มีอยู่จริงตำนาน “เมืองหนองหาร” ถูกพญานาคจมใต้บาดาล ปัจจุบันมนต์ขลังยังอยู่

0

มีอยู่จริงตำนาน “เมืองหนองหาร” ถูกพญานาคจมใต้บาดาล ปัจจุบันมนต์ขลังยังอยู่

หากจะให้พูดถึงเรื่องราวของ “พญานาคที่มาจมเมือง” เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยสงสัยไม่น้อยว่าเรื่องราวเหล่านี้มีอยู่จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่ฉากในการเพิ่มอรรถรสในเรื่องของละครเท่านั้น ซึ่งในวันนี้เรามีเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองหนองหารมาฝากกัน

ปัจจุบันเมืองแห่งนี้ได้จมลงสู่ใต้บาดาล กลายเป็นหนองน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองสกลนคร

โดยมีมูลเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องราวหนองหาร เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวรรณคดีพื้นบ้านภาคอีสาน ชื่อเรียกว่า “ผ่าแดงนางไอ่” เป็นตำนานรักที่มีความลึกซึ้งของหนึ่งหญิงสองชาย เมื่อฝ่ายหนึ่งได้ถูกพลาดความรัก ถูกทำร๊ายจนถึงแก่การจากไป จึงเกิดกลายเป็นปัญหาตามมา ที่ทำให้มีปัญหากัน “เมืองสุวรรณโคมคำ” หรือเอกธีตา อยู่ทางทิศใต้ของเมืองหนองแส มีพระยาขอมเป็นผู้ปกครอง มีธิดาสาวสวยคนหนึ่งชื่อ “นางไอ่คำ” ซึ่งเป็นสตรีที่มีสิริโฉมงดงามเป็นที่เลื่องลือไปยังนครต่างๆ ทั้งโลกมนุษย์และบาดาล ต่างมีชายหนุ่มหมายปองจะได้อภิเษกกับนางมากมาย

ภาพปัจุบัน

โดยในจำนวนผู้ที่มาหลงรักนางไอ่คำ คือ “ท้าวผาแดง” กษัตริย์เมืองผาโพง และ “ท้าวภังคี” โอรสพญาสุทโธนาคราช เจ้าผู้ครองนครบาดาล ท้าวทั้งสองต่างเคยมีความผูกพันธ์กับนางไอ่คำมาแต่อดีตชาติ จึงต่างช่วงชิงจะได้เคียงคู่นางกัน แต่ก็พลาดหวัง มิได้อภิเษกทั้งคู่เพราะแข่งขันบั้งไฟแพ้

ด้านท้าวภังคีไม่ยอมลดละ แปลงกายเป็น “กระรอกเผือก” คอยติดตามนางไอ่คำ จนนางอยากได้มาครอบครอง แต่ไม่ว่ายังไงเจ้ากระรอกเผือกก็ไม่ให้จับง่ายๆ จนสุดท้ายถูกนายพรานจัดการ โดยก่อนจากไปนั้น ท้าวภังคีในร่างกระรอกเผือก ได้อธิษฐานว่า “ขอให้เนื้อของข้าจงเอร็ดอร่อย และมีพอกินแก่คนทั้งเมือง” หลังจากนั้นชาวเมืองได้แจกจ่ายเนื้อกระรอกไปกินกัน ยกเว้นพวกแม่ม่าย ที่ไม่ได้รับการแบ่ง ฝ่ายบริวารของภังคี ได้รีบกลับไปยังเมืองบาดาล นำความไปบอกพญาสุทโธนาค ว่าโอรสได้ถูกสังหารแล้ว เจ้าผู้ครองนครบาดาลโกรธมากจึงได้เกณฑ์พนับหมื่นแสนเพื่อถล่มเมืองพระยาขอม ใครกินเนื้อภังคีต้องสิ้นให้หมด กองทัพพญานาคจึงมุ่งสู่เมืองพระยาขอมทันที

ภาพเมืองบาดาลปัจุบันกลายเป็นหนองหาร

ดึกสงัดของคืนนั้น ขณะที่ชาวเมืองเอกธีตากำลังหลับไหล เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ท้องฟ้าอื้ออึงไปด้วยพายุฝนฟ้า กระหน่ำลงมาอย่างหนัก ฟ้าแลบอยู่มิได้ขาด แผ่นดินเริ่มถล่มยุบตัวลงไปทีละน้อย ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของผู้คนที่วิ่งหนี เหล่าพญานาคผุดขึ้นมานับหมื่น นับแสนตัว ถล่มเมืองเอกธีตาจมลงใต้บาดาลทันที คงเหลือไว้เป็นดอน 3 – 4 แห่ง ซึ่งเป็นที่อยู่ของพวกแม่ม่าย ที่ไม่ได้กินเนื้อกระรอกเผือกจึงรอด

ฝ่ายท้าวผาแดงได้โอกาสรีบควบม้าหนีออกจากเมือง โดยไม่ลืมแวะรับนางไอ่คำไปด้วย แต่แม้จะเร่งฝีเท้า ม้าเท่าใด ก็หนีไม่พ้นทัพพญานาคที่ทำให้แผ่นดินถล่มตามมาติดๆ ในที่สุดก็กลืนท้าวผาแดงและพระธิดาไอ่คำพร้อมม้าแสน รู้ชื่อ “บักสาม” จมหายไปใต้พื้นดิน

รุ่งเช้าภาพของเมืองเอกธีตาที่เคยรุ่งเรืองโอฬาร ก็อันตธานหายไปสิ้น คงเห็นพื้นน้ำกว้างยาวสุดตา ทุกชีวิตในเมืองเอกธีตาจมสู่ใต้บาดาลจนหมดสิ้น เหลือไว้แต่แม่ม่ายบนเกาะร้าง 3 – 4 แห่ง ในผืนน้ำอันกว้างนี้ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นหนองหาร ดังปรากฏในปัจจุบัน

ภาพปัจจุบัน

พระอาทิตย์ตกยามเย็นสวยมาก น่าไปเที่ยว

ส่วนประวัติเมืองหนองหารหลวงไม่มีหลักฐาน ปรากฏไว้เป็นลายลักษณ์อักษร นอกจากผู้เฒ่าผู้แก่ ของเมืองได้จดจำถ้อยคำของพระบรรเทา กรมการเมืองขุขันธ์คนเก่ากับเพี้ยศรีคอนชุม ซึ่งเป็นหัวหน้าข้าพระธาตุเชิงชุมว่า หลังจาก พระยาสุวรรณภิงคาระ สิ้นพระชนม์ลง เหล่าเสนา ข้าราชการผู้ใหญ่ชาวเขมร ก็ได้ผลัดเปลี่ยน กันเข้ามาปกครอง เป็นเจ้าเมือง หนองหารหลวง ต่อกันมาเรื่อยๆหลายยุคหลายสมัย

ขอขอบคุณ : เพจประวัติศาสตร์

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here