ลุงข้างบ้านดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ ส่งผลโดยตรงร่างกายเปลี่ยนมากขนาด

0

ลุงข้างบ้านดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ ส่งผลโดยตรงร่างกายเปลี่ยนมากขนาด

ทางกลุ่มแพทย์ของชาวญี่ปุ่นได้ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า น้ำอุ่นนั้นมีประสิทธิภาพในเรื่องของการแก้ปัญหาด้านสุขภาพได้อย่าง 100 เปอร์เซ็นต์ น้ำอุ่นมีประโยชน์มากกว่าน้ำเย็นมากกว่าจริงๆ คุณลุงข้างบ้านเชิงทดลองกับตัวเองในระยะเวลา 1 เดือน ปรากฏว่าส่งผลต่อร่างกายจริงๆ จากที่เป็นคนที่ป่วยบ่อย ตอนนี้กระปรี้กระเป๋าไม่ป่วยบ่อยเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

ให้พึงระลึกไว้เสมอว่า น้ำเย็นจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ

1. คนส่วนใหญ่รอการปลูกถ่ายตับเป็นเหยื่อของการดื่มน้ำเย็น

2. เครื่องดื่มเย็นเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอาการหัวใจวาย นอกจากนี้ยังสร้างปัญหาในตับ ทำให้ไขมันติดอยู่กับตับ

3. น้ำเย็นจะปิด 4 หลอดเลือดดำของหัวใจและทำให้หัวใจวาย

4. น้ำเย็นส่งผลกระทบต่อผนังภายในของกระเพาะอาหาร มีผลต่อลำไส้ใหญ่และส่งผลต่อมะเร็ง

หากน้ำเย็นไม่ส่งผลต่อคุณในวัยเด็ก ก็จะเป็นอันตรายต่อคุณในวัยชรา โปรดอย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้เพื่อตัวคุณเอง บอกให้ใครบางคนซึ่งอาจช่วยชีวิตคนอื่นได้

ใช้น้ำอุ่นอย่างไร

ลุกขึ้นในตอนเช้าและ ดื่มน้ำอุ่นประมาณ 4 แก้ว เมื่อท้องว่างเปล่า คุณอาจจะไม่สามารถที่จะทำให้ได้ 4 แก้วที่ในตอนเริ่มต้น แต่ไม่ช้าคุณจะทำได้

หมายเหตุ: อย่าพึ่งกินอะไรตามหลังจากดื่มน้ำผ่านไป 45 นาที

การบำบัดด้วยน้ำอุ่นจะช่วยแก้ปัญหาสุขภาพภายใน หรืออาการทัองผูก หรือโรคอื่นๆ เช่น

1. คอเลสเตอรอลภายใน 4 เดือน

2. โรคลมชักและอัมพาตอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 9 เดือน

3. หอบหืดภายใน 4 เดือน

4. มะเร็งทุกชนิดใน 9 เดือน

5. ปัญหาผู้หญิงใน 15 วัน

6. โรคหัวใจใน 30 วัน

7. ปวดหัว / ไมเกรนใน 3 วัน

8. การอุดตันของเส้นเลือดใน 6 เดือน

9. โรคเบาหวานใน 30 วัน

10. ความดันโลหิตภายใน 30 วัน

11. ปัญหาจมูกหูและลำคอใน 10 วัน

12. ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารภายใน 10 วัน

13. การย่อยอาหารไม่ดีใน 10 วัน

14. มดลูกและโรคที่เกี่ยวข้องใน 10 วัน

การดื่มน้ำอย่างถูกวิธี

น้ำที่ดื่มถ้าจะให้ดีต้องเป็นน้ำอุณหภูมิปกติ ไม่ร้อนมากหรือเย็นจัด แต่ก็ยกเว้นในบางกรณี เช่น ตอนเช้าถ้าเป็นไปได้ควรดื่มน้ำอุ่นเพราะจะช่วยในการขับถ่ายให้ดียิ่งขึ้น

ลำไส้ก็จะสะอาดมากขึ้นตามไปด้วย

การดื่มนั้นที่ถูกต้องนั้น ควรดื่มอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือจะให้ดีก็วันละ 14 แก้ว หรือโดยเฉลี่ยแล้วควรดื่มน้ำให้เพียงพอกับน้ำหนักตัวของคุณ เช่น ถ้าคุณมีน้ำหนัก 60 kg.

ก็ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร หรือประมาณ 10 แก้วนั่นเอง(กรณีนี้ให้นับรวมปริมาณอื่น ๆด้วย เช่น น้ำจากผักผลไม้ แกง ก๋วยเตี๋ยวต่าง ๆ ด้วย)

ในตอนเช้าหลังตื่นนอนหรือก่อนแปรงฟัน ควรดื่มน้ำ 2-4 แก้ว เป็นน้ำอุ่น ๆ ได้ก็จะดีมาก ในระหว่างวันควรดื่มน้ำ 1 แก้วทั้งก่อนและหลังมื้ออาหารทุกๆ มื้อ และในระหว่างช่วงสาย บ่าย เย็น ก็ควรดื่มน้ำอีกครั้งละ 1 แก้ว

ในช่วงก่อนนอน น้ำอุ่น ๆ สัก 1 แก้วจะดีมาก การดื่มน้ำควรดื่มครั้งละแก้ว และที่สำคัญไม่ควรดื่มรวดเดียวหลาย ๆ แก้ว เพราะจะไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย

ประโยชน์ของน้ำอย่าดื่มน้ำมากเกินไปก่อนที่จะรับประทานอาหาร หรือถ้าจะดื่มก็ควรดื่มน้ำก่อนสักประมาณครึ่งชั่วโมง หรือ 45 นาที ในระหว่างรับประทานอาหาร

ไม่ควรดื่มน้ำตลอดเวลา เพราะจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจาง ทำให้ระบบย่อยทำงานได้ไม่ดี

ภายหลังจากรับประทานอาหารเสร็จไม่ควรดื่มน้ำทันที เพราะจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะเจือจางลง ส่งผลให้การย่อยอาหารทำงานได้ไม่เต็มที่ โดยควรดื่มหลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้วครึ่งชั่วโมง

หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็นและน้ำอัดลม เพราะน้ำเย็นจะไปดึงความร้อนในร่างกายมาทำให้น้ำที่เราดื่มเข้าไปมีอุณหภูมิเท่ากับร่างกายจึงจะดูดซึมได้ ทำให้ร่างกายเสียเวลาในการปรับสมดุลและสูญเสียพลังงาน สำหรับคุณผู้หญิงบางท่านที่มักมีอาการปวดประจำเดือน ช่วงที่มีประจำเดือนควรงดดื่มน้ำเย็น เพราะการดื่มน้ำเย็นจะทำให้อาการปวดทวีความรุนแรงมากขึ้น

เรียบเรียงโดย : Postsara

ขอขอบคุณ : นพ.ฟูจิโมโต้ โนริยูกิ

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here