คนต้นแบบ เลิกเล่น 10 ปี “หายจน-หมดหนี้” ชีวิตเปลี่ยนไปมาก

0

คนต้นแบบ เลิกเล่น 10 ปี “หายจน-หมดหนี้” ชีวิตเปลี่ยนไปมาก

“ป้าชิน ใจเย็น” วัย 56 ปี เป็นบุคคลหนึ่งที่ถูกยกเป็นบุคคลต้นแบบของบ้านผาตั้ง จังหวัดพะเยาทำไมถึงได้เป็นบุคคลที่ถูกยกเป็นคนต้นแบบ เพราะหลังจากที่เธอได้ “เลิกเล่นการเสี่ยงโชคเสี่ยงดวง” “งดดื่มเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด” มุ่งมั่นปณิธานเปลี่ยนเงินเสี่ยงดวงให้เป็นเงินออม ปฏิบัติตนอย่างจริงจังอย่างต่อเนื่อง โดยใช้หลักคำสอน “การพอเพียง” และ ”การออม” เป็นกุศโลบายสำคัญสุดท้ายชีวิตของเธอหายจน หมดหนี้ที่ตัวเองมีภายใน 10 ปี

เธอบอกว่าเลิกเล่น 2 อย่าง เลิกเล่นการเสี่ยงดวง เลิกกินของมึนเมา ชีวิตของเธอก็ดีขึ้นจากที่ไม่มีเงินมีเงินเก็บ มีเงินใช้หนี้ ป้าชิน ใจเย็น เริ่มสนทนาเปิดใจด้วยน้ำเสียงสดใสหลังเลิกเล่นมาได้ 19 ปีนับตั้งแต่ปี 2543 จนถึงในปัจจุบันนี้

ย้อนวันวานเมื่อ พ.ศ. 2525 ป้าชินได้ผันตัวเองเข้าสู่วงการเสี่ยงโชคเสี่ยงดวง และเป้าหมายของเธอคืออยากรวย ลงทุนบาทเดียวได้ 500 บาท ประจวบกับพ่อของตัวเองได้จากลาไป และได้ตีเป็นเลข 140 ข้อสันนิษฐานของเธอว่าบ้านเลขที่คือ 14 ส่วนพ่อจากไปคือเลข 0 ปรากฏว่าถูก “ใต้ดิน” เลข 140 ได้เงิน 9 พันกว่าบาท ยิ่งทำให้ป้าชินติดใจ จากนั้นก็ “เล่น” มาเรื่อยๆ

และจากนั้นเริ่มมีความโลภมากขึ้นเรื่อยๆ จากซื้อเบอร์ละ 20-30 บาท ขยับเป็นเบอร์ละ 100 บาท แต่ละงวดหมดเงินซื้อ 2-3 ร้อยบาท แต่ก็ไม่เคยถูกอีกเลย จึงคิดได้ว่าน่าจะจดบันทึกไว้ จะได้รู้ว่าคุ้มหรือไม่กับการที่ตัวเองนั้นลงทุน โดยพอซื้อแล้ว จะเก็บกระดาษที่เขียนเลขไว้ทุกงวด เมื่อนำยอดมาสรุปแล้ว จึงมีคำตอบให้ตัวเองว่า ถึงเวลาแล้วล่ะที่ต้อง “เลิกเล่น” เสียที

“ซื้อไม่ถูกก็ผิดหวัง คิดว่างวดหน้าต้องเอาให้ได้ ต้องแก้มือ ก็ซื้อทบไปอีก พอไม่ถูกก็รู้สึกแย่ เสียดายเงิน 300-500 บาท เอามาซื้อกิน จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ใช้จ่ายในครอบครัว หรือออมไว้ใช้หนี้ ธ.ก.ส. 130,000 บาทก็ยังดี เลยมาคิดๆ ดูว่าถ้าซื้อเบอร์ละ 1 บาท มันมี 1,000 เบอร์ 000 ถึง 999 มันก็หมด 1,000 บาท 1,000 เบอร์จะถูก 1 เบอร์ แต่เราได้มาแค่ 499 บาท ได้ไม่เกินครึ่งด้วยซ้ำ ยังไงก็ขาดทุน อีกอย่าง ป้าเก็บบิลไว้ พอลองรวมเงินที่ซื้อทั้งหมดมา 18 ปี ตั้งแต่ปี 25 ถึงปี 43 หมดเงินไป 180,000 บาท แต่ป้าเคยถูกครั้งเดียวแค่ 9,500 บาทเอง พอเห็นยอดเงินแล้วรู้สึกตกใจว่า เราหมดเงินไปขนาดนี้เลยหรือ ก็เลยเลิกเล่นมาจนถึงเดี๋ยวนี้”

วิธีการ “เลิก” ของป้าชิน เริ่มจากค่อยๆ เลิก ด้วยเคล็ด “ซื้อกับตัวเอง” โดยเขียนจดตัวเลขที่ต้องการซื้อในกระดาษเป็นร้อยๆ เบอร์ เบอร์ละเป็นพัน เบอร์ละหมื่น บางงวดก็ซื้อหมดไปเป็นแสน แล้วเก็บไว้เอง พอเลขออก ผ่านไปกี่งวดๆ ก็ไม่เคยถูก จนสุดท้ายก็ตัดสินใจเลิกเล่นอย่างเด็ดขาด แล้วหันมา “ออมเงิน” ภายใน 10 ปี ปลดหนี้ ธกส. 130,000 บาท ได้สำเร็จ

ป้าชิน ปลดหนี้ได้ เพราะ “เลิกเล่น” และใช้ชีวิต “พอเพียง”

และไม่เพียงแต่จะส่งเสริมให้คนในครอบครัวออมเงินเท่านั้น ป้าชิน ยังรณรงค์ให้คนในหมู่บ้านหันมา “ออมเงิน” จนสามารถตั้งกลุ่มออมทรัพย์ของหมู่บ้านขึ้นในปี 2551 แล้วนำเงินออมที่ได้นำปล่อยกู้ จน 5 ปีต่อมา คืนเงินต้นและ “ดอกเบี้ย” ให้สมาชิก มีหลายคนในหมู่บ้านได้เงินคืนเป็นแสน ส่วนป้าชินมี “เงินฝาก” ทั้งสิ้น 5 หมื่นกว่าบาท

“หลังเลิกเล่น ก็ออมเงินมาเรื่อยๆ แรกๆ ก็ออมกับกระปุกที่บ้าน แล้วนำเงินไปเข้าบัญชีออมทรัพย์รายวันของ ธ.ก.ส. สะสมได้ 10 ปี พอปี 53 ก็มีเงินใช้หนี้ ธ.ก.ส. ทั้งหมดแสนกว่า ก็ยิ่งทำให้ป้าเห็นว่าถ้าเราออม ยังไงๆ เราก็มีเงินแน่นอน

แรกๆ ป้าต้องรอเงินเหลือก่อนแล้วค่อยออม เลยออมเงินได้นิดเดียว ปีแรกได้แค่ 5-6 พัน ตอนหลังคิดได้ว่า ได้เงินมาแล้วต้องแบ่งเก็บก่อน แล้วค่อยแบ่งใช้ ตั้งเป็นมาตรฐานตัวเองไว้ อีกอย่างต้องตั้งเป้าในการออม แล้วเราก็จะออมเงินได้สำเร็จ ตอนนี้ครอบครัวมี 5 คน ก็ออมคนละ 300 ตกเดือนละ 1500”

ยาย “เล่น” หมดเงิน 4 ล้าน 7 “ขายที่” ซื้อเลขต่อ หวังได้คืน

ปัจจุบันเมื่อได้ยินข่าวว่า “คนถูกเลข” ป้าชินไม่มีความรู้สึกอิจฉา หรืออยากกลับไปเล่นอีกเลย เพราะรู้แล้วว่า กว่าจะถูก ต้องหมดเงินไปเยอะ หลัง “เลิกเล่น” ชีวิตป้าชินพ้นทุกข์ ดีและมีความสุขมากขึ้นๆ ปัญหาทะเลาะกับคนครอบครัวก็ไม่มี จากแต่ก่อนเมื่อไม่มีเงินพอใช้จากการเล่น เครียดก็ดื่มเหล้า แล้วก็จะทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำ

ป้าชินจึงอยากให้คนในชุมชนมีความสุขมี “เงินเก็บ” และ “พ้นทุกข์” “หมดหนี้” เหมือนตัวเองบ้าง เพราะในชุมชน ยังมีบางคน มีความหวังกับการ “เล่น” อยู่ เพราะรวมๆ เงินที่ซื้อกันแล้ว เดือนๆ หนึ่งทั้งหมู่บ้านน่าจะหมดประมาณ 4-5 หมื่น และถ้าเป็นทั้งตำบลจะหมดเงินไปอีกมากโข เท่ากับส่งเงินให้ “เจ้ามือ” รวยเห็นๆ ป้าชินจึงมักใช้ประสบการณ์ตัวเองเป็น กระบอกเสียงให้คนอื่นทำตาม ซึ่งมีอยู่หนึ่งเคสที่เคยแนะนำ พบยอดเงินซื้อมากว่า 40 ปี หมดไปเกือบ 5 ล้าน

“มีตัวอย่างของป้าคนหนึ่ง ตอนนี้อายุ 80 กว่า เขาเดินตั้ง 11 กิโลเพื่อไปซื้อ พกเงินไป 7,000 บาท พอเลขออก ไม่ถูก ก็ร้องไห้เดินกลับบ้าน แต่แกก็ไม่หยุดเล่นนะ ป้าชินก็ไปหา ไปคุย และเขียนให้แกดูว่า เล่นมาตั้งแต่สมัยไหน ตั้งแต่อายุเท่าไร ปรากฏว่าแกเล่นภายใน 40 กว่าปี หมดเงินไปตั้ง 4,700,000 บาท

แล้วป้าชินถามว่าเคยถูกไหม ก็เคยถูก 6 หมื่น แต่ก็ถูกโกง จึงเขียนติดไว้ที่บ้านเขาว่า ตอนนี้หมดเงินไปเท่านี้แล้วนะ แล้วจะให้หมดต่ออีกเท่าไหร่ ก็พูดให้เขาได้คิดด้วยว่า ถ้าเขาเก็บเงิน เขาก็จะมีเงิน 4,700,000 แต่นี่เขาไม่มีเงินเลย จนตอนนี้เขาก็ยังเล่นอยู่เหมือนเดิม จนต้องขายที่เมื่อปี 59 เพื่อเอาเงินมาซื้อ บอกจะตามหาเงิน 4,700,000 คืน”

“เพียงพอ” อีกหนึ่งทางรอดของชีวิต คือ “พอเพียง”

นอกจากการ “เลิก” ช่วยให้ป้าชิน “หายจน” “หมดหนี้” ภายใน 10 ปี แล้ว ป้าชินเผยว่า อีกสิ่งสำคัญที่ทำให้ชีวิตมีความสุขยิ่งๆ ขึ้น คือ การหันมาใช้ชีวิตแบบพึ่งตนเอง ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของ ร. 9 หลังจากที่ได้เข้าร่วมโครงการ “๙ สู่ชีวิตพอเพียง” ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และมูลนิธิรณรงค์หยุดพนั น ได้ร่วมกันจัดทำขึ้น โดยปลูกผักกินเอง และยึดหลักความประหยัด อะไรไม่จำเป็นก็ไม่ซื้อ

“เมื่อก่อนไม่เข้าใจ มันไม่เพียงพอแล้วจะให้พอเพียงได้ยังไง แค่จะกินยังไม่มี หนี้ก็ยังเยอะ จะให้พอเพียงได้ยังไง แต่พอเข้าร่วมโครงการฯ ได้เรียนรู้ ศึกษาดูงานในหลายๆ จังหวัด เห็นภาพของพระองค์ท่านทรงงาน ได้เรียนรู้วิธีคิดของพระองค์ ท่านเคยบอกไว้ว่าทำยังไงถึงจะรอด จะใช้ชีวิตทางเลือกหรือทางรอด คนเราก็ต้องใช้ทางรอดไว้ก่อน

ยากจนแร้นแค้นไม่มีปัญหา ถ้ามีปัญญาพาชีวิตรอดได้ ถ้าใครอยากหายจน “เลิกกู้เงิน” “เลิกพนั น” “เลิกเล่น” ท่านจะ “หายจน” ภายใน 10 ปี เหมือนป้า ไม่เชื่อก็ลองดู” ป้าชินกล่าวทิ้งท้าย

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก ไท ยรัฐ , ชิน ใจเย็น

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here