“ชายผ้าถุงแม่” ของขลังมหามงคล เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ต้องปลุกเสกใดๆ

0

“ชายผ้าถุงแม่” ของขลังมหามงคล เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ต้องปลุกเสกใดๆ

หากจะกล่าวถึงพระในบ้าน “พ่อกับแม่” สองคนนี้แหละคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดสำหรับลูก เพราะตัวท่านเองนั้นเป็นผู้ที่มีพระคุณ เป็นผู้ที่ประเสริฐ ยอดเยี่ยม คอยอุ้มชูเลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เล็ก ทำทุกอย่างด้วยดวงจิตดวงใจ ด้วยความรักอันเปี่ยมล้น ด้วยความปรารถนาดี เหมาะแก่การไหว้บูชา หรือยอมที่จะก้มกราบด้วยความเต็มใจอย่างแท้จริงนั้นเอง

ในสมัยก่อนเวลาที่จะออกไปรบ ชายสมัยโบราณมักจะมีความเชื่อที่ว่า หากขอเศษผ้าถุงแม่ หรือขอชานหมากจากพ่อ สองสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยคุ้มครองภัยและเป็นเครื่องรางชั้นดี เพราะถือว่าเป็นตัวแทนของความรักอันบริสุทธิ์ที่พ่อแม่มอบให้ เพื่อให้ลูกนั้นสามารถนึกถึงคุณงามความดี ความกตัญญู

สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยที่ไม่ต้องไปปลุกเสกในๆ รู้สิ่งเหล่านี้สามารถสร้างทานปฏิหารได้มาเสมอ หนังเรื่องของพระครูศิริพงษ คุรุพันธกิจ ได้เล่าไว้เมื่อปี 2553 ว่า

เราพร่ำสอนลูกทุกคนเสมอให้กระทำกตเวทิตาแก่พระในบ้านให้มากๆ เราเตือนลูกทุกคนให้หยุดแสวงหาพระดีอาจารย์ขลังนอกบ้านเพราะพระที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด สูงที่สุดมีพรอันเป็นมงคลที่ประสาทครั้งใด ก็นำความสำเร็จสมปรารถนาอย่างมั่นคงให้ลูกทุกคนโดยมิได้หวังลาภสักการะ สินจ้าง รางวัล จากผู้บูชาคือลูกเลย ใจของพ่อใจของแม่มีแต่ตั้งความหวังให้ลูกมีความสุขความสำเร็จในการดำเนินชีวิต

ซึ่งท่านก็ได้เอาตัวอย่างของผู้ที่บูชาพ่อแม่แล้วประสบความเจริญรุ่งเรือง แม้จะมาจากต่างแดนห่างไกลแต่ก็มีคนคอยต้อนรับอย่างอบอุ่นอยู่เสมอ พบสังคมที่ดี และได้รับความช่วยเหลือเสมอ

โดยเเป็นเรื่องราวของหนุ่มคนหนึ่งที่เรียนจบชั้นปริญญาตรีเอกบรรณรักษ์ เป็นเด็กที่มีอัธยาศัยดีเป็นที่รักของผู้ร่วมงาน ทั้งครอบครั้วนั้นก็ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานจนสามารถเลื่อนขั้นเป็นหน้าห้องของปลัดกระทรวง

อีกทั้งยังมีนิสัยขยัน วันหยุดก็จะไปเปิดท้ายรถขายของ ทำงานไม่เคยหยุดหารายได้ตลอด และด้วยความชอบค้าขายและบวกกับมีคนมาติดต่อให้ไปเป็นผู้จัดการร้านอาหารไทยที่ต่างประเทศ หนุ่มรายนี้ตัดสินใจลาออกจากราชการทันที

ซึ่งก่อนออกเดินทางเขาได้เข้าไปหาแม่ ให้แม่ช่วยอวยพร ให้ประสบพบแต่ความสำเร็จ และขอเอาชายผ้าถุงแม่ไปเป็นวัตถุมงคลที่ระลึก จากนั้นเขาก็สามารถทำหน้าที่ เป็นผู้จัดการร้านอาหารได้ปีเศษ และมีคนเสนอขายกิจการให้กับเขา เขาเลยตกลงซื้อและวางแผนจัดการร้านของตัวเองทุกอย่าง และอบรมกิริยามารยาทพนักงานต้อนรับในร้านด้วยตนเอง

เขาประสบความสำเร็จเพียงเวลา 3 ปี เท่านั้น อีกทั้งยังส่งเงินมาให้แม่อีกด้วย และปลูกบ้านให้แม่หลังงามที่เมืองไทยพร้อมยังสร้างบ้านที่อเมริกาอีกด้วย

ปัจจุบันภรรยาที่เมืองไทยเสียชีวิตด้วยโรคร้ายเขามีภรรยาใหม่ที่ต่างแดน อาชีพภรรยาก็มั่นคง เขาได้รับสิทธิ์เป็นคนอเมริกันอย่างง่ายดาย ไม่ต้องจ้างใครรับรอง ไม่ต้องอยู่อย่างหลบเลี่ยง จะคิดทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ แม่ที่อยู่เมืองไทยก็มีความสุขจากการส่งเสียดูแลเป็นอย่างดีจากเขา

และชายคนนี้ทุกครั้งที่ทำอะไรเขาต้องการกุศลอันใดก็จะนึกพ่อแม่ก่อนเสมอ และดูแลท่าน ให้เงินท่านทุกเดือนไม่ขาด แม่ผู้รับเงินแทนคุณจากลูกทำบุญตักบาตรสร้างกองการกุศลให้ลูกในทุกๆ วัน อธิษฐานให้ลูกนั้นเจริญรุ่งเรืองและประสบความสำเร็จเป็นที่เมตตารักใคร่ของคนทั่วไปปราศจากอุปสรรคภยันตรายใดๆ ทั้งปวง

ฟังเรื่องราวจากปากหนุ่มนายนี้ต่างโจษจันยกย่องสรรเสริญหนุ่มผู้กตัญญูบูชาพระที่ถูกองค์คนนี้กันทั่วกรมศิลปากร อย่างนี้แหละที่เขาเรียกว่า “ตั้งดีพลีถูกองค์” จึงประสบความสำเร็จ

ที่เรายกตัวอย่างเรื่องนี้ให้ฟังเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่า เทพเจ้าแห่งความสำเร็จของทุกคนอยู่ในบ้านเป็นมนุษย์เดินดินกินข้าวธรรมดานี่เอง อยู่ในบ้านของเราไม่ใช่เทวดาที่ไหน ฉะนั้นลูกทั้งหลายที่ยังมีพ่อแม่ก็ควรดูแลตอบแทนท่านให้ดีให้ท่านสุขกายสบายใจด้วยการกระทำของตนแล้วสิ่งที่นึกไม่ถึงว่าจะสำเร็จอย่างง่ายดายจะบังเกิดขึ้นกับตนเอง

ขอขอบคุณ : item2day, postsod

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here