อย่าเพิ่งทิ้ง แกนสับปะรด มีประโยชน์ป้องกันเกือบทุกโรค

0

อย่าเพิ่งทิ้ง แกนสับปะรด มีประโยชน์ป้องกันเกือบทุกโรค

สับปะรด เป็นหนึ่งในผลไม้ที่หลายคนมักรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี หลายคนกินสับปะรดด้วยการหั่นเป็นชิ้นๆและทิ้งเปลือกกับแกนตรงกลางที่แข็งๆออก แต่ทุกคนรู้หรือไม่ว่าความจริงแล้วนั้น แกนที่อยู่ตรงกลางของสับปะรดนั้น มีประโยชน์มากๆ มีสารอาหารที่สำคัญที่ดีต่อร่างกายของเราอย่างมหาศาล

คุณประโยชน์จากแกนสับปะรด และเนื้อสับปะรด

ถึงแม้ว่าแกนของสับปะรดจะมีรสชาติที่ไม่หวานฉ่ำเท่าเนื้อสับปะรด แต่แท้จริงแล้วนั้นแกนตรงกลางนั้นคือแหล่งที่รวมสารอาหารของสับปะรดเลย โดยเฉพาะเอนไซม์บรอมีเลน (BROMELAIN) ที่จริงๆ แล้วมีอยู่ในทุกส่วนของสับปะรด แต่พบในส่วนแกนมากที่สุด ซึ่งสารนี้มีประโยชน์มากมาย คือ

– ช่วยระบบย่อยอาหาร หากมื้อไหนที่เราทานอาหารจำพวกแป้งและไขมันมากเกินไป เกิดอาการจุกเสียด แน่นท้อง ให้เราทานสับปะรดเข้าไปหลังที่เรารับประทานอาหาร จะช่วยย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี

– ช่วยสมานแผลได้เป็นอย่าดี และยังช่วยลดการอักเสบของกระเพาะอาหารและลำไส้ได้

– ช่วยการทำงานของระบบขับถ่ายให้เป็นไปได้ด้วยดี เป็นยาระบายอ่อนๆ มีกากใยอาหารสูง ทำให้ไม่เกิดอาการท้องผูกได้

– ช่วยขับปัสสาวะ จึงช่วยป้องกันการเกิดนิ่วได้

– ช่วยลดอาการปวดข้อ ปวดกระดูก

– ป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้ดี อีกทั้งยังช่วยชะลอความชราได้

– ช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในร่างกาย ต้านมะเร็งได้ ลดโอกาสการเกิดมะเร็งได้หลายชนิด

– กระตุ้นการทำงานของระบบร่างกาย เป็นยาบำรุงได้ดี

– ช่วยบรรเทาและรักษาอาการโรคเกาต์ได้ ช่วยต้านการอักเสบ ลดความเจ็บปวดจากการอักเสบ

วิธีทานสับปะรดที่ถูกต้อง

เมื่อได้ทราบถึงคุณประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายของเรามากขนาดนี้แล้ว ควรที่จะมีติดบ้านเอาไว้สัก 1-2 ลูก ว่างๆหยิบขึ้นมาทาน แต่อย่าทานจนมากเกินไปเพราะจะทำให้เราเจ็บลิ้นและแสบได้ เรามาดูวิธีการปลอกสับปะรดที่ถูกต้องและถูกวิธี ทำดังนี้

– ใช้มีดเฉือนเปลือกออกจนหมด

– จากนั้นใช้มีดตัดส่วนตาออกเป็นร่องเฉียง

– ตัดเป็นชิ้น แล้วเอาเกลือทาให้ทั่ว หรือแช่ในน้ำเกลืออ่อน ๆ ประมาณ 2-3 นาที

โดยการทาเกลือหรือแช่ในน้ำเกลือจะช่วยทำให้เอนไซม์บรอมีเลนที่มีฤทธิ์เป็นกรด ปรับเปลี่ยนโครงสร้างไม่สามารถเกิดปฏิกิริยากับอวัยวะในปาก และยังเป็นการทำลายสารจำพวก Glycoalkaoid จึงไม่ทำให้เกิดอาการแพ้จนแสบลิ้น

ข้อควรระวังในการกินสับปะรด

– ไม่ควรทานในขณะที่ท้องว่าง เพราะสับปะรดเป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอาจจะทำให้แสบท้องได้

– ไม่ควรทานสับปะรดที่ดิบจนเกินไป และไม่ควรทานสับปะรดที่สุกจนเกินไป

เห็นแบบนี้แล้ว คราวหลังอย่าได้ทิ้งแกนสับปะรดเชียวนะคะ นอกจากความอร่อยแล้วยังมีดีต่อสุขภาพร่างกายของเราอย่างมาก ทั้งช่วยบำรุงรักษาอีกทั้งยังช่วยให้เราห่างไกลจากโรคร้ายแรงต่างๆได้เป็นอย่างดี

เรียบเรียง : postsara

ขอบคุณข้อมูลจาก : หมอชาวบ้าน

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here