เผยเคล็ดลับ ไม่กินข้าวเย็น ทำให้ไม่อ้วน ไม่แก่ แถมใบหน้าเด็กดูอ่อนเยาว์

0

เผยเคล็ดลับ ไม่กินข้าวเย็น ทำให้ไม่อ้วน ไม่แก่ แถมใบหน้าเด็กดูอ่อนเยาว์

หนุ่มสาวคนไหนที่คิดจะลดน้ำหนัก แบบไม่ทรมานตัวเอง เราขอแนะนำให้ทำตามนี้เลยค่ะ เพราะในวันนี้เราได้มีเคล็ดลับดีๆมาแชร์ให้กับเพื่อนๆทุกคนได้ลองทำตามกัน รับรองว่าเห็นผลและยังดีต่อสุขภาพของเรามากๆอีกด้วย

ไม่กินข้าวเย็น ไม่อ้วน ไม่แก่ แถมหน้าเด็ก

หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่า การที่เราไม่ทานข้าวเย็นนั้น

มันคือเรื่องดีนะจ๊ะ ฮั่นแน่ งง งงกันอยู่เเน่ๆ มันดียังไงต้องไปดูกันเลย

ทำอย่างไรจึงจะ “ไม่แก่ ไม่อ้วน และอายุยืน”

คำตอบก็คือ “กินสายกลาง ”

กินสายกลาง คือ กินมื้อเช้าและมื้อเที่ยง งดมื้อเย็น เปรียบตัวเราเป็นรถยนต์

ที่ต้องใช้อาหาร เผาผลาญเป็นพลังงาน แทนน้ำมัน

ตื่นเช้ามาต้องเติมน้ำมันก่อน หรือกินมื้อเช้า รถจึงจะวิ่งได้

พอถึงเที่ยงน้ำมันยังไม่หมด แต่ก็ต้องเติมไว้ เพื่อจะต้องใช้ในวันนั้น

พอตกเย็น พลังงานที่เติมมา 2 มื้อ ยังเหลือแน่นอน ไม่จำเป็นต้องเติมอีก

เวลานอนหลับ ร่างกายจะนำพลังงานที่เหลือใช้ไปเก็บในที่ต่างๆ โดยตับเป็นผู้ทำงานนี้

ถ้าพลังงานเหลือมาก การเอาไปเก็บในที่ต่างๆ ก็มาก ทำให้อ้วน

และแน่นอนถ้าเก็บไม่หมดโดยเฉพาะพวกไขมันตัวโตๆ จะต้องค้างอยู่ในหลอดเลือด

ถ้าค้างสะสมมากเท่าใด รูหลอดเลือดก็จะเล็กลงทุกวัน เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆได้น้อยลง

อวัยวะทั้งหลายก็จะเสื่อมสภาพเร็วขึ้นหรือแก่เร็วขึ้น ถ้าวันไหนอุดตัน เช่นถ้าตันที่สมอง

จะกลายเป็นคนพิการอัมพาตครึ่งซีก ถ้าอุดตันที่ไต ต้องล้างไต เปลี่ยนไต

ถ้าตันที่ขา อาจต้องตัดขาทิ้ง ถ้าตันที่กล้ามเนื้อหัวใจ ก็จะไม่มีโอกาสได้สั่งลาใคร

การกินมื้อเย็น จึงเป็นมื้อที่เร่งกระบวนการเสื่อมของอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย

“ร่างกายต้องใช้พลังงานอย่างหนักในการเผาผลาญอาหาร” ยิ่งกินมื้อเย็นในปริมาณที่เยอะ

ก็ยิ่งเร่งการเสียชีวิตให้เร็วขึ้นไปอีก “มื้อเย็น” จึงเป็นมื้ออันตราย เป็นมื้อตายผ่อนส่ง

ฉะนั้น จึงหมายความว่าการกินมื้อเย็นมาก ยิ่งผ่อนส่งมาก ตายเร็ว

ถ้าไม่กินมื้อเย็น ก็จะแก่ช้า เสื่อมช้า อายุยืน

การไม่กินอาหารมื้อเย็นเป็นเรื่องที่ต้องเอาชนะใจตัวเองอย่างมาก

ถ้าใครทำได้จะตัดทั้งกิเลส สุขภาพดี อายุยืน และมีสมาธิดี

จะเกิดความมุ่งมั่นสูง ได้ประโยชน์ทั้งกายและใจ

แต่ท่าน ต้องฝึกกระเพาะให้เกิดความเคยชิน

วิธีฝึกมีด้วยกัน 4 วิธี ที่ได้ผลดังนี้

1. ค่อยๆลดปริมาณอาหารมื้อเย็น ค่อยๆ ลดทีละน้อย เช่น ลดกินข้าวจาก 2 จาน เหลือจานครึ่ง สัก 3 – 4 เดือน โดยมีข้อแม้ว่า หลังอาหารเย็นแล้วห้ามกินอาหารใดๆ ทั้งนั้นยกเว้นน้ำเปล่า พอกระเพาะชินแล้วลดเหลือ 1 จาน ต่อไปครึ่งจาน ต่อไปไม่กินข้าวเลยกินแต่กับ ต่อไปกินผักผลไม้ สุดท้ายงดอาหารเย็น

2. ร่นเวลากินอาหารเย็น เช่นปกติกินตอน 2 ทุ่ม ให้ลดมากินตอน 1 ทุ่ม ต่อไปเลื่อนเป็น 6 โมงเย็น 5 โมงเย็น 4 โมงเย็น 3 โมงเย็น ฯ เรื่องนี้ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ ปรับไป ต้องใช้เวลาสักหน่อย ร่างกายถึงจะชิน

3. กินเม็ดแมงลักแทนมื้อเย็น ใช้เม็ดแมงลัก 2 ช้อนโต๊ะ ใส่ในถ้วยน้ำแกงหรือน้ำเปล่า คนแล้วดื่มทันที ดื่มน้ำตามอีก 4 – 5 แก้ว จะทำให้อิ่ม ไม่รู้สึกหิว วิธีนี้ ง่ายที่สุด เหมาะกับ คนที่เริ่มปรับตัวใหม่ๆ

4. กินมังสะวิรัตมื้อเย็น การกินผักผลไม้ถือว่าเป็นอาหารไม่มีพิษ ร่างกายจะได้พักไม่ต้องทำลายพิษของอาหารเนื้อสัตว์ พิษที่สะสมไว้ก่อนก็จะถูกตับ ไต กำจัดหมดไปเองได้ ร่างกายมีเวลาถึง 18 ช.ม. กำจัดพิษที่ติดมากับมื้อเช้า มื้อเที่ยงได้ทัน ฉะนั้นการไม่กินอาหารเย็นจึงเป็นเวลาที่ตับ ไต จะสามารถกำจัดสารพิษจากอาหารมื้อเช้าและเที่ยงได้หมด ร่างกายจึงบริสุทธิ์ทุกวัน

ขอบคุณข้อมูลจาก : ทวิตสีดำ

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here