สามีภรรยากำลังจะไปหย่า จู่ๆ “คนขับรถแท็กซี่” พาไปยัง บ้านร้างเก่าๆ
สำหรับบทความในวันนี้อยากให้คนมีคู่ได้อ่านกันทุกคนนะครับ หากว่าคุณกำลังเจอปัญหาอยู่ กำลังเจอปัญหาเกี่ยวกับความรัก จนคิดที่จะเลิกรากันไป ไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้ว เหมือนอย่างสามีภรรยาในคู่นี้ ก็ลองอ่านดูนะครับ เชื่อว่าหลายคนที่กำลังคิดแบบนี้จะเปลี่ยนไปเลย ไม่อยากให้เลื่อนผ่านจริง เอาอยากจะให้ชีวิตของทุกคู่นั้นดีมีความสุข และก็อย่าลืมแนะนำบทความดีๆแบบนี้ให้กับผู้อื่นให้อ่านด้วยนะครับ
เรื่องราวมีอยู่ว่า
นายสม มีอาชีพเป็นพนักงานขับรถ ซึ่งเขาได้เล่าให้ฟังว่า มีวันหนึ่งเขากำลังรับผู้โดยสาร 2 คน ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน และทั้งสองสามีภรรยานั้นกำลังมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่ ในขณะที่กำลังขับรถไปส่งเขาทั้งสองคน นายสมก็ได้ยินเสียงทะเลาะมาจากเบาะด้านหลังว่า
สามีของเขานั้นกำลังมีชู้อยู่ แต่สามีก็ไม่ยอมรับว่ามี และกล่าวหาว่าภรรยานั้นเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว
นายสมได้ยินอย่างนั้นก็เลยไม่ได้ขับรถไปยังจุดหมาย ซึ่งจุดหมายที่ 2 สามีภรรยาคนนี้กำลังจะไปนั่นก็คือสถานที่หย่าร้าง
นายสมกับไปที่ชานเมือง เมื่อสามีภรรยาคู่นี้เห็นว่ากำลังไปในทางที่ผิด ถึงบอกให้หยุดรถ แต่ด้วยความที่คนขับรถเป็นคนที่ขับรถเร็ว เขาไม่สนใจอะไร บึ่งรถไปยังสถานที่ลับหูลับตาผู้คน
จากนั้นนายสมก็ได้จอดรถและหยิบท่อนเหล็กออกจากเบาะด้านหลัง บังคับให้เขาทั้งสองคนลงจากรถ
สามีเห็นก็พูดว่า
“ขอร้องเถอะท่านอย่าทำอะไรพวกเราเลย ภรรยาของผมเป็นคนที่ขวัญอ่อน กลัวแม้กระทั่งหนู อยากจะได้อะไรเอาไปให้หมดเลยแต่อย่าทำอะไรเธอ”
ภรรยาที่หลบซ่อนอยู่ด้านหลังสามีก็พูดประโยคออกมาว่า
“สามีของดิฉันเป็นโรคหัวใจอยู่ วันนี้รีบออกมาก็เลยลืมเอายาติดตัวมาด้วย ถ้าอยากได้เงินก็เอาไปเลย แต่อย่าทำให้เขาตกใจนะ”
นายสมจึงพูดออกมาว่า
“พวกคุณจะมาหย่ากันไม่ใช่หรอ นี่ไงเข้ามาถึงแล้วไง”
นายสมบังคับให้เขาทั้งสองคนเดินเข้าไปในบ้านร้างแห่งหนึ่ง เห็นชัดเลยว่าสถานนี้เคยเป็นบ้านหรูหราที่เคยถูกไฟไหม้มาก่อน
นายสมตะคอกและพูดออกไปว่า
“เดินเข้าไปสิ มาถึงที่แล้วนะ‘
เมื่อทั้งสองคนเดินเข้าไปสามีจริงพูดออกมาว่า
“พาเรามาที่นี่ทำไม?” อยากได้เงินก็เอาไปเลย อย่าทำอะไรพวกเราสองคนเลย เราทั้งสองคนสัญญาว่าจะไม่แจ้งตำรวจ
สีหน้าของภรรยาเขาเริ่มซีดและอ่อนแรงลง ส่วนสามีอาการตกใจก็เริ่มมากขึ้น เขาทั้งสองคนกอดกันไว้
ทันใดนั้นในนายสมได้พูดว่า
ที่นี่คือสถานที่หย่าร้างของพวกคุณที่ต้องการ
เมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา สถานที่แห่งนี้คือบ้านของผมเอง ผมเคยมีบริษัทใหญ่โตมโหฬาร ภรรยาและลูกชายที่น่ารักของผมก็อยู่ที่นี่ ผมใช้เงินทั้งหมดไปกับการซื้อบ้านซื้อที่ดินจำนวนมาก และสร้างบ้านหลังนี้ไว้
ผมทำงานหามรุ่งหามค่ำจนไม่มีเวลาให้ครอบครัว จนภรรยาคิดว่าตัวผมเองนั้นไปมีชู้ และเราทั้งสองคนก็ลืมดูแลลูก จนในที่สุดลูกของผมก็ตกน้ำในสระแล้วก็จากไป
หลังจากนั้นเราทั้งสองคนก็ได้อย่ากัน เธอได้จุดไฟเผาบ้านหลังนี้ด้วยความโกรธ จนกระทั่งบริษัทของผมก็ล้มละลาย ในทุกวันนี้ผมจะต้องออกมาขับรถแท็กซี่แทน
นายสมได้พูดต่อว่า
เห็นไหมว่าเมื่อสักครู่ตอนที่กำลังจะเกิดอันตรายกับพวกคุณทั้งสองคน ต่างคนก็ต่างคอยปกป้องกันและกัน แสดงว่าพวกคุณก็ยังรักกันอยู่ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ควรที่จะไปหย่ากันเพราะเรื่องแค่นี้
ภรรยารู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังจับมือของสามีอยู่ ก็เลยสะบัดมือทิ้งไป แต่สามีก็เอื้อมมือไปคว้ามา และก็พูดว่า
ผมอยากจะบอกคุณว่า สิ่งที่ผ่านมาคุณกำลังเข้าใจผมผิดอยู่ เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมจะได้ไหม
ภรรยาไม่ได้ตอบแต่อย่างใด แต่เขากลับไปกอดสามีแทน
หลังจากนั้นนายสมก็พาพวกเขาไปยังบ้าน ภูเขาก็ชวนในฟอร์มรับประทานอาหารด้วยกัน แต่ไม่สมกับปฏิเสธและพูดออกมาว่า
“พวกคุณยังไม่ได้หย่าร้างกัน สิ่งที่ผมทำในวันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว”
จากนั้นเขาก็ขับไปโรงพยาบาล เพื่อที่จะไปหาภรรยาที่เป็นเจ้าหญิงนิทาอยู่ เขาได้พูดกับภรรยาว่า
“ที่รักครับ ในวันนี้ผมได้ช่วยเหลือได้อีก 1 ครอบครัวแล้ว หวังว่ามันจะช่วยแก้กรรมของเราได้ ถ้าคุณจะยกโทษให้ผม ช่วยฟื้นมาพูดกับผมทีได้ไหม..”
ชีวิตของเรานั้นไม่มีอะไรแน่นอน หากคุณและคนที่คุณรักกำลังทะเลาะกัน อย่าลืมที่จะทำความเข้าใจ อย่าลืมว่าคนคนนี้เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา
และอย่าลืมที่จะแชร์ความดีๆให้กับบุคคลท่านอื่นได้อ่านด้วย เพื่อที่จะเป็นบุญกุศล ได้ช่วยเหลือคนที่กำลังเป็นเหมือนสามีภรรยาคู่นี้
แปล / เขียน / เรียบเรียงโดย : Postsara
ไม่อนุญาตให้ทำการคัดลอก