กินทุกวันร่างกายเปลี่ยน “สับปะรด” กินบ่อยๆดูไว้ คุณอาจไม่รู้

0

กินทุกวันร่างกายเปลี่ยน “สับปะรด” กินบ่อยๆดูไว้ คุณอาจไม่รู้

นอกจาก “สับปะรด” เป็นผลไม้ที่ให้รสชาติหวานซ่อนเปรี้ยว กินแล้วรู้สึกสดชื่นและชุ่มฉ่ำ แถมยังราคาสบายกระเป๋าอีกด้วย กินทุกวันก็จะส่งผลให้ร่างกายของเราเปลี่ยนไป มีประโยชน์อย่างที่ใครยังไม่รู้ สับปะรดผลไม้ที่มีประโยชน์หลายคนยังไม่รู้ประโยชน์ที่แท้จริง อ่านจบอยากหามาทานเลย

ประโยชน์ที่คุณอาจไม่รู้ของ “สับปะรด”

สับปะรด มีประโยชน์แทบทุกส่วน ทั้งใบสับปะรดที่สามารถนำมาทำเป็นผ้าใยสับปะรด กระดาษ และเชือก เปลือกสับปะรดก็นำมาทำเป็นอาหารของวัว และหมักเป็นปุ๋ย ส่วนแกนสับปะรดยังช่วยขับปัสสาวะ แก้นิ่วได้อีกด้วย

สับปะรดช่วยย่อยอาหาร โดยเฉพาะอาหารจำพวกโปรตีน ดังนั้นใครที่ทานบุฟเฟต์ปิ้งย่าง อย่าลืมทานสับปะรดช่วยย่อยตามหลังไปด้วยนะ

1. หมักหมู เนื้อ ไก่ สเต๊ก

ใครจะหมักเนื้อ หมู ไก่ ทำสเต็ก ลองหมักกับสับปะรดดูสิ รับรองว่าได้เนื้อนุ่มๆ โดยไม่ต้องทุบเนื้อเลยแหละ

1) ส่วนของเนื้อหมูที่ไม่มีไขมัน เช่น เนื้อสันในหมู

จะทำให้หมูนุ่มขึ้นโดยใส่ไข่ไก่และนมสดจืดในการหมัก จะทำให้หมูชุ่มชื่น เพิ่มรสชาติด้วยซอสปรุงรสอีกนิด แค่นี้เนื้อหมูของคุณก็พร้อมที่นำไปทำอาหารแล้วค่ะ

2) ส่วนของเนื้อหมูที่มีเส้นใยมาก เช่น ขา สันนอก และเนื้อสะโพก

หมักด้วยน้ำสับปะรด 1 ช้อนโต๊ะ หรือสับปะรดหั่น2-3ชิ้น หั้นเป็นชิ้นเล็ก (สับปะรดไม่ควรมากเกินไปอาจทะให้เนื้อหมูเละไม่อร่อยได้) จะทำให้เนื้อหมูอ่อนนุ่ม และยุ้ยเปื่อยขึ้น แต่วิธีนี้จะไม่ทำให้ชุ่มชื้น

3) เนื้อหมูส่วนที่สำหรับทำสเต็ก

ใส่น้ำสับปะรด 1 ช้อนโต๊ะและใช้ฆ้อนทุบเบาๆ ก่อนนำไปทำสเต็ก

เคล็ดลับอื่นๆในการหมักเนื้อหมูยังมีอีกหลายวิธี

หมักเนื้อหมูด้วยไข่ไก่และนมสดชนิดจืด :

จะให้ผลคล้ายๆกัน คือ เนื้อหมูจะนุ่มและดูชุ่มชื้น เหมาะกับการหมักเนื้อหมูส่วนที่ไม่มีไขมัน หรือมีมันน้อย เช่น เนื้อสันใน เวลาหมักจะใส่ซีอิ้วขาวหรือซอสปรุงรสลงไปด้วยก็ได้ เป็นการเพิ่มรสชาติให้หมูอร่อยยิ่งขึ้น จากนั้นนำหมูที่หมักใส่ตู้เย็นพักไว้ประมาณ 30 นาที 1 ชั่วโมง

หมักเนื้อหมูด้วยสับปะรด โซดา ไวน์ และ เบียร์ :

สูตรใดสูตรหนึ่งเพียงอย่างเดียวจะให้ผลคล้ายกัน คือ เนื้อจะอ่อนนุ่มมาก แต่ไม่ชุ่มชื้น เหมาะสำหรับหมักกับเนื้อส่วนที่มีเส้นใยมากๆ และมีมันปนอยู่บ้าง เช่น เนื้อสะโพก จากนั้นนำหมูที่หมักใส่ตู้เย็นพักไว้ประมาณ15- 30 นาที

หมักเนื้อหมูด้วยน้ำมันงา แป้งมัน น้ำมันหอย เกลือ น้ำตาลทราย พริกไทยป่น ซีอิ้วขาว :

วิธีนี้ก็ทำให้นุ่มน่ากินมากขึ้น จากนั้นนำหมูที่หมักใส่ตู้เย็นพักไว้ประมาณ 30 นาที 1 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้นยิ่งดี ก่อนจะเอาไปประกอบอาหารสัก 15 นาที ให้นำสับปะรดมาคลุกเคล้ากันก่อน รับรองว่าหมูนุ่มชัวร์

2. บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส

– ปอก สับปะรดที่สุกแล้ว ล้างให้สะอาด เอาเนื้อ สับปะรดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ บดให้ละเอียด ใส่ลงไปในถ้วย เติมน้ำผึ้ง และนมสดลงไปผสมเข้าด้วยกันอย่างดีแล้วก็ใช้การได้ เอามาพอกหน้า พอกตัว กันได้เดี๋ยวนี้ทันทีค่ะ สวยกับสับปรด

– นำสับปะรด ครึ่งผล ไปสับให้ละเอียด จากนั้นนำไปเย็นให้เย็นฉ่ำ เมื่อถึงเวลาอาบน้ำ ก็ให้นำสับปะรดที่เย็นไว้เตรียมเข้าไปด้วย เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้ว ให้คุณผู้หญิงหยิบสับประรดที่เตรียมไว้ มาขัดแขน ขา ข้อศอก หัวเข่า หรือบริเวณด่างดำที่ต้องการได้ตามใจเลยค่ะ ขัดๆ ถูๆ ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด เช็ดให้แห้ง สิ่งที่ควรทำหลังจากนี้ก็คือ ให้ทาครีมบำรุงตามจุดด่างดำต่างๆ ควบคู่ไปด้วย อย่าให้ผิวแห้ง หยาบกร้าน เพราะจะยิ่งทำให้ไม่น่าดูไปใหญ่

– สูตรสับปะรด + แครอท + น้ำผึ้ง + นมสด ขอบอกเลยว่าสูตรนี้สามารถเห็นผลได้ภายใน 1 เดือนเลยนะคะ อันดับแรกต้องเตรียมสับปะรด 1 ส่วน แครอท 1 ส่วน น้ำผึ้ง ½ ส่วน นมสด ½ ส่วน แล้วนำส่วนผสมทั้งหมดไปปั่นด้วยกันจนละเอียดค่ะ เมื่อได้แล้วก็นำมาพอกให้ทั่วๆหน้า ทิ้งไวประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น แนะนำให้ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้งค่ะ

3. อุดมไปด้วยวิตามินซี ต่อต้านหวัด เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย

4. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง

5. ลดอาการท้องผูก

6. ลดเสมหะในลำคอ

7. ช่วยให้สุขภาพช่องปาก ฟัน และเหงือกแข็งแรง

8. ลดความดันโลหิตสูง

ถึงแม้ว่าหลายคนจะเลือกทานสับปะรดเพื่อลดน้ำหนัก แต่การทานสับปะรดมากๆ อาจทำให้เกิดอาการคันลิ้น แสบลิ้นขึ้นมาได้ ดังนั้นควรทานแต่พอดี หลังทานมื้ออาหารราว 2-3 ชิ้นใหญ่ หรือไม่เกิน 1 ลูกต่อวัน เท่านี้ก็เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายแล้วล่ะค่ะ

เรียบเรียงโดย : Postsara

ขอขอบคุณ : sanook, misswhite, food mthai

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here