ลุงที่ป้อมยามถามว่า “จะเข้าไปบ้านข้างหน้า ได้ใส่พระหรือเปล่า”

0

ลุงที่ป้อมยามถามว่า “จะเข้าไปบ้านข้างหน้า ได้ใส่พระหรือเปล่า”

เรื่องที่เรานำมาฝากในวันนี้ เป็นเรื่องเล่าจากคุณมีนมีทำอาชีพเกี่ยวกับติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ เมื่อประมาณเจ็ดเดือนที่ผ่านมา คุณมีนได้ไปติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องครัวที่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านบางนา ซึ่งทีมที่ไปด้วยกันนั้นมีทั้งหมดสามคน ประกอบไปด้วย ตัวคุณมีนเอง หัวหน้า และคนขับรถ

ตอนประมาณเก้าโมงเช้าทั้งทีมก็ขับรถไปถึงหมู่บ้านแห่งนี้ แต่ต้องแลกบัตรที่ป้อมยามก่อน ยามก็ได้ถามว่า “บ้านเลขที่อะไรครับ” หัวหน้าก็ตอบว่า “บ้านเลขที่…”หลังจากได้ยินยามก็แสดงอาการตกใจเล็กน้อย แล้วถามต่อออกมาเบาๆว่า “พี่ ห้อยพระอะไรเหรอ ได้ใส่พระหรือเปล่า” ทั้งหัวหน้าและคุณมีนหันมองหน้ากันด้วยความงุนงง แล้วยามก็พูดขึ้นมาว่า “ตรงเข้าไปนะครับ เลี้ยวซ้าย พอถึงลูกกอล์ฟให้ตรงเข้าไปอีก แล้วเลี้ยวขวา”

หลังจากนั้นทั้งทีมจึงขับไปตามทางจนถึงบ้านของลูกค้า มีลักษณะเป็นบ้านทรงฝรั่ง สามชั้น หลังลงจากรถ คุณมีนก็สังเกตเห็นความผิดปกติของหัวหน้า คือหัวหน้ายืนแหงนหน้ามองขึ้นไปบนบ้าน เหมือนกับว่ากำลังจ้องอะไรสักอย่าง แต่เมื่อคุณมีนลองมองขึ้นไปดู ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร แล้วหัวหน้าก็พูดขึ้นมาว่า “ปะ รีบขนของเข้าไปข้างใน แล้วทำงานให้เสร็จดีกว่า จะได้รีบๆกลับ” ได้ยินดังนั้นคุณมีนก็คิดในใจว่าต้องมีอะไรไม่ปกติ เพราะทุกครั้งเวลาออกไปทำงานข้างนอก หัวหน้าจะไม่พูดอะไรในทำนองนี้ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา หลังจากนั้นจึงช่วยกันขนของเข้าไปข้างใน

ภายในบ้านนั้นโซนด้านหน้าจะเป็นห้องรับแขก บันไดจะอยู่กลางบ้าน โซนขวาเป็นห้องครัวเปิดโล่ง ถัดจากห้องครัวเป็นห้องน้ำ ตกแต่งสีโทนทึบทั้งหมด ทั้งๆที่ข้างนอกก็ใช้สีขาวปกติ ดูรวมๆแล้วเหมือนกับว่าเป็นบ้านเก่า แต่ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่ มีกลิ่นอับเหมือนกลิ่นของธูปหอม ลอยฟุ้งกระจายทั่วบ้าน ทำให้รู้สึกขนลุกแปลกๆ

แต่ในขณะที่คุณมีนกำลังแกะอุปกรณ์ออกมาประกอบ อยู่ๆก็เย็นที่สันหลัง รู้สึกเหมือนมีคนคอยจ้องมองอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่ในบ้านมีกันอยู่แค่สามคน แต่ความรู้สึกมันกลับฟ้องว่า มีคนอยู่ที่นี่มากกว่าที่เห็น หลังจากที่ทุกคนช่วยกันทำงานได้สักพัก ในจังหวะที่คุณมีนยกเอาประตูตู้สแตนเลสขึ้นมาประกอบ ปรากฏว่าเห็นเงาสะท้อนจากในประตูตู้สแตนเลสเป็นเงาดำๆ ค่อยๆเดินลงมาจากบันไดทางด้านหลัง

คุณมีนตกใจรีบหันกลับไปดู แต่ก็ไม่พบอะไร เห็นเพียงแค่บันไดวางเปล่า แม้จะรู้สึกแปลกๆ แต่คุณมีนก็พยายามไม่คิดอะไร รีบทำงานให้เสร็จ แต่หางตากลับเห็นเงาดำๆลักษณะเดิม ยืนอยู่แถวๆหน้าห้องน้ำ ทำให้คุณมีนสะดุ้งตกใจอีกครั้ง รีบหันไปมองทันที แต่ก็เห็นเป็นเพียงรูปปั้นผู้หญิงฝรั่งแขนกุด ยืนก้มหน้า ตั้งอยู่ข้างๆประตูห้องน้ำ เมื่อไม่เห็นอะไรทำให้คุณมีนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองคงจะคิดฟุ้งซ่านเกินไป จึงเดินเข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำ

แต่ในจังหวะที่เดินเข้าไปใกล้รูปปั้นหน้าห้องน้ำ กลับรู้สึกเย็นวาบ จนขนลุกไปทั้งตัว เกิดความกลัวอะไรบางอย่างผุดขึ้นในตัวเรื่อยๆ โดยที่ไม่ทราบสาเหตุ คุณมีนค่อยๆก้าวผ่านรูปปั้นเข้าไปในห้องน้ำ โดยพยายามบังคับไม่ให้หางตามองไปที่รูปปั้น

เมื่อเดินออกจากห้องน้ำ หลังล้างหน้าเสร็จ ก็ต้องรู้สึกแปลกใจ เพราะไม่พบหัวหน้ากับคนขับรถ ทั้งๆที่เมื่อสักครู่ ยังนั่งทำงานกันอยู่ในบ้าน จึงเดินไปที่หน้าประตูบ้าน ก็เห็นว่าหัวหน้ายืนอยู่นอกประตูรั้วบ้าน แล้วมองเข้ามาในบ้าน เหมือนกำลังจ้องอะไรสักอย่างที่อยู่ในบ้าน ส่วนขนขับหนีไปนั่งอยู่ในรถ

ด้วยความแปลกใจ คุณมีนจึงพูดว่า “อ่าวพี่ ออกไปกันทำไมเนี่ย ยังไม่เสร็จเลย” หัวหน้าตอบว่า “เอ็งเข้าไปจัดการให้เสร็จละกัน พี่จะตามเข้าไป” คุณมีนจึงจำเป็นต้องเข้าไปนั่งทำงานต่อให้เสร็จ จนมาถึงขั้นตอนสุดท้าย คุณมีนไล่เอาแอลกอฮอล์เช็ดสแตนเลสต่างๆ ในระหว่างที่กำลังนั่งเช็ดอยู่ ปรากฏว่าเห็นผู้ชายคนหนึ่ง ยืนอยู่ด้านหลัง แล้วโน้มตัวเอาหัวลงมาอยู่ข้างๆคุณมีน ซึ่งมันสะท้อนจากประตูตู้สแตนเลส

ลักษณะเป็นผู้ชายตัวอ้วนๆ ไม่มีผม ไม่มีแขน ลูกตาเห็นเป็นสีดำๆ แม้ว่าจะมองไม่เห็นลูกกะตา แต่คุณมีนรู้สึกได้ว่ากำลังจ้องมองคุณมีนอยู่ ในระยะใกล้มาก คุณมีนสะดุ้งสุดตัว หันหลังควับทันที แต่ก็ไม่พบอะไร เห็นเพียงแค่บันไดวนขึ้นไปชั้นบน คุณมีนรู้สึกกลัวจนนั่งไม่ติดพื้น คิดในใจว่าหรือนี่จะเป็นสาเหตุ ที่ทำให้หัวหน้าและคนขับรถหนีออกไปอยู่ข้างนอกกันหมด

หลังจากนั้นคุณมีนก็รีบเก็บงานให้เร็วที่สุดและเก็บของออกไปนอกบ้าน ช่วงนั้นเวลาประมาณเที่ยงๆ ทุกคนจึงขับรถออกไปจากบ้าน จนไปถึงป้อมยามด้วยความสงสัย คุณมีนจึงถามกับยามว่า “พี่ ผมถามจริงๆเถอะ ที่ถามพวกผมว่าห้อยพระอะไรเนี่ย มันมีอะไรหรือเปล่า” ยามตอบกลับมาว่า “คงจะเจอกันแล้วสิ” คุณมีนคะยั้นคะยอว่า “เล่าให้ฟังหน่อยเถอะ ต้องการที่จะรู้มากเลย”

ยามยอมเล่าว่า แต่ก่อนบ้านหลังนั้นมันเป็นบ้านของคนทั่วไป แต่สามีเสีย เพราะโดยขโมยเอาไม้ทุบที่หัว เสียอยู่แถวๆหน้าห้องน้ำ ภรรยาจึงไปคบกับฝรั่ง แล้วทำการตกแต่งบ้านใหม่ทั้งหมด เพื่อที่จะขาย เพราะฝรั่งบอกกับผู้เป็นภรรยาว่าอยู่ไม่ได้โดยให้เหตุผลว่า กลางดึกของทุกคืน จะได้ยินเสียงเหมือนมีคนอยู่ชั้นล่าง พอเดินลงไปดู ปรากฏว่าเห็นรูปปั้นค่อยๆเคลื่อนตัว กลับไปยืนอยู่ที่หน้าห้องน้ำตามเดิม เหมือนกับว่ามันเพื่งจะเดินไปเดินมาภายในบ้าน และเวลาที่เผลอหลับในช่วงกลางวัน จะต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาทุกครั้ง และในช่วงที่กำลังสะดุ้งตื่น จะเห็นเป็นผู้ชายร่างท้วมๆ เดินขึ้นบันไดไปข้างบน เป็นแบบนี้ทุกครั้งจนอยู่ไม่ได้

และหัวหน้ามาเล่าให้ฟังทีหลังว่า ตอนไปถึงบ้านหลังนั้นช่วงแรกๆ หัวหน้ามองขึ้นไปบนชั้นสาม บนห้องชั้นสามจะมีหน้าต่างบานใหญ่ๆ แต่ปรากฏว่าเห็นผู้ชายยืนเอาเท้าเหยียบเพดาน ห้อยหัวลงมามองหน้า และตอนที่ล้วงมือเข้าไปใต้ซิงค์วางของ อยู่ๆก็มีคนจับมือแล้วดึงเข้าไป จนหัวหน้าตกใจ รีบสะบัดมือออก แล้วเดินออกจากบ้านทันที

ส่วนคนขับรถเล่าว่า ตอนที่กำลังนั่งต่อสายยางซิงค์ล้างจาน หางตาเห็นเหมือนผู้ชาย นั่งมองอยู่ตรงหน้าประตูห้องน้ำ แล้วหายเข้าไปในห้องน้ำ พอเดินไปดูก็ไม่พบใคร และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น

ขอขอบคุณ : เพจ คนอ่านเรื่องกลางคืน

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here