ใครชอบขับรถตอนกลางคืน ระวังกันด้วย
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาเตือนผู้ที่ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะคนที่จะต้องขับรถกลับบ้าน หรือเดินทางในช่วงกลางคืน จะต้องระมัดระวังกลุ่มผู้ไม่หวังดีมาปาไข่ใส่หน้ารถด้วย เพราะว่าตอนนี้หลายคนกำลังเจอปัญหาเยอะมาก
สำหรับใครที่โดนดักปลาไข่ใส่กระจกที่หน้ารถของเรา แน่นอนว่าวิธีการนี้มันจะทำให้กระจกของเราเลอะ และมองไม่เห็นทางด้วย แต่ด้วยความตกใจของใครหลายๆคนถ้าหากโดน ก็จะทำการใช้ที่ปัดน้ำฝนปัดออก แต่ความจริงแล้ว เมื่อไข่ไก่ผสมกับน้ำ มันจะเกิดเป็นคราบขาว ซึ่งจะทำให้อัตราการมองเห็นถึง 90%
ยิ่งเราปัดที่ปัดน้ำฝนมากเท่าไหร่ก็จะทำให้ กระจกหน้ารถของเรามองไม่เห็นทางเลย สุดท้ายเราก็ไม่สามารถขับรถต่อไปได้ และเราก็จอดข้างๆ และในขณะที่กำลังจอดนั้น บุคคลผู้ไม่หวังดี ก็อาจกำลังซุ่มรอเราอยู่ก็ได้ เข้ามาปล้นทรัพย์ของเรา เอาเงินของเราไป ตรงนี้จะต้องระมัดระวังด้วย
ข้อปฏิบัติ : ถ้าหากใครโดนปาไข่ไก่ใส่แล้ว
1. อย่างแรกเลยเราจะต้องมีสติ และห้ามใช้ที่ปัดน้ำฝนโดยเด็ดขาด
2. ห้ามหยุดรถ ให้ขับชะลอไปเรื่อยๆ
3. ขับต่อไปเรื่อยๆเพื่อหาแหล่งชุมชน หรือปั๊มน้ำมัน
4. เมื่อรู้สึกว่าตัวเองปลอดภัย ให้รู้จักจากรถแล้วทำการเช็ดทำความสะอาดให้เรียบร้อย
เตือนผู้ที่ต้องขับขี่ยานพาหนะตอนกลางคืน
เมื่อคืนนี้ เวลาประมาณ 23:40น. ผมขับรถจักรยานยนต์จากเชียงใหม่ มุ่งหน้ากรุงเทพฯ ใช้ถนนสายเอเชีย AH2 หลักกิโลเมตรที่ 479 ช่วง อ.โกสัมพี จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นช่วงทางตรง ถนนมืดสนิทไม่มีไฟเป็นช่วงๆ ผมจึงเปิดไฟสูงนำทางเป็นระยะๆ ขณะนั้นผมขับมาด้วยความเร็วประมาณ 120 กม./ชม.
พบก้อนหินขนาดประมาณลูกมะพร้าวตกอยู่(หรืออาจถูกวาง)กลางถนนเลนขวาในระยะกระชั้นชิด ผมจึงชนเข้าเต็มๆโดยไม่ได้เบรค ทำให้ล้อหน้าลอยยกขึ้น คนซ้อนกระเด็นหลุดจากเบาะนั่งแต่มือยังเกาะเอวผมไว้แน่นจึงไม่ร่วงลงไป และโชคดีมากๆที่รถไม่ล้ม ผมจึงค่อยๆประคองรถเข้าข้างทางครับ สำรวจผู้โดยสาร พบว่าเจ็บเล็กน้อยจากการกระแทกและอยู่ในอาการตกใจมาก ส่วนความเสียหายของรถ ล้อแม็กหน้าแตกประมาณ 1 คืบ และบิดงอ ไม่สามารถขับต่อได้ ต้องยุติการเดินทางทันทีครับ จากนั้นผมจึงรีบเคลื่อนรถออกจากจุดมืดเพื่อไปยังดวงไฟที่ใกล้ที่สุดและโทรแจ้งตำรวจ หลังจากนั้นประมาณ 5 นาที มีรถจักรยานยนต์ Honda Scoopy i คันหนึ่งคนขับเป็นวัยรุ่น อายุราวๆ 20 กลางๆ เข้ามายังจุดที่ผมจอดรถอยู่เพื่อมาสอบถามเหตุการณ์ ซึ่งผมก็เล่าให้ฟังและผมบอกเค้าไปว่าผมแจ้งตำรวจเรียบร้อยแล้ว ตำรวจกำลังมา เค้าก็อยู่รอจนตำรวจมาแล้วก็แยกย้ายไปครับ
ผมขอสรุปเหตุการณ์และข้อสังเกตุไว้เป็นหัวข้อดังนี้ครับ
1. ผมออกจากเชียงใหม่ประมาณ 20:00น. ขับมาค่อนข้างเร็วเนื่องจากต้องรีบกลับมาเข้างานตอน 07:00น. แซงรถบรรทุกและรถทัวร์มาตลอดทาง(ผมควรจะรีบกลับตั้งแต่ยังไม่มืด ไม่ควรทำแบบนี้เลย)
2. ช่วงถนนมืดสนิท เปิดไฟสูงเช็คสภาพถนนเป็นระยะๆ ข้างหน้าดู โล่ง เคลียร์ เลนซ้ายรถบรรทุกวิ่งจนถนนเป็นร่อง ตัดสินใจวิ่งขวาน่าจะปลอดภัยกว่า(ผิดกฎหมายนะครับ)
3. ก้อนหินปริศนา โผล่ออกมาในระยะกระชั้นชิดมากทั้งๆที่ตอนเปิดไฟสูงเช็คแล้วไม่มี(หรือผมอาจดูไม่ดีเอง) เป็นช่วงทางตรงไม่มีจุดอับสายตา และมาอยู่ตรงล้อพอดี(หรือผมอาจจะซวยสุดๆ)
4. หากเป็นหินที่ร่วงมาจากรถบรรทุก ไม่ควรจะมีก้อนเดียว น่าจะมีพรรคพวกเพื่อนฝูงก้อนเล็กก้อนน้อยร่วงอยู่บ้าง และควรจะเห็นจากระยะไฟ ไม่ใช่อยู่ๆโผล่มาเหมือนถูกเสก(แต่ก็อาจจะบังเอิญหล่นแค่ก้อนเดียวจริงๆก็ได้)
5. พลเมืองดีที่เข้ามาดูเหตุการณ์ มาไวมาก ไม่เกิน 5 นาที ขณะนั้นเวลา 23:45น. ถนนมืดสนิท ไม่มีร้านค้า ไม่มีบ้านคน และผมมั่นใจว่าผมไม่ได้แซงมอเตอร์ไซค์มาซักคัน (เรื่องนี้ผมอาจคิดมากและระแวงไปเอง ยังไงก็ขอบคุณที่เค้าอุตส่าห์อยู่เป็นเพื่อนจนตำรวจมา)
6. เมื่อ จนท.ตำรวจมาถึง ผมพาไปดูจุดเกิดเหตุซึ่งห่างไปประมาณ 300 เมตร แต่ก้อนหินปริศนาหายไป (อันนี้ขอไม่แสดงความคิดเห็นครับ)
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นจากอะไรก็แล้วแต่ จะเป็นความประมาทของผมเองก็ดี หรือเกิดจากผู้ประสงค์ร้ายก็ดี ผมขอฝากเรื่องราวของผมไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับท่านที่จะเดินทางไปไหนมาไหนกลางคืน จะต้องระมัดระวังมากๆนะครับ ในความมืดอาจมีอันตรายแฝงอยู่ สำหรับผมเองก็ได้รับบทเรียนสำคัญไปแล้ว และจะระมัดระวังมากขึ้นเช่นกัน หากหลีกเลี่ยงได้ก็เลี่ยงเถอะครับ นอนพักให้สว่างก่อนค่อยเดินทางต่อจะดีกว่าครับ
เขียน / เรียบเรียงโดย : Postsara
ขอขอบคุณ : หมีโต้ลม Chill Bear Rider