้ในตู้เย็นนั้นน้ำผึ้งจะตกผลึกแข็งและจับตัวกันเป็นก้อน เมื่ออยู่อุณหภูมิที่หนาวเย็น เพราะฉะนั้นเพียงแค่ตั้งขวดน้ำผึ้งของคุณไว้นอกตู้เย็นและเก็บให้พ้นแสงแดดในอุณหภูมิที่ปกติก็จะเป็นการเก็บสารความหวานธรรมชาตินี้ได้อย่างสมบูรณ์ไม่เสียรสชาติแต่อย่างใด

3. มะเขือเทศ

มะเขือเทศจะสูญเสียรสชาติหากอยู่ในอุณหภูมิที่มีความเย็น จนในที่สุดมะเขือเทศจะสุกงอมและเหี่ยวในเวลาอันรวดเร็วนั้น ดังนั้นการเก็บมะเขือเทศให้เก็บไว้ด้านนอกตู้เย็นในที่แห้งและห่างจากแสงแดดจะเป็นการคงรสชาติที่ดีกว่า

4. แอปเปิ้ล

ผลไม้หลายชนิดคุณมาเก็บเข้าในตู้เย็นแต่ไม่ใช่กับ แอปเปิ้ล เพราะแอปเปิ้ลหากเก็บไว้ในที่ที่มีความเย็นจะทำให้เสียรสชาติ สูญเสียความหวาน แต่หากใครต้องการที่จะรับประทานแอปเปิ้ลแบบเย็นๆแนะนำให้เอาไปแช่ตู้เย็นก่อนทานสัก 30 นาที

5. เมลอน

เมล่อนควรเก็บไว้ในที่อุณหภูมิห้องเพื่อที่จะไม่ทำให้เมล่อนสูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระ และสูญเสียรสชาติที่ดี และเมื่อเราหั่นเป็นชิ้นๆก็ควรเก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 3-4 วัน หากหลังจากนั้นจะทำให้เสียรสชาติ

6. หัวหอม

หลายคนมักเอาหัวหอมเข้าไปแช่ในตู้เย็น แต่ความจริงแล้วเราไม่ควรนำไปแช่เนื่องจากในความชื้นในตู้เย็นนั้นจะทำให้หัวหอมของเรานั้นเกิดเป็นรา และดูดซับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ตามมาด้วย เหมาะที่สุดสำหรับการเก็บหอมนั่นคือเก็บไว้ในถุงกระดาษในที่มืดและอากาศที่ถ่ายเทสะดวก หรือเก็บไว้ในลิ้นชัก และสำหรับหัวหอมที่เราทำการหั่นแล้วควรใส่ไว้ในถุงมัดปากถุงเก็บไว้ในช่องเก็บผัก

7. น้ำมัน

เราควรวางน้ำมันไว้ที่อุณหภูมิห้องปกติ แต่ถ้าเป็นน้ำมันประเภทที่มีกรดไขมันอิ่มตัวต่ำ เช่นน้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย เราควรเก็บไว้ในอุณหภูมิที่เย็นตรงตำแหน่งของประตูตู้เย็น

8. ซอสมะเขือเทศและซอสพริก

เกือบจะทุกบ้านที่ได้นำซอสต่างๆเข้าไปเก็บไว้ในตู้เย็น แต่ความเป็นจริงแล้วคุณไม่ต้องเก็บไว้ในตู้เย็นเลย เพราะเมื่อเรานำซอสต่างๆไปไว้ในตู้เย็น ความเย็นจะทำให้ซอสเหล่านั้นจับตัวเป็นก้อนทำให้สูญเสียรสชาติ เพราะฉะนั้นเราควรเก็บไว้ในตู้กับข้าวหรือทีาอุณหภูมิห้องเก็บให้พ้นแสงแดดก็พอ

9. กาแฟ

ซองกาแฟ ซองโอวัลติน ซองชาต่างๆ เรามักจะเก็บไว้ในตู้เย็นแต่ความจริงแล้วการที่เราเก็บไว้ในตู้เย็นนั้นจะทำให้เป็นการสูญเสียรสชาติ อีกทั้งยังทำให้กลิ่นเปลี่ยนไปด้วยไม่หอมเท่าที่ควรเพราะในกาแฟนั้นได้ดูดกลิ่นจากตู้เย็นเข้ามาเก็บไว้นั่นเอง ทางที่ดีเราควรเก็บใส่กล่องที่มีฝาปิดมิดชิดวางไว้นอกตู้เย็นจะดีกว่า

10. กระเทียม

หลายๆบ้านมักนำกระเทียมเข้าไปไว้ในตู้เย็น แต่ความเป็นจริงแล้วหากเรานำกระเทียมไปแช่เก็บไว้ในตู้เย็นจะทำให้กระเทียมงอกเป็นต้นขึ้นมาและทำให้เกิดเชื้อราได้ง่ายขึ้น แถมยังทำให้เนื้อของกระเทียมหดและฟ่อมากยิ่งขึ้น สูญเสียรสชาติของกระเทียมได้ ดังนั้นเราควรเก็บกระเทียมไว้ในภาชนะที่แห้งมีอากาศถ่ายเท เมื่อเราทำการปอกหัวกระเทียมออกแล้วหน้าควรใช้ให้หมดภายใน 10 วัน

11. ฟักทอง

วิธีการเก็บผลไม้สดอย่างเช่นฟักทองนั้น ต้องเก็บไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ในบริเวณพื้นที่ที่แห้ง หลีกเลี่ยงจากแสงแดด ไม่ร้อนอบอ้าว วิธีนี้จะช่วยยืดอายุของฟักทองไว้ได้ดีไม่ควรนำไปแช่ไว้ในตู้เย็น

12. แตงโม

แตงโมนับว่าเป็นผลไม้ที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากในแตงโมนั้นมีปริมาณน้ำที่เยอะเป็นแหล่งรวมของวิตามินเอและวิตามินซี แต่การที่เรานำแตงโมไปแช่ไว้ในตู้เย็นนั้นจะทำให้แตงโมสูญเสียสารที่มีประโยชน์เหล่านั้นไป อีกทั้งเมื่อนำไปแช่ในตู้เย็นที่มีความเย็นนั้นโอกาสที่จะแตกลายเป็นจุดจุด ที่ที่ดีที่สุดของการเก็บแตงโมไว้นั่นคือเก็บไว้นอกตู้เย็นแต่ถ้าคุณนำมาหั่น คุณสามารถนำมันไปแช่ในตู้เย็นได้ 1-2 วัน นานกว่านี้จะทำให้สูญเสียรสชาติของแตงโมและสูญเสียคุณประโยชน์ของแตงโม

13. ผักกาดดอง

ผักกาดดอง เป็นหนึ่งในอาหารที่มีสารกันบูดและมีน้ำส้มสายชูในปริมาณมาก ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องนำไปแช่ในตู้เย็น แต่ถ้าใครชอบรับประทานแบบเย็นๆนำให้นำไปแช่ก่อนเวลาซัก 30 นาที

14. ถั่ว

หากเราเก็บถั่วต่างๆไว้ในตู้เย็น เปลือดของถั่วนั้นจะดูดสเปกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อื่นๆในตู้เย็นมาเก็บไว้ในตัวเอง ทางที่ดีเราควรจัดเก็บถั่วไว้ในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท และวางไว้ในตู้กับข้าวแต่ถ้าหากเรามีถั่วจำนวนมากและจะเก็บไว้ในตู้เย็นเราควรคั่วถั่วในกระทะก่อนที่จะนำมาใช้

15. ใบโหระพาและใบกะเพรา

ใบโหระพาและใบกระเพรานั้น เราไม่ควรนำไปแช่ในตู้เย็น เพราะจะทำให้เหี่ยวไวอีกทั้งใบโหระพายังดูดซับกลิ่นต่างๆจากภายในตู้เย็นเข้ามาไว้ในตัวอีกด้วย ดังนั้นหากเรานำมาประกอบอาหารจะทำให้ส่งกลิ่นต่างๆออกมาเพราะฉะนั้นเก็บไว้ที่นอกตู้เย็นจะดีกว่า

16. ขนมปัง

ขนมปังเป็นสิ่งหนึ่งที่หลายๆบ้านชอบไว้ในตู้เย็น เอาไว้ข้างนอกกลัวจะเกิดเชื้อราขึ้น แต่ความเป็นจริงแล้วการเก็บขนมปังไว้ในตู้เย็นจะทำให้ขนมปังแข็งจนเกินไป ดังนั้นเราเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องจะดีกว่า ได้รสชาติที่ดีกว่า แต่ถ้าคุณมีขนมปังในจำนวนมากสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้โดยใช้ผ้าขาวบางห่อก่อนที่จะนำไปแช่ในตู้เย็น

17. กล้วย

กล้วยไม่ว่าจะเป็นชนิดอะไรก็แล้วแต่ถ้ายังมีเปลือกเป็นสีเหลืองปกติให้วางไว้ที่อุณหภูมิห้อง แต่ถ้าเปลือกเป็นสีน้ำตาลแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นได้ จะเป็นการช่วยยืดอายุของกล้วยได้

18. เหล้า

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเราไม่ควรนำไปแช่ไว้ในตู้เย็น เพราะจะทำให้เสียรสชาติอย่างแน่นอน ควรนำไปวางไว้ที่อุณหภูมิห้องก็พอแล้ว

19. ส้ม

ผลไม้ส้มเราไม่ควรเก็บไว้ในตู้เย็น แต่เราควรนำมาวางไว้ที่อุณหภูมิห้องโดยใส่ถุงและมัดปากถุงให้แน่น เนื่องจากหากเราเก็บส้มไว้ในตู้เย็นนั้นจะเสี่ยงต่อการเป็นเชื้อราได้ง่ายและจะทำให้รสชาติของส้มเปลี่ยนไป

20. ซอสถั่วเหลือง

เครื่องปรุงรสชาติของอาหารซอสต่างๆที่เรามักนำมาแช่ในตู้เย็นที่มีสารกันบูดและเกลือ ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นต้องแช่ตู้เย็น

อ่านถึงตรงนี้เป็นยังไงกันบ้างคะ เมื่อรู้แบบนี้แล้วเรารีบไปดูในตู้เย็นของบ้านเราเลยว่ามีอาหารเหล่านี้หรือไม่ เพราะถ้าหากว่ามีแนะนำให้เอาออกจากตู้เย็นจะดีกว่า เพราะการที่เรานำไปแช่ในตู้เย็นนั้นไม่ได้เกิดประโยชน์ใดๆแถมยังทำให้สูญเสียรสชาติและเกิดเป็นเชื้อราเกิดขึ้น รู้เช่นนี้แล้วอย่าลืมบอกต่อกับเพื่อนๆของคุณด้วยนะคะหวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน

ขอบคุณข้อมูลจาก : samunpaisecrete

เรียบเรียง : postsara

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here