แม่ให้ “ผ้าห่ม” กับลูกสาว บอกให้เก็บสมบัติชิ้นนี้ไว้ให้นะลูกรัก

0

แม่ให้ “ผ้าห่ม” กับลูกสาว บอกให้เก็บสมบัติชิ้นนี้ไว้ให้นะลูกรัก

เรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักของแม่และลูก เป็นชีวิตจริงจากเว็บไซต์ต่างประเทศ เรื่องราวมีอยู่ว่าครอบครัวนี้เป็นชาวนามีสมาชิก 4 คน พ่อ แม่ ลูกชาย และลูกสาว แม่ชื่ออาจาง ทั้งพ่อและแม่เขาทั้งคู่ทำงานเหน็ดเหนื่อยแต่ก็ได้เงินไม่มาก แต่เขาก็สามารถเลี้ยงดูลูกทั้ง 2 คนจนเติบโตได้ จนลูกชายและลูกสาวแต่งงานได้มีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว

ลูกสาวแต่งงานไปกับชายหนุ่มที่อยู่หมู่บ้านข้าง ๆ ทั้งคู่ไม่ได้เรียนหนังสือสูง จึงมีชีวิตที่ค่อนข้างลำบาก ไม่ค่อยมีงานทำ ส่วนลูกชายได้เรียนจบสูงและหลังเรียนจบเขาก็หางานทำต่อในเมือง ได้รู้จักสาวในเมืองคบหาดูใจกันไม่นาน ฝ่ายหญิงเรียกร้องให้จัดงานแต่งงานให้จัดในเมืองงานใหญ่โต เรียกสินสอด 1 แสน พ่อแม่ไม่รู้จะทำยังไง จึงไปขอยืมเงินจากญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงมาจัดงานแต่งงานให้แก่ลูกชาย

หลังจากแต่งงานพ่อแม่ มาอยู่ร่วมบ้านกับลูกชายและลูกสะใภ้อยู่ได้ไม่นาน ลูกสะใภ้ก็เริ่มเผยธาตุแท้นิสัยที่ไม่ดีของตัวเองออกมา หวงข้าวของ หวงของกิน ลูกสะใภ้ทะเลาะกับพ่อแม่สามีทุกวัน อยู่มาวันหนึ่งหลังจากทะเลาะกันเสร็จลูกสะใภ้ก็พูดขึ้นว่าจะพาหลานกลับไปอยู่ที่อื่น ลูกชายก็เชื่อภรรยาไม่สงสารพ่อแม่ตัวเอง หลังจากที่ลูกชาย ลูกสะใภ้และหลานย้ายไปอยู่ที่อื่น พ่อแม่ก็ไม่เคยได้เจอพวกเขาอีกเลย

ลูกชายของเขาจะทำงานได้ดี แต่คนในหมู่บ้านไม่มีใครชอบเขาเลยสักคน เพราะความอกตัญญูที่เขาทำกับพ่อแม่ แต่ในทางกลับกันลูกสาวแม้จะไม่ร่ำรวย แต่เขาก็คอยแวะมาเยี่ยมเยือนหาพ่อแม่อยู่ตลอด คอยดูแลว่าขาดเหลืออะไรช่วยหามาให้พ่อแม่ คนในหมู่บ้านต่างก็พากันชื่นชม อยู่มาอีกไม่นานพ่อก็เสียชีวิต ลูกชายกลับมางานเผาพ่อแล้วก็กลับไป และจากนั้นเขาก็นาน ๆ กลับมาหาแม่ที

แล้วเวลาก็ผ่านไปหลายปีจนแม่อายุได้ 73 ปี มีอาการไม่ค่อยสู้ดีนักจึงไปหาหมอตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง ลูกชายและลูกสาวตัดสินใจช่วยกันออกค่ารักษาพยาบาลให้แม่คนละครึ่ง แต่ลูกสะใภ้กลับไม่ให้ และยังใช้คำพูดที่ไร้น้ำใจ พูดกับแม่สามีว่า “มะเร็งรักษาไปก็ไม่หาย รักษาให้เสียเงินเปล่า ๆ แม่เลิกทำตัวเป็นภาระลูกได้แล้ว”

เมื่อลูกสาวได้ยินอย่างนั้นก็ทนไม่ได้ ทำให้ทะเลาะกับพี่สะใภ้ ลูกชายจึงพาภรรยากลับไปและไม่มาเยี่ยมแม่อีกเลย ในบั้นปลายชีวิตของคนเป็นแม่จึงเหลือเพียงลูกสาวและลูกเขยคอยดูแล ทั้งคู่ไปตระเวณขอยืมเงินจากคนอื่นมาเพื่อรักษาแม่ แม่ซาบซึ้งใจทั้งคู่มาก แต่แม่ก็ไม่อยากอยู่เป็นภาระของลูกมากไปกว่านี้จึงปฏิเสธที่จะรักษาตัวต่อ โดยขู่ลูกว่าถ้าลูกพยายามพาแม่ไปรักษาต่อ แม่จะปิดชีพตัวเอง

อีกไม่นาน แม่ก็รู้ว่าตัวเองเริ่มไม่ไหวแล้ว จึงเรียกให้ลูกสาวและลูกชายมาพร้อมหน้ากันเพื่อแบ่งทรัพย์สิน เมื่อได้ยินว่าแม่จะแบ่งทรัพย์สินให้ลูกชายและลูกสะใภ้ก็รีบมาหาแม่ทันที เมื่อลูกสะใภ้เหยียบเข้ามาในบ้านก็ถามขึ้นมาทันทีว่า “เงินอยู่ที่ไหน” เขาไม่คิดจะถามเรื่องสุขภาพของแม่สามีเลยสักคำ

จนแม่เก็บน้ำตาไว้ไม่อยู่ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ แม่ก็หยิบกุญแจใต้หมอนออกมาส่งให้ลูกชาย พร้อมบอกลูกชายว่า “ในตู้มีเงิน 35,000 เป็นเงินที่พ่อกับแม่ช่วยกันเก็บไว้ให้หลาน” เมื่อลูกชายไขกุญแจตู้และหยิบเงินออกมา ลูกสะใภ้ก็แย่งเงินไปและสะบัดก้นออกจากบ้านไป พร้อมกับพูดว่า “เงินแค่นี้เรียกให้มาเอาเสียเวลาจริง ๆ”

เมื่อลูกสาวเดินน้ำตาคลอเข้ามาหาแม่ในห้อง แม่ก็บอกให้ลูกสาวไปหยิบเอาผ้าห่มในตู้นั้นกลับบ้าน ผ้าห่มนี้ทั้งหนาและอุ่น เป็นสิ่งเดียวที่พ่อกับแม่เก็บไว้ให้ลูกนะลูกรัก ลูกสาวร้องไห้ออกมาพร้อมกับเข้ามากอดแม่ และแม่ก็จากเขาไปอย่างสงบ

หลังงานเผาแม่ผ่านพ้นไป ลูกสาวก็กลับบ้านถอดปลอกผ้าห่มเพื่อจะเอาออกมาซัก สมุดบัญชีก็ตกลงมาเมื่อเขาเปิดดูจึงพบว่ามีเงินในบัญชี 850,000 บาท ลูกสาวจึงน้ำตาไหลว่าแท้ที่จริงแล้วที่เขาและสามีดูแลพ่อแม่ พ่อแม่ก็รักและเอ็นดูเขาทั้งคู่มาโดยตลอด

เรื่องราวชีวิตนี้สอนให้รู้ว่า “ไม่ว่าพ่อแม่เราจะเป็นใครท่านคือพระอรหันต์ที่ยิ่งใหญ่สำหรับเรา อย่าลืมกตัญญูต่อท่านแล้วจะพบแต่ความเจริญ”

แปล / เขียน / เรียบเรียง : Postsara

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here