หนุ่มได้รับข้อความ มีเงินเข้า 500 ล้าน เลยโอนเข้าบัญชีอื่นก็ได้อีก แต่สักพัก

0

หนุ่มได้รับข้อความ มีเงินเข้า 500 ล้าน เลยโอนเข้าบัญชีอื่นก็ได้อีก แต่สักพัก

ผมไม่รู้เลยว่า สักวันหนึ่งผมจะกลายเป็นเศรษฐี ถ้าคุณเป็นเศรษฐีเมื่อไหร่คุณจะสามารถใช้เงินเพื่อเพลินไปกับการใช้ชีวิตที่ร่ำรวย อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่หรู มีพ่อครัวพร้อมที่จะทำอาหารให้เรา 3 มื้อต่อวัน มีคนขับรถไปรับไปส่ง เอาเงินมาซื้อบริษัทเป็นของตัวเองได้ ฟังดูแล้วมันช่างแสนวิเศษจริง

แน่นอนว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้ยากมากๆ แต่จู่ๆก็มีเงินก้อนโตตกมาใส่บัญชีของผม แต่มันก็เกิดขึ้นจริงกลับคนจีนคนนี้ ทางสื่อต่างประเทศได้รายงานว่า คุณหลีชาวจีน มีวันหนึ่งเขาได้รับ SMS มีข้อความเข้ามาว่า มีเงินในบัญชี แต่พอได้ดูยอดเงินทำให้เขานั้นตกใจ นึกว่าฝันไป ขอยอดเงินที่เขาเห็นนั่นก็คือ 100 ล้านหยวน หรือประมาณ 500 ล้านกว่าบาท

ด้วยความที่เขานั้นไม่เชื่อ จึงได้ใช้บัตร ATM ไปกดดู ก็พบว่ามียอดเงินจริงๆอยู่ในนั้น แว๊บแรกที่เขาคิดก็คงคิดว่าคงจะเป็นพวกมิจฉาชีพ แต่พอเข้าไปโทรถามที่ธนาคาร ธนาคารก็บอกว่าเขานั้นมีเงินในบัญชีที่เห็นจริงๆ

หลังจากนั้นเขาก็ได้ลองทำอะไรบางอย่างเพื่อความแน่ใจ จึงได้ทำการโอนเงินในบัญชี 100 ล้านหยวนส่วนหนึ่ง เข้าไปในบัญชีหนึ่งของเขา

ปรากฏว่าสามารถโอนให้สำเร็จ และก็มีเงินจำนวนนั้นอยู่จริง

ในตอนแรกในหลีไม่ได้ตั้งใจที่จะใช้เงินจำนวนนี้ แต่แค่ต้องการที่จะแน่ใจอะไรบางอย่างเท่านั้น ทันทีที่เขาโอนให้สำเร็จ ก็โทรไปแจ้งให้กับธนาคารรับทราบทันที พร้อมทั้งถ่ายภาพเก็บไว้ทุกขั้นตอน

แต่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง เมื่อเขาเข้าไปตรวจสอบและเช็คยอดเงินในบัญชี ก็ปรากฏว่าเงินจำนวนนั้นหายไปหมดเรียบร้อยแล้ว เพราะถูกโอนออกจากบัญชีไป ทำให้นายหลีรู้สึกโกรธมาก

นายหลีแจ้งว่า เขาโกรธนั้นเป็นเพราะว่า ทำไมธนาคารโอนเงินในบัญชีของลูกค้าออกไปได้โดยพละการ ทั้งๆที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบัญชีเลยสักนิด

นี่มันเป็นการละเมิดสิทธิ์ของเขาหรือเปล่า จะส่งข้อความหรือโทรมาแจ้งสักหน่อยก็ไม่มี แต่ตอนนี้นึกจะโอนออกไปก็โอนออกไปเฉย โดยไม่บอกไม่กล่าวอะไรสักนิด

แสดงว่าธนาคารสามารถเข้าระบบของลูกค้าได้ตามใจชอบหรอ

เมื่อโทรไปถามสอบถามเหตุผลกับธนาคาร ธนาคารคำบอกว่า

“ผมไม่รู้ไม่ทราบเลยครับ ผมไม่สามารถให้คำตอบกับคุณได้”

และเมื่อนักข่าวเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ในตำแหน่งสูงหน่อย ก็ได้คำตอบมาเช่นเดียวกัน

“ผมไม่รู้ ผมไม่แน่ใจ”

แล้วแบบนี้ประชาชนจะได้ใช้บริการอีกหรอ และจะให้ความไว้วางใจกับธนาคารได้อีกไหมเนี่ย

แปล / เขียน / เรียบเรียงโดย : Postsara

ขอขอบคุณ : foyuan

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here