ประโยชน์มากควรอ่าน 17 วิธีแก้ข้ออักเสบ ข้อเข่าเสื่อม ปวดข้อ เหน็บชาตามร่างกาย
เช็คกันเลยนะ สำหรับลักษณะอาการปวดข้อที่เตือนว่าควรที่จะไปปรึกษาแพทย์
ก่อนอื่นไปทำความรู้จักกับวิธีการลดโรคข้ออักเสบกันก่อน เราควรเช็คให้รู้กันก่อนว่าเราเข้าข่ายของอักเสบบ้างหรือเปล่า ซึ่งเป็นข้อมูลจากราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ ได้เผยว่า หากพบว่าตัวเองมีอาการทั้ง 7 อาการต่อไปนี้บ่อยครั้งมาก ให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าคุณเป็นโรคข้ออักเสบ
1. มีข้อบวม เป็น ๆ หาย ๆ
2. มีอาการฝืดขัดเป็นเวลานานในตอนเช้า
3. มีอาการปวดเป็น ๆ หาย ๆ ในข้อหนึ่งข้อใด
4. ไม่สามารถเคลื่อนไหวข้อได้เป็นปกติ
5. มีอาการแดงหรือร้อนบริเวณข้อ
6. มีไข้ น้ำหนักลด หรืออ่อนแรง
7. อาการในข้อ 1-6 เป็นมานานกว่า 2 สัปดาห์
11 วิธีคลายปวดด้วยพลังสมุนไพร
พอกด้วยขิง
อย่างที่ได้บอกไว้แล้วในข้างต้นว่า ขิงมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ และบรรเทาอาการปวดข้อได้ แต่หากใครไม่ชอบจิบชาขิงก็สามารถนำขิงมาทำเป็นยาพอกก็ได้ การพอกขิงในบริเวณที่ปวดนั้น ขิงจะออกฤทธิ์โดยปล่อยสารสื่อนำประสาท P (substance P) ไปยังระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เรารู้สึกคลายปวดลง จากการทดลองในกลุ่มอาสาสมัครจำนวน 56 คนพบว่า ขิงช่วยบรรเทาอาการปวดในกลุ่มผู้ป่วยโรคกระดูกบางได้ถึงร้อยละ 55 และบรรเทาอาการปวดจากโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้ถึงร้อยละ 74
วิธีการทำสูตรยาพอกขิงง่าย ๆ คือ
1. เลือกเหง้าขิงสดมีความหนาประมาณ 3 นิ้ว 1 เหง้า
2. ปอกเปลือกล้างให้สะอาด แล้วนำไปบดให้ละเอียด
3. นำขิงที่บดละเอียดดีแล้วไปผสมกับน้ำมันมะกอก คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
4. จากนั้นนำไปพอกบริเวณที่รู้สึกปวด ห่อไว้ด้วยผ้าพันเคล็ด (ace bandage) หรือผ้ากอซทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างน้ำออก
5. ทำได้บ่อยครั้งจนกว่าอาการปวดจะทุเลาลง
ตัวช่วยคลายปวดใกล้ตัว ที่ไม่ควรละเลย
นอกเหนือจากอาหารการกินแล้ว ยังมีตัวช่วยบรรเทาอื่น ๆ ที่เราสามารถทำได้ทันทีเมื่อรู้สึกปวด หรือใครจะนำไปทำเป็นกิจกรรมประจำเลยก็ได้ทั้งนั้น มาดูกันว่าตัวช่วยคลายปวดที่หาได้ใกล้ตัวนี้จะเจ๋งแค่ไหนกัน
1. ประคบร้อน หรือ ประคบเย็น
หลายคนไม่รู้ว่า อาการปวดที่เกิดขึ้นกับเรานั้น ควรประคบร้อนหรือเย็นกันแน่ เรามีคำตอบให้หายสงสัยอยู่ตรงนี้แล้ว จากข้อมูลของศูนย์กายบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่า การใช้ความร้อนและความเย็นนั้นสามารถลดอาการปวดในบริเวณต่างๆ ได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัย ดังนี้
สังเกตอาการปวดว่าเป็นแบบเฉียบพลัน หรือแบบเรื้อรัง
– ประคบเย็น เมื่อได้รับการบาดเจ็บเฉียบพลัน มีอาการบวม
– ประคบร้อน เมื่อมีอาการปวดเรื้อรังมานาน หรือเป็น ๆ หาย ๆ ความร้อนจะช่วยลดอาการตึงของกล้ามเนื้อ โรคประจำตัว เพราะความร้อนและความเย็นล้วนมีผลต่ออาการของโรค
– โรคความดันโลหิตสูง หากจำเป็นต้องประคบเย็น ต้องระมัดระวังที่สุด เพราะความเย็นอาจมีผลต่อการหดตัวของหลอดโลหิตส่วนปลาย ทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้นได้ รวมถึงอาการผิดปกติบางประการด้วย เช่น เวียนศีรษะ หน้ามืด
โรคแพ้ความเย็น ไม่ควรประคบเย็น เพราะจะทำให้เกิดผื่นแดงอย่างรุนแรง
– โรคมะเร็งที่ยังมีการดำเนินของโรคอยู่ หลีกเลี่ยงการประคบร้อน
– โรคที่มีผลต่อการรับรู้ความรู้สึกของผู้ป่วย เช่น โรคเบาหวานที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการชา หากประคบเย็นหรือร้อนมากเกินไป หรือนานเกินไป อาจเกิดอันตรายได้
2. ออกกำลังกายในน้ำ
จากผลการวิจัยของไต้หวัน เผยว่า การออกกำลังกายในน้ำ เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายทุกส่วน คล้ายคลึงกับการเต้นแอโรบิก ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวเข่าได้ เพิ่มความยืดหยุ่นให้ข้อต่อบริเวณสะโพก และช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ร่างกายทุกส่วน ในขณะเดียวกัน ผลการวิจัยจากประเทศออสเตรเลียก็มีความเห็นในทำนองเดียวกันว่า วิธีออกกำลังที่เหมาะกับคนเป็นโรคปวดข้อก็คือ การว่ายน้ำ แต่กรณีที่ผู้ป่วยเป็นโรคปวดข้อและอายุมากแล้ว อาจว่ายน้ำไม่ไหว ก็แนะนำให้บริหารกายในน้ำดู เช่น แอโรบิกน้ำ (Aqua Fitness)
แต่ไม่ใช่แค่ผลการวิจัยจากต่างประเทศเท่านั้นที่ยืนยัน หน่วยงานการแพทย์ในประเทศไทยบ้านเราก็แนะนำ เห็นได้จากข้อมูลของศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์คลินิก คณะเทคนิคการแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เผยว่า การออกกำลังกายในน้ำเหมาะกับคนที่มีน้ำหนักตัวมาก ผู้ที่มีปัญหาเรื่องข้อเข่า ข้อเท้า และหลัง รวมถึงผู้สูงอายุด้วย เพราะน้ำจะช่วยรองรับน้ำหนักตัว ลดแรงกดที่ข้อเท้าและข้อเข่าให้น้อยลง ช่วยพยุงไม่ให้ล้มได้ง่ายปลอดภัยกว่าการออกกำลังกายบนบก
3. นวด
เมื่อไรที่มีอาการปวดข้อ ก็ขอให้นึกถึงการนวดเอาไว้ก่อน เพราะการนวดจะช่วยกระตุ้นให้โลหิตลมไหลเวียนสะดวกขึ้น คลายอาการตึงของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ และยังเป็นการคลายผังพืดที่หดเกร็งให้คลายตัวด้วย ดังนั้น ใครที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย แนะนำให้นวดเพื่อผ่อนคลายอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง
4. กินอาหารเสริมน้ำมันปลา หรือน้ำมันตับปลา
การกินอาหารเสริมน้ำมันปลา (Fish oil) และน้ำมันตับปลา (Cod Liver oil) ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อได้ จากผลการวิจัยในประเทศอังกฤษพบว่า ผู้ป่วยโรคข้ออักเสบร้อยละ 86 ที่กินน้ำมันตับปลาเป็นประจำนั้น ร่างกายจะเกิดการสร้างผังพืดทำลายกระดูกอ่อนน้อยลงกว่าคนที่ใช้วิธี กินยาแก้ปวดเป็นประจำ เพราะอาหารเสริมน้ำมันปลา หรือน้ำมันตับปลานั้นมีไขมัน EPA และ DHA ที่มีคุณสมบัติช่วยลดการปวดข้อและข้ออักเสบรูมาตอยด์ อีกทั้งยังบรรจุอยู่ในแคปซูลที่มีปริมาณที่เหมาะสมคือ ประมาณ 300-500 มิลลิกรัม
สูตรน้ำสมุนไพรรักษาอาการปวดต่างๆ
ส่วนผสม
1. น้ำ 40 %
2. มะนาว 5%
3. ใบย่านาง 50%
4. สับปะรด 5%
วิธีทำ
1. ปั่นใบย่างแล้วกรองกากทิ้ง….ปั่นสับปะรดเอากากทิ้ง…แล้วนำมารวมกับน้ำใบย่านางที่ปั่นเตรียมไว้แล้ว
2. หลังจากนั้นเติมน้ำมะนาวลงไป คนๆให้เข้ากันไว้รับประทาน ( ที่เหลือ แช่แย็นไว้ได้ 15-วัน )
3. ดื่มวันละ 2 ครั้งๆละ 30 ซีซีผสมน้ำ 1 แก้ว ก่อนอาหาร หรือระหว่างวันก็ดีค่ะ
กลุ่มอาการควรรับประทาน
โรคอ้วน – โรคเก้าท์- ปวดข้อ- เข่าเสื่อม- มีไข้- เนื้องอกในเต้านม-ในมดลูก- ไขมันในโลหิตสูง-แผลในกระเพาะ- ภูมิแพ้- ไมเกรน-สิว-ฝ้า-กระสีน้ำตาล- เป็นตะคิวบ่อยๆ- ริดสีดวงทวาร- ตับแข็ง- ท้องบวมน้ำ- ไทรอยด์- มะเร็งต่างๆ- โลหิตจาง- ตาฟ้าฟาง- ความดันสูงหรือต่ำเกินไป – ลูคีเมีย -ชาตามแขน ขา – เหงือกอักเสบ – โรคหัวใจ – กรดไหลย้อน
เรียบเรียงโดย : Postsara
ขอขอบคุณ : หมอปรียาภา แฟนเพจ ,health.kapook