“คนที่อยู่ในกะลา” มักแปรเจตนาคำพูดของผู้อื่น ในแบบที่ผิดเสมอ

0

“คนที่อยู่ในกะลา” มักแปรเจตนาคำพูดของผู้อื่น ในแบบที่ผิดเสมอ

ต่างคนต่างมุมมองต่างความคิด ความคิดเป็นสิ่งที่ไม่มีข้อกำหนดกฎเกณฑ์ไม่สามารถบังคับใครได้คิดตามเรา ความคิดเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ ทุกคนจึงมีความคิดที่แตกต่างกันออกไป ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิดตามมุมมองของตัวเอง จริงๆแล้วการคิดจะมีขั้นตอนของความคิดเป็นลำดับขั้น และมีการใช้ทักษะการคิดหรือลักษณะการคิดหลายๆอย่าง ซึ่งผลที่ทำให้เกิดความคิดนั้นๆ มาจากสิ่งแวดล้อม จากการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัว และพื้นฐานทางด้านการศึกษาของบุคคลนั้นๆ

คนที่มีลักษณะความคิดที่ใจแคบ มักจะคิดแปลเจตนาของผู้อื่นไปในทางที่ผิดอยู่เสมอ

คนที่มีลักษณะความคิดที่ใจกว้างมาก มักจะแปลผู้อื่นไปในทางที่ดีอยู่เสมอ

ไม่ว่าจะเป็นคนใจแคบ หรือคนใจกว้าง เราสามารถเลือกได้ว่าเราอยากเป็นคนที่มีความคิดในรูปแบบไหน ถ้าคุณมองรอบข้างทุกคนเป็นเหมือนต้นไม้ใบหญ้า คุณก็เปรียบเสมือนต้นไม้ใบหญ้าที่ปกคลุมอยู่คุณก็คือ กระถาง ถ้าคุณมองรอบข้างทุกคนเป็นเหมือนของที่มีค่า คุณก็จะกลายเป็นคนมีค่า คุณก็คือภาชนะที่ใส่ของมีค่าเหล่านั้น

ชีวิตของคนเราแตกต่างกันออกไป และยิ่งแตกต่างกันออกไปอีกเมื่อเราได้มอง จงเลือกมองมุมมองที่ดีของคนอื่น ชื่นชมในข้อดีและไม่เอาข้อเสียของคนอื่นมานั่งคิด ยิ่งคุณมองโลกให้กว้าง โลกก็จะยิ่งกว้างไปอีก ถ้าเราทำอะไรรู้จักเหตุ ก็สามารถสร้างเหตุขึ้น ผลก็จะตามมาเอง แต่คนทั่วไปกลับไม่มองแบบนั้น เพราะคนส่วนใหญ่ต้องการได้แต่สิ่งดีๆ แต่ไม่สร้างความดี และความดีที่เกิดจะมาจากสิ่งไหน คุณก็ต้องพบเจอแต่สิ่งที่ไม่ดีเป็นธรรมดา

เมื่อคุณได้ผลที่ไม่ดี ได้แต่สิ่งที่ไม่ดีใจคุณก็เป็นทุกข์ ใจร้อนไฟสุม

จงพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ มิฉะนั้นตัวคุณจะเป็นขี้ข้าของคำว่า เงิน

มีรถยนต์ใช้อยู่จงใจกับรถยนต์ มีนาฬิกาใส่จงพอใจกับนาฬิกา

มีเสื้อผ้าใส่จงพอใจกับเสื้อผ้า เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดของการเลิกเป็นขี้ข้าของคำว่า เงิน

คือความพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ และเริ่มต้นรู้จักคำว่า พอเพียง

เมื่อก้าวข้ามผ่านคำว่าเป็นขี้ข้าคำว่าเงินแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องหาเงินมาก เพราะไม่มีความจำเป็นต้องหาเงินมาก เราก็จะมีเวลามากขึ้นเพื่อทำอะไรในสิ่งที่คุณอยากทำ

ความคิดที่มีต่อผู้อื่น มุมมอง และวิธีเลือกใช้เพื่อรับมือกับสิ่งต่างๆ ที่เข้ามาโดยที่ไม่ได้ตั้งหลัก เป็นสิ่งที่เป็นตัวตัดสินขนาดความสุขในชีวิต จงฝึกให้ตัวเองเป็นคนมองโลกในแง่มุมบวก

เปลี่ยนความคิดด้วย 5 แนวคิด ฝึกแล้วชีวิตดีขึ้น

1. เลือกมองอะไรในมุมกว้าง

จงมองเรื่องราวต่างๆ เป็นภาพรวม อย่ามัวใส่ใจกับอะไรเล็กๆน้อยๆ จนเกิดเป็นปัญหาเพราะเมื่อไหร่ที่เรามองจุดเล็กๆน้อยๆให้ความสนใจกับมันมาก เราจะเกิดอารมณ์หงุดหงิดและตำหนิจนทำให้จุดเล็กๆน้อยๆเหล่านั้นขยายใหญ่ขึ้นมา จุดเล็กๆน้อยๆนี้เปรียบเสมือนกับสิ่งที่ไม่ดีในตัวเรา จงหัดปล่อยผ่านมันและเลิกให้ความสนใจ จงเลือกมองภาพรวมสิ่งอื่นๆ

2. ทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อไหร่ที่ปล่อยวางจะเกิดสุข

เรื่องหลายเรื่องเมื่อได้ปล่อยวางก็จะรู้สึกว่าเบาลง มันเป็นเรื่องจริงของกฎของธรรมชาติ เพราะเมื่อไหร่ที่เราถือไว้หนักมากเกินไปปล่อยวางลงก็จะเบา ฉะนั้นเมื่อเราเกิดความผิดพลาดจึงต้องลุกยืนให้เร็ว และให้โอกาสตัวเองอยู่เสมอ ไม่ควรเสียเวลานั่งจมกับความเสียใจ เสียดาย และนึกถึงวันเก่าๆ เพราะไม่เพียงแต่ไม่สร้างประโยชน์และคุณค่าอะไรกับเราแล้ว ยังทำให้เราต้องจมอยู่กับอดีต อยากให้คุณตัดมันทิ้งไปแล้วเลือกที่จะอยู่กับปัจจุบัน ปล่อยวางแล้วเริ่มต้นใหม่เมื่อคุณล้มแล้วคุณจงลุกให้ไวแล้วคุณก็จะเริ่มมีความสุข

3. เวลาของชีวิตมันไม่ได้มีมากมายอยากทำอะไรจงรีบทำ

เมื่อไหร่ที่เรารู้แล้วว่าเราชอบทำสิ่งไหน ชอบทำอะไร งานแบบไหน จงเลือกที่จะทำมัน จงมีความสุขที่ได้ทำ เมื่อคิดสิ่งต่างๆและอยากทำจงรีบลงมือทำ ทีเด็ดบอล 888เพื่อให้ชีวิตได้เกิดความเปลี่ยนแปลง อย่าทำงานที่คุณว่าน่าเบื่อ อยากให้คุณทำอะไรที่ชอบแล้วคุณจะรู้สึกอิสระในการทำงาน จงรู้จักที่จะวางแผนเงินออมเพื่อเตรียมพร้อมรับมือ เมื่อคุณต้องการใช้หรือต้องการลงทุน จงมองหาช่องทางทุกอย่างในการฝึกฝนเพื่อให้ตนเองประสบความสำเร็จเพื่อเพิ่มทักษะและพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นไปอยู่เสมอ

เมื่อคิดได้แล้วจงลงมือทำ เมื่อไหร่ที่มีโอกาสจงเริ่มลงมือทำ เมื่อไม่มีโอกาสจงหาหนทางใหม่ๆ เปิดโลกใหม่ๆ เมื่อไหร่ที่คุณเห็นจังหวะและโอกาสที่ใช่ คุณควรเลือกที่จะลงมือไม่ปล่อยให้หลุดมือไป เพราะเมื่อไหร่ที่ทำงานที่คุณไม่ชอบแล้วคุณก็จะยิ่งลดความสุขของตัวเองลงไปเรื่อยๆ

4. ปฏิเสธในสิ่งที่ไม่อยากทำ เกรงใจใครให้น้อยลง

เรื่องบางเรื่องเราไม่ควรเกรงใจใคร อย่าไปตอบปากรับคำใครหรือช่วยเหลือทุกคนที่มาขอร้อง เพราะถ้าคุณรับปากแล้วคุณต้องทำให้ได้ ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณทำไม่ได้มันจะยิ่งแย่หนักไปกว่าเดิม เพิ่มเติมคือความเครียดสะสมให้ตัวเอง จงคิดไว้เสมอว่าเราไม่ใช่บุคคลที่มีความสามารถทุกอย่างที่จะช่วยเหลือใครได้ เราไม่จำเป็นต้องดูแลใครทุกคน โดยเฉพาะบางคนที่อาจจะไม่เคยดีกับเรามาก่อนเลย ไม่เคยเห็นค่าเรา จงเลือกแคร์คนที่เขาแคร์เรา รักเรา อย่าทนทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้อยากทำ อย่าให้ค่ากับคนที่ไม่ควรให้ค่า จงเลือกที่จะเป็นคนที่ปากตรงกับใจไม่เอาใจใครมากเกินไปแล้วตัวเองเดือดร้อน

5. จงมองทุกอย่างเป็นแง่บวก

ไม่ว่าเราจะพบเจอสถานการณ์แบบไหน ถ้าเลือกที่จะเป็นคนคิดบวกแล้ว จงเลือกแสดงความรู้สึกเหตุการณ์ในมุมมองที่คิดบวก เพราะผลการคิดบวกจะส่งผลให้คุณมีความคิดที่ดี อีกทั้งยังเปิดกว้างไม่มองโลกในแง่ลบจนหาทางออกไม่เจอ เมื่อคุณมองโลกในแง่บวกแล้วคุณจะมองเห็นทางออกและแก้ไขปัญหาได้ ลดความตึงเครียดในการใช้ชีวิตได้ อย่าปล่อยให้อคติมาปิดกั้นจนคุณมองไม่เห็นทางออก และนำเอาอคติมาปิดกั้นโอกาสในชีวิตคุณ

เขียน / เรียบเรียง : postsara

ขอบคุณข้อมูลจาก : item2day

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here