ทำงานมาเหนื่อย “แต่อาม่าชอบโทรมา” เลยพูดออกไป จนอาม่าไม่โทรมาอีกเลย

0

ทำงานมาเหนื่อย “แต่อาม่าชอบโทรมา” เลยพูดออกไป จนอาม่าไม่โทรมาอีกเลย

เมื่อถึงวันหนึ่ง วันเวลาที่แสนยาวนานได้สิ้นสุดลง หลายคนก็คงอยากจะกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว และอยากได้ข้อความที่แสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใยกัน อยากได้กำลังใจ สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะเป็นความสุขที่แสนธรรมดา

แต่กลับทำให้คนที่จะต้องสูญเสียไปเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เมื่อวันที่ 17 ที่ผ่านมานั้น ไม่มีการแชร์เรื่องราวไปบนเพจของ Facebook ได้เล่าว่า

ในวันที่ตัวเองกำลังทำงานยุ่งมากๆ เลิกงานดึก 5 ทุ่มเที่ยงคืน แต่พอเปิดโทรศัพท์มือถือออกดู กลับไม่เห็นเบอร์ที่คุ้นเคยที่เคยโทรมา

ทางรายงานของ ETtoday มีหญิงสาวคนหนึ่งได้โพสต์ระบายลง Facebook เมื่อวันที่ 17 ที่ผ่านมา โดยเล่าว่าเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตัวเองได้ถูกย้ายจากเมืองไถหนาน มาที่เมืองเกาสงประเทศไต้หวัน ซึ่งตอนนั้นเองเป็นช่วงปีใหม่ ก่อนที่จะขึ้นเดือน 1 ช่วงเวลา 5 ทุ่ม ช่วงนั้นเขาทำงานหนักมาก ได้ทำงานและเลิกในช่วงเวลาดึกแบบนี้เกือบทุกวัน แต่ตอนนั้น เป็นเวลาช่วง 22:30 มือถือก็ดังขึ้นพอดี พอรับสายก็จะเป็นเสียงของอาม่า

กลับบ้านหรือยังลูก หรือยังอยู่ที่ทำงาน จะกลับบ้านตอนไหน

เธอได้บอกกลับไปว่า บางครั้งงานก็มีปัญหา ไม่สามารถออกมาจากที่ทำงานได้ในช่วงเวลานั้น และอารมณ์ก็ค่อนข้างจะไม่ดี เธอจึงตอบอาม่ากลับไปว่า

หนูยังทำงานไม่เสร็จ อาม่าไม่ต้องโทรมาแล้วนะ

อาม่าก็ได้รีบๆพูดออกมา

ได้ๆ อาม่าจะไม่โทรแล้ว หนูรีบกลับบ้านนะ

แต่อาม่าที่รักหลานสาวแม้ว่าปากจะบอกว่าไม่โทร แต่พอวันต่อมาเธอเลิกงานดึก ก็จะได้รับโทรศัพท์จากอาม่าถามว่าเลิกงานรึยัง “โดยไม่รู้ตัวก็เคยชินแล้วว่าจะต้องรับโทรศัพท์อาม่าตอนสี่ทุ่มครึ่ง” ปีที่แล้วเลยตรุษจีนไปไม่นาน อาม่าก็เสีย “เหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหัน ฉันไม่ทันได้บอกลาอาม่า จากนั้นก็เป็นช่วงโลว์ซีซั่น เพราะงั้นครึ่งปีหลังจึงไม่ต้องทำงานจนกลับบ้านดึก จึงค่อยๆลืมความรู้สึกที่รับโทรศัพท์อาม่าไป”

จนกระทั่งเมื่อคืนวันที่ 16 เธอก็ยุ่งจนอยู่บริษัทถึงดึก ฉันรู้สึกแปลกๆว่าทำไมมือถือเงียบจัง เปิดมือถือออกดู….ไม่มีใครโทรหาสักสาย….ฉันกำลังรอ รอว่าจะมีคนโทรมามั้ย รอว่าจะมีเสียงที่คุ้นเคยโทรมามั้ย ถามฉันว่า :“กลับบ้านรึยังลูก”

เธอนึกย้อนกลับไป ตอนอาม่าป่วยหลังๆก็หลงลืม แต่ก็ยังจำเบอร์โทรของเธอกับน้องได้ “แค่พวกเรากลับบ้านดึก อาม่าก็จะโทรหาและมานั่งรอที่ห้องรับแขก ตอนนั้นฉันกลับบ้านเกือบเที่ยงคืน อาม่าก็นั่งรออยู่ที่โซฟา แถมยังหลอกฉันว่านอนไม่หลับ”

“ฉันไม่ได้ตอบกลับไปอย่างหงุดหงิดทุกครั้งที่รับสายอาม่า แม้ว่าจะมีแค่ครั้งเดียวที่ตอบไปแบบนั้น แต่ก็ทำให้ฉันรู้สึกผิดมาโดยตลอด” เธอเล่ากว่าก่อนอาม่าจะเสีย ยังจำได้ว่าเธอกำลังตั้งท้อง ครั้งสุดท้ายที่ฉันไปเยี่ยมอาม่าที่โรงพยาบาล ท่านยังบอกว่า

“โรงพยาบาลมี เ ชื้ อ โ ร ค เยอะ หนูกำลังท้องไม่ต้องมา”

สองอาทิตย์หลังจากอาม่าเสีย เธอก็คลอดลูกชาย คลาดกันไปแค่สองสัปดาห์อาม่าก็จะได้เจอเหลนแล้ว ทำให้เธอเสียใจมาก และขอให้เพื่อนช่วยตัดต่อภาพอาม่ากับลูกชายให้ เธอหวังว่าเรื่องราวของเธอจะทำให้ทุกคนได้สติ

“แม้ว่างานจะสำคัญ แต่ถ้ามีเวลาก็ต้องโทรกลับไปรายงานตัว มีคนรอพวกคุณกลับบ้านอยู่ จะได้ไม่ต้องมาเสียใจเหมือนฉัน”

“มีคนรอคอยเป็นความสุข ใครทำงานเลิกดึกๆดื่นๆหาเวลาโทรบอกคนที่บ้านด้วย”

ถึงวันนี้โพสของเธอบนเฟสบุคมีคนกดไลค์กว่า 2 หมื่นคนแล้ว ชาวเน็ตมากมายคอมเม้นท์อย่างซาบซึ้ง “อาม่าชั้นเสียไป 4 ปีแล้ว ชั้นยังคิดถึงท่านอยู่เลย ที่ไหนที่เคยไปกับท่านเวลาไปก็จะคิดถึง”, “ฮือ… เราก็คิดถึงอาม่า”, “ฉันมองเบอร์แม่ในโทรศัพท์ อยากโทรไปหา…หวังว่าจะได้ยินเสียงแม่พูดว่า : มีอะไร”, “ต้องให้ความสำคัญกับคนในครอบครัวในขณะที่พวกเขายังอยู่ข้างๆคุณ”

ขอขอบคุณ : โลกของโฮ่ง

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here