ปลูกผักกินเอง เพาะพืชสวนครัวในกระถาง ประหยัดพื้นที่และเงินในกระเป๋า

0

ปลูกผักกินเอง เพาะพืชสวนครัวในกระถาง ประหยัดพื้นที่และเงินในกระเป๋า

สมัยนี้ข้าวของราคาแพง แม้แต่ผักก็ยังมีราคาสูง นักเรียนนักศึกษหรือพนักงานออฟฟิศที่อยู่ไกลบ้าน ต้องเช่าห้องพักอยู่ ค่าใช้จ่ายก็เยอะและอยากประหยัดโดยการปลูกผักกินเอง แต่หากกังวลว่าไม่มีเนื้อที่มากพอ ต่อไปนี้หมดห่วงได้เลย วันนี้เราขอแนะนำ “การปลูกผักสวนครัวในกระถาง” เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการช่วยลดค่าใช้จ่าย หรือพ่อบ้านแม่บ้านท่านใด อยากนำไปใช้ก็ไม่ว่ากัน เราไปดูวิธีปลูกผักในกระถางและลองทำดู รับรองไม่ยาก ประหยัดเนื้อที่และเงินในกระเป๋า

1. ปลูกผักชี

ขั้นตอนที่ 1 นำดินที่จะใช้ในการเพาะปลูกมาตากแดดให้แห้งก่อน

ขั้นตอนที่ 2 นำไปผสมกับปุ๋ยคอก คลุกเคล้าให้เข้ากันดี

ขั้นตอนที่ 3 นำเมล็ดพันธุ์ผักชีมาบดเบา ๆ ให้แตกออกเป็น 2 ส่วน

ขั้นตอนที่ 4 แช่น้ำทิ้งไว้ 3 ชั่วโมง ให้เมล็ดอิ่มน้ำ จากนั้นนำมาผึ่งลมให้หมาด แล้วนำไปเมล็ดไปคลุกกับทรายและขี้เถ้า

ขั้นตอนที่ 5 นำลงปลูกในกระถาง คลุมหน้าดินด้วยฟาง รดน้ำให้ชุ่ม

2. ปลูกต้นหอม

ขั้นตอนที่ 1 ใช้ดินร่วนในการปลูก หากมีเปลือกถั่วลิสงให้นำมาบดและผสมลงดินด้วย

ขั้นตอนที่ 2 นำดินที่เตรียมไว้ใส่ในกระถาง

ขั้นตอนที่ 3 นำต้นหอมมาตัดโคน ให้เหลือเป็นท่อนเล็ก วัดจากรากไปถึงลำตันประมาณ 1.5-2 นิ้ว

ขั้นตอนที่ 4 นำไปปักชำในกระถางที่เตรียมไว้ รดน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น

ขั้นตอนที่ 5 เมื่อใบเริ่มงอกจนแข็งแรงดีแล้ว ให้ลดการรดน้ำลงเหลือเพียงวันละ 1 ครั้ง

3. ปลูกพริก

ขั้นตอนที่ 1 แช่เมล็ดพริกในน้ำ ทิ้งไว้ 1 คืน แล้วนำมาผึ่งให้แห้งในตอนเช้า

ขั้นตอนที่ 2 ใช้ดินร่วนผสมกับทรายและปุ๋ยหมัก นำไปเทลงในกระถาง

ขั้นตอนที่ 3 นำเมล็กพริกมาหย่อนลงในดิน หมั่นรดน้ำให้ต้นโตสูงประมาณ 6 นิ้ว

ขั้นตอนที่ 4 เลือกเอาต้นกล้าที่แข็งแรงที่สุด ไปปลูกในกระถางที่ใส่ดินร่วนปนทรายและปุ๋ยหมัก รดน้ำเช้า-เย็น และตั้งให้โดนแดด

4. ปลูกกะเพรา

ง่ายมาก หากคุณเด็ดใบกะเพราออกไปทำกับข้าวจนหมด ก้านที่เหลืออย่าเพิ่งทิ้ง

ขั้นตอนที่ 1 นำก้านมาลิดใบออกให้เกลี้ยง ใช้กรรไกรตัดฐานก้านออกทิ้งเล็กน้อย

ขั้นตอนที่ 2 นำไปปักลงในกระถางที่มีดินร่วนผสมปุ๋ยคอก รดน้ำเช้า-เย็น ควรรดให้ชุ่มแต่อย่าแฉะ และต้องตั้งไว้ในที่แสงแดดส่องถึง

5. ปลูกผักบุ้ง

ขั้นตอนที่ 1 คัดเลือกเมล็ดพันธุ์ผักบุ้งที่สมบูรณ์ โดยการนำไปแช่น้ำ เมล็ดไหนลอยให้ตัดทิ้ง จากนั้นนำเมล็ดที่ได้ไปปลูกลงในดินร่วนผสมปุ๋ยคอก รากจะงอกออกมาภายใน 2-3 วัน

ขั้นตอนที่ 2 ผักบุ้งเป็นพืชที่ชอบความชื้น ต้องหมั่นดูแลความชื้นของดินเป็นพิเศษ

ขั้นตอนที่ 3 หมั่นรดน้ำอย่าให้ขาด หากปล่อยให้ดินแห้งผักบุ้งจะเฉา รอประมาณ 1 เดือน จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตมากินได้

6. ปลูกคื่นช่าย

ขั้นตอนที่ 1 นำเมล็ดคื่นช่ายมาแช่น้ำทิ้งไว้ คัดแต่เมล็ดที่จมน้ำ เพื่อนำไปปลูก

ขั้นตอนที่ 2 นำเมล็ดมาห่อด้วยทิชชู่ ใส่ในกล่องพลาสติก พรมน้ำเล็กน้อย

ขั้นตอนที่ 3 ปิดฝากล่องแล้วนำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 1 วัน จะมีรากงอกออกมา จากนั้นจึงสามารถนำไปเพาะในกระถางได้

7. ปลูกแตงกวา

ขั้นตอนที่ 1 ใช้ดินร่วนปนดินทรายมาผสมกับปุ๋ยหมักในอัตราส่วนที่เท่า ๆ กัน

ขั้นตอนที่ 2 เลือกเมล็ดที่สมบูรณ์โดยการนำไปแช่น้ำ นำเมล็ดที่จมน้ำไปปลูกในกระถางประมาณ 4-5 เมล็ด

ขั้นตอนที่ 3 เมื่อเมล็ดพันธุ์เริ่มเจริญเติบโต จนมีความสูงประมาณ 5-7 เซนติเมตร ให้เลือกต้นที่แข็งแรงเก็บไว้

ขั้นตอนที่ 4 ถอนต้นที่ไม่สมบูรณ์ แล้วหาไม้ยาวมาปักเป็นหลักให้ต้นเลื้อย

ขั้นตอนที่ 5 ต้องหมั่นรดน้ำที่โคนต้นให้ชุ่ม และควรตากแดดวันละ 6 ชั่วโมง หมั่นใส่ปุ๋ยบำรุงดิน

ไม่ยากเลยใช่ไหม อย่าลืมดูแลพืชผักของคุณให้ดีด้วย จะปลูกผักชนิดไหนก็ต้องศึกษาข้อมูลสักนิดว่าผักชนิดนี้ต้องการน้ำมาก ผักชนิดนี้ต้องโดนแดดมาก เพื่อให้สวนผักในกระถางของคุณอยู่รอดและเจริญงอกงามได้ดี ลองทำตามกันดู ประหยัดเงินแถมได้ผักสดไว้รับประทานทุกวัน

เรียบเรียงโดย : Postsara

ขอขอบคุณ : บ้านเกษตร

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here