น้อยคนรู้ เมล็ดของผลไม้ที่ซื้อมากิน ปลูกได้อย่าทิ้ง เพาะง่าย ขึ้นง่าย

0

น้อยคนรู้ เมล็ดของผลไม้ที่ซื้อมากิน ปลูกได้อย่าทิ้ง เพาะง่าย ขึ้นง่าย

หลายๆ ครั้งที่ซื้อผลไม้มากินเเล้วอร่อยติดใจจนอยากมีต้นมาปลูกให้ได้กินลูกเรื่อยๆ วันนี้แอดมินมีเคล็ดลับการปลูกเมล็ดของผลไม้ที่ซื้อมากินให้ปลูกขึ้นได้ง่ายๆ โตไวมาฝากกันค่ะ

1. แก้วมังกร

เป็นผลไม้ที่กินได้ทั้งเมล็ดกระจายอยู่ทั่วๆ ของเนื้อทั้งลูก ถ้าต้องการที่จะเพาะต้นแก้วมังกร ก็ต้องแยกเมล็ดออกมาจากเนื้อ แล้วนำเมล็ดไปล้างให้เนื้อขาวๆ ออกให้หมด เหลือแต่เฉพาะเมล็ดสีดำๆ เท่านั้น ถ้าหากมีเนื้อแก้วมังกรติดมาด้วยอาจจะทำให้เน่า หรือสัตว์ตัวน้อยอย่างมด และแมลงสาบมากินก่อนที่จะงอก

นำเมล็ดมาเพาะโดยโรยไว้ในกระดาษทิชชู่จุ่มน้ำให้ชุ่ม คอยสังเกตไม่ควรให้ทิชชู่แห้ง ถ้าแห้งให้พรมน้ำ พอรากเริ่มงอกเยอะค่อยนำไปลงปลูกในดิน

2. กีวี่

ผ่าผลกีวีแล้วขูดเอาเมล็ดด้านในออกมา จากนั้นนำเมล็ดไปแช่น้ำเพื่อเป็นการล้างเนื้อสีเขียวๆ ออกจนหมด จากนั้นนำกระดาษทิชชูพรมน้ำมาห่อเมล็ดเอาไว้ นำไปใส่ไว้ในภาชนะพลาสติกปิดซิปล็อก

แล้วเก็บไว้ในพื้นที่ที่ไม่เย็นมากนัก เช่น ประตูตู้เย็นหรือช่องแช่ผัก ระหว่างนี้ก็คอยเช็กและพรมน้ำให้กระดาษชื้นอยู่ตลอดเวลาในทุก ๆ วัน

จนกว่าเมล็ดจะโต พอเริ่มมีต้นอ่อนก็นำไปปลูกลงกระถางได้เลย

3. สตรอว์เบอร์รี่

สตรอว์เบอร์รี่เป็นผลไม้ที่สามารถนำมาปลูกใหม่ได้ไม่ยากเลย เพราะมีเมล็ดติดอยู่กับเนื้อจำนวนมาก โดยใช้ไม้จิ้มฟันหรืออะไรก็ได้แคะเมล็ดออกมาจากผล นำมาล้างทำให้สะอาดและตากให้แห้งประมาณ 2-3 วัน จากนั้นนำแก้วมาตัดเอาช่วงฐาน

โดยมีความยาวประมาณ 1 เซนติเมตร พร้อมเจาะรูที่ฐานพอประมาณ เสร็จแล้วนำไปใส่ไว้ในแก้วอีกใบ เทดิน หว่านเมล็ด กลบดิน รดน้ำ รอไม่ต่ำกว่า 6 สัปดาห์จากนั้นก็นำไปปลูกในกระถางมาตรฐานได้เลย

4. สับปะรด

สามารถปลูกใหม่ได้ดยนำหัวสับปะรด (บริเวณใบ) แช่ในน้ำให้โดนเฉพาะใต้โคนใบ แล้วรอจนกระทั่งมีรากงอกออกมา จากนั้นค่อยนำไปปลูกลงในกระถางและดินระบายน้ำได้ดี สำหรับการดูแลนั้นก็ไม่ยาก เพียงนำกระถางไปตั้งในที่ที่มีแดดสลับกับที่ร่ม แต่ไม่ควรวางในมุมอับหรือมีความชื้นสูง คอยลดน้ำเป็นประจำแต่ไม่ต้องให้ดินชุ่มเกินไป

5. แอปเปิ้ล

นำเมล็ดที่อยู่ในผลแอปเปิ้ลทั้งหมดไปล้างให้สะอาด จากนั้นหุ้มด้วยกระดาษทิชชูแล้วเก็บไว้ในถุงพลาสติกอีกชั้น ผูกปากให้แน่นแล้วแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน ระว่างนี้ก็หมั่นเปิดเช็กเป็นระยะและระวังอย่าให้กระดาษและเมล็ดแห้ง เมื่อเริ่มมีต้นอ่อนสีขาวงอกออกมาค่อยย้ายลงไปปลูกในกระถาง

โดยฝังไว้ในดินความลึกประมาณ 1-2 นิ้ว พร้อมกับนำไม้มาปักเป็นหลักและพันไว้กับต้นเป็นระยะ เมื่อครบ 3 เดือนจึงค่อยนำไม้หลักออก

พร้อมกับนำไม้มาปักเป็นหลักและพันไว้กับต้นเป็นระยะ เมื่อครบ 3 เดือนจึงค่อยนำไม้หลักออก

6. เคพกูสเบอร์รี่

เป็นผลไม้ที่เพาะได้ง่ายๆ เพราะเคพกูสเบอร์รี่มีเมล็ดเยอะ เราสามารถนำเอาเมล็ดเคพกูสเบอร์รี่มาล้าง และนำไปตากแดดผึ่งให้แห้ง

เสร็จแล้วนำมาลงเพาะปลูกในภาชนะหรือในดินแปลงปลูกได้เลย

เพราะเคพกูสเบอ์รีเกิดง่ายมาก ปลูกได้เหมือนผักทั่วไป ไม่ยุ่งยาก

7. เก๋ากี้ หรือ โกจิเบอรี่

ผลโกจิเบอรี่ก็มีเมล็ดที่สามารถนำมาปลูกได้ต่อ หรือแม้กระทั่งที่เป็นโกจิเบอรี่ตากแห้ง หากเรารับประทานแล้วมีรสชาติถูกใจเราก็สามารถนำโกจิเบอรี่แห้งไปแช่น้ำในชามทิ้งไว้สักพัก พอเนื้อเริ่มนิ่มก็ทำการขยี้เบาให้แตก เมล็ดบางส่วนที่ไม่สามารถเพาะได้จะลอยขึ้นบนผิวน้ำให้ช้อนทิ้งไป

และตักเนื้อโกจิเบอรี่ออกเราก็จะได้เมล็ดที่สามารถเพาะได้ที่จมอยู่ก้นชาม เสร็จแล้วนำตากแดดผึ่งลมให้แห้งแล้วทำการเพาะต้นโกจิเบอรี่ได้เลย

8. ราสเบอร์รี่

นำเอาผลราสเบอร์รี่มาวางในกระชอนแล้วกดเบาๆ ให้เนื้อลอดรูกระชอนออกไปเปิดน้ำล้าง

เสร็จแล้วนำไปตากแดดผึ่งลมให้แห้งแล้วนำไปเพาะต้นราสเบอร์รี่ได้เลย

ขอขอบคุณ : kapook

เขียน / เรียบเรียง : Postsara

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here