กล้าตามฝัน ‘ปลูกผักแขยงในนา’ โตไว ไม่ต้องดูแล ทำเงิน 2,000 บาทต่อวัน

0

กล้าตามฝัน ‘ปลูกผักแขยงในนา’ โตไว ไม่ต้องดูแล ทำเงิน 2,000 บาทต่อวัน

สำหรับในช่วงสถานการณ์น้ำน้อยอย่างนี้ ในภาคอิสานนั้นก็สามารถสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านได้เลยไม่น้อย แต่ก็ยังมีชาวบ้านบางส่วนที่ได้ปรับช่องทางในการทำเงิน ปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นเพื่อเป็นการดำรงชีพและสร้างรายได้ให้กับครอบครัว

ซึ่งในวันนี้เราจะอาสาพาทุกคนมาชมในเรื่องของวิถีชีวิตชาวเกษตร ที่มีความคิดแตกต่างกันออกไป จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลยดีกว่า

วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับชาวบ้านที่อยู่ใน ตำบลบุ่งหวาย อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี โดยพวกเขานั้นได้รับแนวทางมาจากภาครัฐ ที่ชี้แนะช่องทางในการให้ชาวบ้านนั้นปลูกพืชสมุนไพร นั่นก็คือผักแขยงนั่นเอง เนื้อผักชนิดนี้มีคุณสมบัติในเรื่องของการปลูกง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมาก อีกทั้งโตไว แป๊บเดียวก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว เรียกได้ว่าสร้างรายได้วันต่อวันได้เลย

ด้วยการปลูกผักชนิดนี้ ชาวบ้านมักจะทำการหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว ซึ่งบริเวณหมู่บ้านก็จะมีความแตกต่างกันกับหมู่บ้านอื่น คนในหมู่บ้านมักจะรวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และแนะนำวิธีการปลูกต่างๆเพื่อช่วยเหลือในเรื่องของการทำนาย อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเข้มแข็งและรายได้ให้กับครัวเรือนเป็นหมื่นบาทต่อเดือน เป็นหมู่บ้านที่ทำผักแขยงได้เงินล้านนั่นเอง

โดยคุณแพร พรหมวิจิตร หนึ่งในชาวบ้านที่ทำการปลูกผักแขยงอยู่บริเวณอำเภอวารินชำราบจังหวัดอุบลราชธานีโดยเธอนั้นนอกจากการปลูกผักขะแยงแล้วเธอได้มีการทำปลูกใบบัวบกโดยมีการบอกว่าสามารถสร้างรายได้ให้กับเธอและครอบครัวมาถึง 10 ปีโดยก่อนหน้านี้เคยไปทำงานที่ต่างจังหวัดแต่ก็ประสบปัญหาในเรื่องของรายได้ที่ไม่เพียงพอต่อครอบครัวและเมื่อเห็นช่องทางจึงนำมาปลูกดูบ้าง

ตอนแรกเริ่มนั้นก็ปลูกเพียงแค่ใช้พื้นที่ประมาณ 2 ไร่ แตกในก็แบ่งออกเป็น 2 งานแล้วปลูกข้าวนาปรัง ไว้บริโภคในครัวเรือน 1 ไร่และปลูกผักแขยง ซึ่งก็ทำการปลูกตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยเริ่มจากการปรับพื้นที่และพรวนดิน จากนั้นก็นำต้นกล้าไปปลูกและมีการเว้นระยะประมาณซัก 1 คืบโดยในตอนแรกนั้นยังไม่ต้องใส่ปุ๋ย

จากนั้นก็ทำการปล่อยน้ำเข้าไปประมาณสัก 2 ข้อนิ้วรอประมาณซัก 1 สัปดาห์ก็สามารถใส่ปุ๋ยได้โดยปุ๋ยที่ใส่นั้นจะใช้สูตรที่ 16 16 16 ในปริมาณต่อ 1 ครั้งต่อ 1 พื้นงานและทำการหว่านปุ๋ยอีกครั้งเมื่อสังเกตว่าใบนั้นเริ่มมีสีเหลืองและการปล่อยน้ำก็ไม่ควรปล่อยให้แห้งควรเติมลงไปเรื่อยๆเมื่อมีระดับน้ำต่ำลง

และในส่วนของทางด้านศัตรูพืชนั้นก็มักจะเป็นตัวบุ้งที่มาจะต้องใส่ยาป้องกันเป็นจำนวน 1 ช้อนต่อน้ำ 20 ลิตรและพ่นลงไปโดยก็จะไม่พบปัญหาเหล่านี้กันสักเท่าไหร่และในส่วนของเรื่องโรคนั้นผักขะแยงนั่นเป็นพระที่แข็งแรงอยู่ไม่น้อยก็จะไม่พบเจอปัญหานี้จากนั้นก็ปลูกโดยใช้เวลาประมาณ 45 วันก็จะขึ้นเป็นกอใหญ่โดยสามารถเก็บจำหน่ายได้เลยและในส่วนของการเก็บนั้นก็ใช้วิธีดึงออกมาทั้งกองแต่ก็ยังปล่อยเอาไว้ประมาณสัก 4-5 ต้นเพื่อทำการขยายพันธุ์และใส่ปุ๋ยอีกจำนวนหนึ่งประมาณสัก 2 สัปดาห์ก็ทำให้เรานั้นสามารถเก็บเกี่ยวรุ่นต่อไปได้นั่นเอง

โดยผลผลิตที่ได้ในแต่ละครั้งนั้นก็จะตกประมาณอยู่ที่ 200 ถุงโดย 1 ถุงมีน้ำหนักประมาณ 100 กรัมและสามารถซื้อขายได้ในราคาถุงละ 60 บาทยิ่งหน้าร้อนยิ่งมีราคาสูงเป็นอย่างมาก เพราะในช่วงหน้าร้อนผักชนิดนี้นั้นมีความต้องการทางตลาดสูงนั่นเอง

นอกจากนี้คุณแพร์ ก็ยังมีการปลูกต้นใบบัวบกเพื่อหารายได้เสริมอีกทางหนึ่ง ซึ่งใบบัวบกในก็ถือเป็นพืชที่ปลูกง่าย และต้องดูแลเพียงแค่รดน้ําวันละ 1 ครั้ง และใส่ปุ๋ยขี้ไก่ลงไปจากนั้นประมาณ 50 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ โดยตกถุงละ 5 กิโลกรัมก็จะสามารถขายได้ 50 บาททำให้มีรายได้ครั้งละพัน

โดยพืชแต่ละตัวนั้นจะไม่มีการขายพร้อมกันอย่างเด็ดขาดเพราะมีความยุ่งยากอีกทั้งยังต้องมีเกิดความไม่ต่อเนื่องจึงทำให้เก็บขายทีละนิดทีละน้อยสามารถขายได้ในทุกๆวันและสามารถสร้างรายได้ในทุก มันอีกทั้งยังเด็กเลี่ยงการใช้สารเคมีด้วย

ซึ่งนี่ก็ถือเป็นวิธีที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับใครที่ต้องการหารายได้เสริม ในการปลูกในยามหน้าแล้งหรือยามน้ำน้อยที่จะมาถึงในไม่ช้านี้ ซึ่งถ้าหากใครสนใจก็ลองเริ่มปลูกกันดูได้เลยนะคะอย่างน้อยก็ถือเป็นรายได้เสริมที่ทำให้คุณแม่ไม่ขาดทุนแต่อย่างใด

ขอขอบคุณ : siamtodaynews, perdpong

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here