นักบินโชว์เหนือ แต่เจอเครื่องบินแอร์บัสสวนคืน
และนี่ก็คืออีกหนึ่งบทความที่ให้แง่คิดดีๆกับใครหลายคน เชื่อว่าใครที่อ่านจบแล้ว จะต้องได้ข้อคิด แนะนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ แต่ถ้าหากใครรู้สึกว่ามันดีมากจริงๆ ก็อยากที่จะให้แบ่งปันไปให้เพื่อน ให้คนรุ่นหลังได้อ่านและทำความเข้าใจ จะได้เป็นประโยชน์ต่อไป
เมื่อเครื่องบินแอร์บัส 380 ลำหนึ่ง ขณะที่กำลังออกบิน เดินทางข้ามมหาสมุทรอันไกลโพ้นที่ชื่อว่ามหาสมุทรแอตแลนติก ที่ระดับความสูงถึง 30000 ฟุต ด้วยความเร็วคงที่ 800 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นับว่าเป็นความเร็วที่เร็วมากๆ แล้วอยู่ๆก็มีเครื่องบินยูโรไฟเตอร์ ที่บินมาด้วยความเร็ว 2 เท่า นั่นก็คือ 1,600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นักบินของเครื่องบินขับไล่เจ็ท ได้ทำการลดความเร็วลง เพื่อที่จะบินคู่ขนานไปพร้อมกับเครื่องบินแอร์บัส 380 ลำนั้น
โดยนักบินเครื่องยูโรไฟเตอร์ ได้ทำการส่งวิทยุสื่อสารทักทายกับนักบินโดยสาร และผู้โดยสารว่า “เครื่องบินแอร์บัสคงเป็นเครื่องบินที่ดูน่าเบื่อใช่ไหม ลองดูนี่สิ นี่แหละของจริง”
ทันใดนั้นเอง นักบินเครื่องยูโรไฟเตอร์ ก็ได้ทำการม้วนเครื่องบินเจ็ทของเขาโชว์ แล้วทำการเร่งสปีดความเร็วจนทะลุกำแพงเสียง จากนั้นก็เร่งความเร็วด้วยการบินไต่ระดับความเร็วสูงแบบฉับพลัน ก่อนที่จะเร่งเครื่องบินลงไปเฉียดที่ระดับน้ำทะเล
แล้วกลับมาบินคู่ขนาน กับเครื่องแอร์บัสอีกครั้ง ก่อนที่จะวิทยุถามนักบินแอร์บัสว่า
“เป็นอย่างไรบ้าง ข้าเท่ไหมล่ะ”
นักบินโบอิ้งตอบ : “น่าประทับใจมาก แต่ตอนนี้ขอให้ดูนี่”
นักบินเครื่องยูโรไฟเตอร์บินดูเครื่องแอร์บัสแต่ไม่เห็น จะมีอะไรเกิดขึ้น เครื่องแอร์บัสยังคงบินตรง บินระดับ ไปด้วยความเร็วคงที่ เหมือนเดิม หลังจากผ่านไป 5 นาที
นักบินแอร์บัสได้สอบถามนักบินยูโรไฟเตอร์ทางวิทยุ “เห็นอะไรไหม นักบินรบ”
นักบินเครื่องยูโรไฟเตอร์ วิทยุตอบแบบงงๆปนสับสน “นั่นคุณกำลังทำอะไรน่ะ”
นักบินแอร์บัส ตอบพร้อมเสียงหัวเราะว่า
“ผมลุกขึ้นยืดแข้งยืดขาของผมแล้วเดินไปที่ด้านหลัง ของเครื่องบิน จากนั้นก็ไปเข้าห้องน้ำ เสร็จแล้วออก มานั่งดื่มกาแฟ และทานขนมเค้ก คุยกับแอร์โฮสเตส ปรึกษากันว่าสามคืนต่อจากนี้เราจะไปพักผ่อนที่ไหนกันดี พวกเราพักในโรงแรมระดับ 5 ดาว ซึ่งจ่ายโดยนายจ้างของเรา”
นักบินเครื่องยูโรไฟเตอร์ : เงียบบบบบ พูดไม่ออก ทำหน้าหงอยๆ บินไปอย่างช้าๆ
บทสรุปของเรื่องราวนี้คือ : เมื่อตัวคุณยังอายุน้อยอยู่ ความเร็วและเรื่องน่าตื่นเต้นดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่ดีมากๆกับชีวิตของคุณ แต่พอคุณอายุมากขึ้น ความฉลาดของคุณจะเพิ่มมากขึ้น ความสะดวกสบาย ความสุขกายสบายใจจะเป็นสิ่งที่ดีมากกว่า และนี่ก็คือที่มาของ SOS Slower (ช้าลง) Older (แก่ขึ้น) Smarter (ฉลาดขึ้น)
ขอขอบคุณ : bitcoretech, ไลน์กรุ๊ป
