แม่บ้านจับได้เงิน 60,000 ปาดหน้าทุกคน ก่อนไปเปิดกล่องดูชื่อ น่ำตาไหลทันที

0

แม่บ้านจับได้เงิน 60,000 ปาดหน้าทุกคน ก่อนไปเปิดกล่องดูชื่อ น่ำตาไหลทันที

วัฒนธรรมทางองค์กรที่สนุกสนาน ช่วยสร้างสีสันให้กับชีวิตของพนักงานเงินเดือน สิ่งเหล่านั้นนั่นก็คือ การจับฉลากลุ้นรางวัลใหญ่ประจำปี

เรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวของบริษัทๆหนึ่ง

ไม่มีการจัดปาร์ตี้ฉลองในวันปีใหม่ กับพนักงานทั่วไป โดยมีเงื่อนไขอยู่ว่า พนักงานทุกคนนั้นจะต้องมอบเงินคนละ 200 บาทเป็นกองกลางให้กับบริษัท ซึ่งทางบริษัทนั้นมีพนักงาน 300 กว่าคน ก็จะได้เงินกองทุนประมาณ 60,000 บาท สำหรับผู้ที่โชคดีจับฉลากขึ้นมาได้นั้น ขายได้เงินก้อนนี้กลับไปบ้านรับรองเลยว่าจะต้องโชคดีมากๆ

แน่นอนว่าทุกคนก็ต่างต้องการรางวัลใหญ่ก้อนนี้ ก็เหมือนกับเราทุกคนแหละที่ต้องการของรางวัล ต่างคนก็ต่างลุ้นว่าใครจะได้ทอง ได้รถจักรยาน ได้มอเตอร์ไซค์ ได้ทีวี อยู่จะได้เงินสดซึ่งเป็นของรางวัลชิ้นใหญ่ของบริษัท

ในงานวันรื่นเริงบรรยากาศก็คึกครื้น พนักงานแต่ละคนก็ต่างลงชื่อใส่ในใบฉลาก แล้วก็เอาไปหย่อนลงในกล่องรางวัล ในขณะที่กำลังเขียนชื่อตัวเองลงในใบฉลากอยู่นั้น อยู่ๆก็มีพนักงานหนุ่มคนหนึ่งเกิดความลังเล นึกถึงแม่บ้านทำความสะอาดของบริษัท ที่ลูกชายของตัวเองนั้นกำลังเจ็บป่วย และเฝ้ารอที่จะผ่าตัดอยู่

แต่เธอไม่มีเงินพอที่จะดูแลรักษาค่าใช้จ่ายของลูกเธอได้ ทำให้เธอนั้นกุ้มใจมาก แม้ว่าโอกาสที่จะถูกจับชื่อขึ้นมาก็เลือนลางเหลือเกิน 1 ใน 300 คน แต่พนักงานหนูคนนี้ก็ได้ตัดสินใจเขียนชื่อแม่บ้านลงไปในฉลากของเขาเอง
และในช่วงเวลาที่ทุกคนได้รอคอยก็มาถึง ขณะที่ผู้จัดการบริษัทเป็นผู้จับฉลาก มีพนักงานคนนั้นได้กล่าวคำอธิษฐานในใจและขอให้แม่บ้านได้รางวัลด้วยเถิด

และไม่น่าเชื่อปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจริง เมื่อผู้ได้รางวัลนั่นก็คือ

คุณแม่บ้านทำความสะอาด

เสียงยินดีดังลั่นทั่วบริเวณ แม่บ้านคนนั้นขึ้นไปรับรางวัล เธอนั้นดีใจถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จริงๆ ด้วยความซาบซึ้งและได้กล่าวว่า

“ฉันโชคดีจริงๆ เงินก้อนนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของฉันและลูกชายได้มากเลยค่ะ”

เมื่องานเลี้ยงจบ พนักงานหนุ่มก็คงคิดเรื่องปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น จึงเดินไปที่กล่องจับฉลาก และก็ได้หยิบใบสลากขึ้นมาดูก็พบว่าทุกชื่อล้วนเป็นชื่อของแม่บ้านทั้งนั้น เหมือนกันหมด แต่ลายมือแตกต่างกันออกไป ซึ่งทำให้เขานั้นถึงกับน้ำตาซึมและเข้าใจเลยว่า

ในโลกนี้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นจริง และมันก็ไม่ได้หล่นมาจากฟากฟ้าแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะมนุษย์ที่สร้างมันขึ้นมาเอง และสอนให้ได้รู้ว่า หากเรารู้จักเห็นใจซึ่งกันและกัน สังคมก็จะมีแต่ความสุขความรุ่งเรือง ด้วยความสุขที่เป็นผู้ให้และเป็นผู้รับ มันเป็นสุขทั้งกายทั้งใจที่ดีจริงๆ

เหนือคำบรรยายมากกว่าสิ่งอื่นใด หากแม่บ้านคนนี้ไม่ใช่คนที่น่ารัก ไม่ใช่คนที่หน้าอกเห็นใจ ไม่ๆคนนี้เป็นคนดีที่ใครๆก็อยากจะช่วยเหลือ เชื่อว่าปาฏิหาริย์ที่ได้รับในครั้งนี้ เกิดจากความดีความงามของคุณแม่บ้าน

คำกล่าวคำสุดท้ายของแม่บ้านก่อนที่จะเดินกลับบ้านนั้นก็คือ

ขอขอบคุณความดีความงามที่ฉันได้สร้างไว้ ถ้าไม่มีเงินก้อนนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าชีวิตลูกของฉันในวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ฉันตื่นมาในตอนเช้าจะได้ทำกับข้าวให้ลูกได้กินหรือไม่ ฉันต้องขอบคุณปาฏิหาริย์ในครั้งนี้จริงๆ

แปล / เขียน / เรียบเรียงโดย : Postsara

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here