สามีที่หายตัวไป และความจริงที่ถูกเปิดเผย 6 ทศวรรษให้หลัง

0

สามีที่หายตัวไป และความจริงที่ถูกเปิดเผย 6 ทศวรรษให้หลัง

ถ้าคนที่คุณรักจะต้องไปปฏิบัติหน้าที่ใน ส ง ค ร า ม แล้วเขาก็ขาดการติดต่อจากคุณไปเลยแสนนาน คุณไม่รู้ว่าเขาจะเป็น…ร้ายดีอย่างไร แล้วคุณจะต้องก้าวเดินหน้าต่อไป จะมีความรักครั้งใหม่ หรือว่าจะรอยังมีความหวังว่า สักวันเขาจะกลับมา

นี่เป็นเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เฝ้ารอสามีที่ไปร่วม ส ง ค ร า ม และหายตัวไป จนเวลาล่วงเลยไปเกือบ 70 ปี เธอจึงได้ค้นพบความจริงเกี่ยวกับเขา ซึ่งทำให้หัวใจของเธอพองโตและปวดร้าวในเวลาเดียวกัน

Peggy เป็นสาวสวยที่ทำงานเป็นวิศกรไฟฟ้า ส่วน Billie เป็นนักบินกองทัพอากาศสหรัฐฯ เมื่อ Peggy และ Billie ได้เจอกันครั้งแรก  ก็รู้ในทันทีว่านี่คือ “รักแรกพบ”

ไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็แต่งงานกันในปีค.ศ. 1943 แต่ทว่า ช่วงฮันนีมูนก็ช่างแสนสั้น เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงส ง ค ร า ม โลกครั้งที่ 2 Billie ถูกส่งไปฝรั่งเศสและทำหน้าที่ขับเครื่องบินรบ เพื่อต่อกรกับเยอรมันซึ่งกำลังมาบุกยึดพื้นที่ ทางด้าน Peggy ก็ได้แต่เฝ้ารอสามีที่บ้านอย่างใจจดใจจ่อ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเป็นเดือน Peggy เริ่มกังวลว่าเกิดอะไรขึ้นกับ Billie

เธอต้องการคำตอบ แต่ไม่มีใครให้คำตอบนั้นแก่เธอได้เลย จนกระทั่งในปีค.ศ. 1944 กองทัพอากาศสหรัฐฯ ก็ได้ประกาศว่า  Billie Harris เป็นบุคคลสูญหาย

Peggy ใจสลาย เธอตั้งความหวังไว้สูงมากว่าเขาจะต้องกลับมา แต่ถึงกระนั้น เธอก็จะไม่หยุดค้นหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ และแล้วในวันหนึ่งPeggy ก็ได้รับจดหมายจากกรุงเบอร์ลิน ซึ่งระบุว่า “Billie Harris จากไปในขณะปฏิบัติหน้าที่”

Peggy ไม่เชื่อรายงานในจดหมายนั่น เพราะไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการจาดไปของเขาเลย หลังจาก ส ง ค ร า ม สิ้นสุดลง Peggy ส่งจดหมายไปยังสภาที่กรุงวอชิงตันเพื่อสอบถามเกี่ยวกับ Billie Harris ทางสภาโทรกลับมาและให้คำตอบที่ไม่ทำให้เธอพอใจเอาเสียเลย พวกเขาบอกเพียงว่า Billie ยังคงจัดว่าเป็นบุคคลสูญหาย

Peggy ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปล่อยวางจากเรื่องนี้ไปจากเดือนกลายเป็นปี จากปีกลายเป็นทศวรรษ เวลาที่ผ่านล่วงเลยไปไม่อาจทำให้เธอตัดใจจากการหายตัวไปของสามีได้แม้แต่น้อย

Peggy ไม่เคยคิดที่จะแต่งงานใหม่ เธอยังคงเฝ้ารอคำตอบอยู่เสมอ หลังจากผ่านไปเกือบ 70 ปี Peggy ก็ตัดสินใจสืบค้นความจริงอีกครั้ง เวลานานขนาดนี้แล้ว มันต้องมีซักหลักฐานสิ หลักฐานอะไรก็ได้ที่จะบ่งชี้ว่า Billie อยู่ที่ไหน

Peggy กับลูกพี่ลูกน้องของ Billie ร่วมมือกันเพื่อสืบค้นความจริงในเรื่องนี้ พวกเขาพยายามติดต่อทุกหน่วยงานที่พอจะเกี่ยวข้องและอาจมีเบาะแส และแล้ว ในขณะที่ Peggy เริ่มหมดหวัง เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

กริ๊งงงงงง.. Peggy ได้รับโทรศัพท์จากหญิงสาว ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Les Ventes ประเทศฝรั่งเศส เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ทศวรรษที่มีหลักฐานใหม่ผุดขึ้นมา กลายเป็นว่า ชื่อของ Billie Harris เป็นที่รู้จักกันอย่างดีในหมู่บ้านนี้ Billie Harris ได้รับการขนานนามว่าเป็นวีรบุรุษ หลังจากได้ติดต่อกับเทศมนตรี Peggy ก็ถูกเชิญให้ไปประเทศฝรั่งเศสและเยี่ยมชมหมู่บ้านดังกล่าว

Peggy ตกตะลึงเมื่อได้เห็นว่า มีการตั้งชื่อถนนสายหลักตามชื่อของสามีเธอ “Billie D. Harris” ใช่แล้วล่ะ
Billie Harris จากไปในขณะปฏิบัติหน้าที่จริง แต่การจากไปของเขาไม่สูญเปล่า ชาวบ้าน Les Ventes คนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เครื่องบินของ Billie ถูกฝั่งนาซีเยอรมันจัดการ และพุ่งลงมายังหมู่บ้าน

อันที่จริง คนขับสามารถปลดตัวเองออกจากเครื่องบินอย่างปลอดภัย แล้วปล่อยให้เครื่องบินตกลงสู่พื้นก็ได้  แต่เขากลับเลือกที่จะทำทุกวิถีทางให้เครื่องบินตกไกลจากหมู่บ้านที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อชาวบ้านหากเกิดการร ะ เ บิ ด ขึ้น และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้เขาจบชีวิตลงในป่าที่ห่างไกลออกไป

ทุกคนที่นั่นรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณ Billie และซาบซึ้งในความเสียสละอันกล้าหาญของเขา จึงยกย่องและให้เกียรติเขาในฐานะฮีโร่ผู้ช่วยชีวิตชาวเมือง

ตอนแรกผู้คนที่นั่น เข้าใจว่า Billie D. Harris เป็นชาวแคนาดาเชื้อสายฝรั่งเศส โดยเดาจากชื่อที่ปักอยู่บนแจ็คเก็ต
พวกเขาก็เพิ่งได้รู้เหมือนกันว่าแท้ที่จริงแล้ว Billie เป็นชาวอเมริกันต่างหาก

น่าทึ่งนะ ที่ชื่อของ Billie Harris เป็นชื่อที่รู้จักกันในวงกว้าง ณ เมือง ๆ หนึ่ง แต่ในสถานที่ที่ไกลออกไป  กลับไม่มีใครรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา หลังจากความจริงปรากฏ Peggy ก็มักจะไปเยี่ยมเยือนจุดที่เครื่องบินตกทุกปี และทุกครั้งที่เธอไป เธอจะได้รับการต้อนรับเสมือนราชินี ความรักที่มีต่อ Billie ยังคงไม่เสื่อมคลาย มีแต่ความภูมิใจในความเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ของชายอันเป็นที่รัก

เมื่อถูกถามว่า รอเวลานี้มานานแค่ไหนแล้ว Peggy ตอบว่า “ตลอดทั้งชีวิตของฉัน”

ขอขอบคุณ : history101, kiwireport

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here