อย่าทำตนเองเป็นม้าพันลี้ อย่าคิดว่าตนเองเก่งเกินใคร

0

อย่าทำตนเองเป็นม้าพันลี้ อย่าคิดว่าตนเองเก่งเกินใคร

ในเมืองหนึ่ งได้มีม้าหนุ่มพันลี้ที่มีความแข็งแรง มีความเก่ง มีความสามารถที่จะวิ่งได้ในระยะทางเป็นพันลี้ โดยที่ไม่มีความเหน็ดเหนื่อย และยังคงวิ่งได้เร็วมาก และม้าตัวนี้รู้ตัวเองดีว่าตนมีความสามารถเพียงใด ใครๆก็ต่างที่จะต้องการ มันจึงรอให้ผู้ที่มีความสามารถให้ผู้ที่มีความรู้และดีเทียบเท่ากันที่จะยอมให้มันขี่ได้

และในระหว่างที่มาตัวนี้ได้รอคนที่มาคิดว่ามีความเหมาะสมที่สุด ก็ได้มีผู้คนเข้ามามากมาย มีพ่อค้าได้เข้ามาหาม้าตัวนี้และได้ถามว่า เจ้าจะยอมไปกับข้าหรือไม่ ม้าพันลี้ได้ส่ายหัว และตอบไปว่า ฝีเท้าดีๆแบบข้าทำไมที่จะต้องยอมไปกับเจ้าด้วยแค่ไว้ใช้งานขนของด้วยล่ะ

และได้มีคนเข้ามาถาม เจ้าจะยอมไปกับข้าหรือไม่ มาพันลีส่ายหัวและตอบว่าเจ้าเป็นแค่ท ห า รคนธรรมดา ทำไมตัวข้าจะต้องไปรับใช้คนแบบเจ้าด้วย

มีนายพราน เข้ามาหาม้าตัวนี้ และถามว่าเจ้าจะยอมไปกับข้าหรือไม่ ม้าพันลี่ส่ายหัวและได้ตอบว่า ข้าเป็นถึงม้าพันลี้ทำไมต้องเลือกที่จะไปทำงานหนักรับใช้นายพรานแบบคนอย่างเจ้าด้วยล่ะ

และเมื่อเวลาได้ผ่ านไปเนิ่นนานหลายปี ม้าพันลี้ตัวนี้ก็ยังคงหาเจ้านายแบบที่ฝันไม่เจอสักที ถึงแม้ว่าจะมีผู้คนจำนวนมากเข้ามาถาม เจ้าม้าตัวนี้ก็ไม่ยอมที่จะเลือกรับใช้ใครเลย

ข่าวความเก่งกาจและความสามารถของม้าพันลี้ตัวนี้ได้กระจายไปทั่วจนถึงในวังหล ว ง และได้มีรับสั่งให้ขุนนางท่านหนึ่ งไปตามหาม้าพันลี้ ไม่นานขุนนางมาพบกับม้าพันลี้ ก็ได้แนะนำตัวและได้ถาม เมื่อม้าพันลี้รู้ว่าคนที่มาหาเป็นถึงขุนนางชั้นสูงก็ดีใจเป็นอย่างมากที่จะได้รับใช้คนที่เหมาะสมกับตนเองและรอเวลามานานแสนนาน ม้าพันลี้จึงได้พูด กับขุนนางว่า ข้าคือม้าพันลี้ที่ท่านตามหาอยู่ แต่ก่อนที่คุณนางจะพากลับไปในวัง จึงได้ถามม้าพันลี้ว่า เจ้าเชี่ยวชาญเส้นทางในประเทศเราหรือไม่

ม้าพันลี้ตอบกลับไปว่า ไม่ เพราะข้าไม่ได้เดินทางไปไหนมานานมากแล้ว ขุนนางก็เลยมีคำถามต่อ เจ้าเคยมีประสบการณ์ในการสู้บ้ างไหม ม้าพันลี้ก็ตอบว่า ไม่ ข้าไม่เคยเข้าร่วมรบ เพราะข้าไม่รับใช้คนธรรมดา

ขุนนางก็เลยถามต่อไปว่า เจ้าเคยเข้าป่าเพื่อให้คนขี่ใช้วิ่งหาสัตว์ไหม ม้าพันลี้ตอบว่า ไม่ ข้าไม่ใช่ม้าธรรมดาที่จะให้นายพรานขี่ เพื่อใช้งาน

ขุนนางท่านนี้เลยได้พูดขึ้นมาว่าแล้วข้าจะเอาเจ้าไปใช้ประโยชน์อะไรได้ ม้าพันลี้เลยได้บอกว่า ข้าวิ่งในเวลากลางวันได้วันละพันลี้ กลางคืน 800 ลี้

ขุนนางจึงให้ม้าพันลี้ลองวิ่งให้ดู เพื่อเป็นการทดสอบความแข็งแรงและความเก่งแบบที่เขาพูดเอาไว้ ม้าพันลี้เริ่มรู้สึกถึงความภูมิใจที่จะได้โชว์ความสามารถของตัวเอง แต่เมื่อมันออกวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวมันก็หอบเหนื่อยซะแล้ว ขุนนางเลยพูดขึ้นมาว่า เมื่อก่อนตอนหนุ่มๆเจ้าคงจะเก่งกาจมากจริงๆตามที่เขาได้พูด กัน แต่ตอนนี้เจ้าแก่แล้วไม่ไหวแล้ว ถ้าเอาเจ้าไปก็คงจะใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้

หลังจากที่คุณนางพูดจบคุณนางก็เดินจากไปในทันที ในขณะที่ม้าพันลี้ตัวนี้ยังคงเหนื่อยหอบไม่ทันได้หายใจ

นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า….

อย่าทำตัวให้เป็นเหมือนม้าพันลี้ อย่าอวดดีอวดเก่ง เพราะเหนือฟ้าก็ยังคงมีฟ้าอยู่เสมอ กาลเวลาได้ผ่ านไป แน่นอนว่าสิ่งต่างๆอะไรๆก็มักจะเปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรที่อยู่คงทน แม้แต่ความสามารถ เมื่อก่อนอาจเก่งแต่ในสักวันก็ต้องมีคนที่มาแทนเราจนได้

หากตัวเรายิ่งทะนงตน ไม่ฝึกฝน หรือหาประสบการณ์ใหม่ๆ ก็จะยิ่งทำให้ตัวเราไม่พัฒนาตนเองและถอยหลังมากกว่าเดิม

ขอบคุณข้อมูลจาก : rugyim

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here