ใครหนอที่ยังเก็บรองเท้าเก่า เรื่องเล่าของช่างซ่อมรองเท้า
ลูกค้าคนนี้ทำไมแปลก เดินดูรองเท้าเข้ามาคู่หนึ่งในล้านของเขาแล้วก็ก้มกราบรองเท้า
รองเท้านั้นมันเป็นรองเท้าหนังสีดำที่ผลิตในประเทศบ้านเรา ราคาก็ไม่ได้แพงอะไร สภาพรองเท้าชำรุดมาก เรียกได้ว่าซับใน ในรองเท้าแทบจะหลุดลุ่ยทั้งหมด คาดว่าน่าจะผ่านการใช้งานมาสัก 20 กว่าปี บางทีเจ้าของรองเท้าอาจจะเห็นว่า หนังยังดีอยู่ก็เป็นได้
ลูกค้าคนนี้แปลกจริงๆ ถือพานวางรองเท้ามาให้เขาซ่อม
เขาอยากจะบอกว่า ซื้อรองเท้าคู่ใหม่เถอะ แต่สีหน้าแววตาของผู้ชายคนนี้บอกว่าต้องการให้เขาซ่อม
“เจ้าของรองเท้าคู่นี้ รักลงเท้ามาก เป็นรองเท้าคู่โปรด”
เขาก็ได้นึกในใจว่า ใครหนอที่ยังเก็บรองเท้าเก่าและหลุดลุ่ยขนาดนี้ไว้
ลูกค้าคนนั้นบอกเหมือนว่าจะรู้ใจ
“เป็นฉลองพระบาทคู่โปรด พระองค์ใช้ทรงดนตรี”
เขาตกใจ คำว่า ฉลองพระบาท ไม่ใช่คำสามัญทั่วไปที่ทุกคนพูด และคำว่าพระองค์ก็ไม่ใช่เช่นกัน
“ฉลองพระบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
เขาขนลุก ตัวแข็ง พูดอะไรไม่ออกอยู่นาน
มหาดเล็กผู้นำฉลองพระบาทมาซ่อมถามว่า “ตกลงซ่อมได้ไหม?”
“ซ่อมได้ ๆ แต่คงต้องใช้เวลานานหน่อย”
ความจริงใช้เวลาเพียงชั่วโมงเดียวก็ซ่อมเสร็จ แต่ชั่วโมงเดียวสั้นเกินไปที่ฉลองพระบาทคู่นี้ควรจะอยู่ในร้านของเขา
เขามาจากต่างจังหวัด เข้าเมืองหลวงทำงานเป็นลูกจ้างร้านรองเท้าแห่งหนึ่ง สั่งสมฝีมือจนเชี่ยวชาญ จนในที่สุดก็เปิดร้านรองเท้านี้
เขาซ่อมรองพระบาทคู่นั้นอย่างตั้งใจ เมื่อเสร็จแล้ววางบนพานใบหนึ่ง ปูรองด้วยผ้าสีเหลืองวางไว้บนที่สูงที่สุดในร้าน เขาเก็บเศษชิ้นส่วนของฉลองพระบาทไว้ทุกชิ้น แม้กระทั่งธุลี ไว้บูชาเป็นมงคลแก่ตัว
รองพระบาทของบุคคลผู้เดินทางไปทั่วทุกสารทิศเพื่อช่วยเหลือคนยาก ย่อมเป็นสิ่งของที่คู่ควรแก่การบูชา
เขานำพื้นรองพระบาทใส่กรอบ ทุกครั้งที่เขามองดู ก็รำลึกว่าครั้งหนึ่งมีโอกาสที่ช่างซ่อมรองเท้าคนอื่นไม่มี ความเก่าและรอยขาดทำให้เขาเห็นปรัชญา ‘เศรษฐกิจพอเพียง’ ที่เจ้าของรองพระบาทเป็นผู้ริเริ่ม อย่างเป็นรูปธรรมจริง ๆ
ไม่นานต่อมา มหาดเล็กคนเดิมนำรองเท้ามาอีก คู่นี้มีรอยสุนัขกัด
“ฝีมือคุณทองแดง”
แล้วฉลองพระบาทอีกหลายคู่ก็ตามมา
วันหนึ่งเขาตัดรองเท้าคู่ใหม่ โดยวัดขนาดจากฉลองพระบาทที่ส่งมาซ่อม ทำด้วยหัวใจ เป็นรองพระบาทถวายพระองค์
รองพระบาทที่จะใช้บุกป่าฝ่าดงไปทั่วทุกสารทิศเพื่อช่วยเหลือคนยาก ย่อมเป็นสิ่งของที่คู่ควรแก่การทำด้วยหัวใจ
รองพระบาทคู่นั้นเดินทางหายไปราวสามเดือนเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง วันหนึ่งมหาดเล็กนำรองพระบาทคู่นั้นกลับมาที่ร้าน เขาตกใจมาก ถามว่า “พระองค์ไม่โปรดหรือ?”
“เปล่า ทรงให้นำกลับมาติดกันลื่น”
น้ำตาซึม พระองค์ทรงใช้งานจริง…
เขาตัดฉลองพระบาทถวายไปสิบกว่าคู่ในรอบสิบกว่าปีที่ผ่านมา
ตั้งใจจะตัดถวายให้ครบสิบเก้าคู่ในวันที่ 5 ธันวาคมนี้
แต่พระองค์ท่านทรงไม่ต้องใช้รองพระบาทแล้ว
ศรไกร แน่นศรีนิล ช่างซ่อมฉลองพระบาท ราษฎรในรัชกาลที่ 9
ขอขอบคุณ : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 5 ธันวาคม 2548