เขาลุกไม่ไหว ตอบแทนในชาติหน้า คำขอบคุณภรรยาผู้แสนดี

0

เขาลุกไม่ไหว ตอบแทนในชาติหน้า คำขอบคุณภรรยาผู้แสนดี

“เวลาที่ผมเห็นคุณยุ่งทุกวันจนหัวหมุน ผมอยากจะทำทุกๆสิ่งทุกๆอย่างแทนคุณจริงๆ เวลาที่ผมมองดูคุณเพิ่งเลิกงานมานั้น คุณไม่เคยบ่นเลยสักคำที่จะต้องมานั่งซักผ้าทำอาหารให้ผมกิน ผมอยากจะช่วยคุณเหลือเกิน ผมทำได้เพียงแค่นั่งมองคุณทำงานทั้งนอกบ้านและในบ้าน ผมอยากจะช่วยแบ่งเบาภาระที่คุณทำทุกวันนี้บ้าง คุณคือผู้ที่มีพระคุณกับผม ผมขอขอบคุณ ผมซึ้งน้ำใจ ขอบคุณมากๆที่ไม่ยอมแพ้กัน”

นี่เป็นข้อความที่ “เจี่ย หงเทา” ชายจีนในตำบลเป๋ยอู่ตู้ อำเภออู่หยาง มณฑลเหอหนาน เขียนบรรยายชีวิตของตนเองและชีวิตประจำวันของภรรยา ลงในบันทึกประจำวัน

ในปี 1996 เจี่ย หงเทา และหาน หงเสี่ยว แต่งงานกันผ่านการชักนำของแม่สื่อ และมีลูกด้วยกันในปี 1998 ในช่วงเวลานั้นชีวิตของพวกเราเต็มไปด้วยความสุข ทว่า ในปี 2006 เจี่ย หงเทา ก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ส่งผลกระทบกระเทือนสมอง จนกลายเป็นคนที่เดินไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้ ตั้งแต่นั้นมาภาระหน้าที่การดูแลทั้งบ้าน ทั้งสามี และลูก จึงตกเป็นของหาน หงเสี่ยว ผู้เป็นภรรยาแต่เพียงผู้เดียว

ภรรยาผู้แสนดีของเจี่ย หงเทา ทั้งดูแลอาหารการกินให้เขา ช่วยพลิกตัว เช็ดทำความสะอาดร่างกาย ยังไม่รวมนวดผ่อนคลาย และคอยอยู่เป็นเพื่อนคุยกับเขามานานหลายสิบปี ด้วยความเอาใจใส่ของภรรยานี้ก็ทำให้เจี่ย หงเทา ค่อยๆ อาการดีขึ้นเรื่อยๆ นอกจากเขาจะสามารถสื่อสารด้วยบทสนทนาง่ายๆ ได้บ้างแล้ว ร่างซีกซ้ายของเขาก็เริ่มมีพละกำลังขึ้นมาอีกด้วย

หาน หงเสี่ยว ช่วยสามีให้ได้ออกกำลังกายร่างกายซีกซ้ายด้วยการให้เขาเขียนหนังสือ และสิ่งนี้เองที่ทำให้สองสามีภรรยาได้สื่อสารและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน เจี่ย หงเทา เขียนคำขอบคุณและแสดงความรักต่อภรรยาว่า “ผมอยากแต่งงานกับคุณ เป็นสามีของคุณอีกในชาติหน้า เพื่อตอบแทนความรักของคุณ”

ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด มีคนเคยบอกหาน หงเสี่ยว ให้ล้มเลิกความตั้งใจ แต่ด้วยความรักที่มีให้สามี บวกกับสำนึกด้านความรับผิดชอบทำให้เธอไม่ทิ้งเขาไป และยังคอยดูแลอยู่ตลอด

ปัจจุบัน อาการของเจี่ย หงเทา อยู่ในระดับคงตัว และหาน หงเสี่ยว ก็ได้งานประจำเป็นพนักงานที่ร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง พวกเขาได้เข้าร่วมโครงการครอบครัวยากไร้ และหลุดพ้นความยากจนได้ในที่สุดเมื่อปี 2016

“เพราะรัก ถึงไม่ยอมแพ้” หาน หงเจี่ย ได้พิสูจน์ “รักแท้” ที่มีต่อสามีผ่านการกระทำของเธอ

ขอขอบคุณ : sanook, China Xinhua News

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here