เขารวยล้นฟ้า มีเงิน3.5พันล้าน แต่พอลูกชายแต่งงาน กลับโดนฝ่ายหญิงดูถูกว่าจน

0

เขารวยล้นฟ้า มีเงิน3.5พันล้าน แต่พอลูกชายแต่งงาน กลับโดนฝ่ายหญิงดูถูกว่าจน

ช่วงที่ผ่านมา ทางบันทึกสื่อรายงานจีนได้เปิดเผยว่า เมื่อปี 2018 ลูกชายของอู่เจียฮั่น ที่เป็นดารานักแสดงรุ่นใหญ่ ถูกครอบครัวของฝ่ายหญิงที่จะแต่งงานด้วยดูถูกว่าจน

ทำให้เรื่องนี้เขาถึงกับเอ่ยปากตอบสื่อมวลชนว่า

“เขาไม่แคร์”

ทำให้ผู้คนต่างๆมากมายให้ความสนใจกับปฏิกิริยาเช่นนี้ของเขา

จนทำให้เขาเองก็คิดไม่ถึงด้วยเช่นกัน

หากจะมองดูแล้ว นักแสดงรุ่นใหญ่คนนี้ไม่ได้ยากจนข้นแค้นอะไรเลย คนที่บอกว่าเขาจนอาจจะยังไม่ได้รู้จักตัวเขาดีพอ

ถึงแม้ว่าลูกชายของเขาไม่ถือว่าร่ำรวย แต่การแต่งงานของลูกชาย ผู้เป็นพ่อก็ไม่ได้ช่วยออกเงินให้เลย ไม่มีแม้แต่จะซื้อบ้านหรือรถให้ เพราะว่าเชื่อในการสอน เชื่อในวิธีการสอนลูกชายที่ดีที่สุด นั่นก็คือ ให้ลูกหาเงินด้วยตัวเอง
ทำให้เรื่องนี้ครอบครัวของแฟนลูกชายสงสัยว่า นี่คือวิธีการสอนลูก หรือว่าที่แท้จริงตัวเองไม่มีเงินอยู่กันแน่

หากย้อนดูให้ดีแล้ว เขาไม่ได้ไม่มีเงินอย่างใครบอกเลย เขาเติบโตในครอบครัวที่มีฐานะ พ่อของเขาเป็นถึงผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทรถบัสจิ่วหลงในฮ่องกง และโรงแรมจิ่วหลงอีกด้วย จึงไม่แปลกที่เขาจะได้รับมรดกจากผู้เป็นพ่อ ในสมัยก่อนผู้มีฐานะมักมีภรรยาได้หลายคนโดยที่สังคมไม่ต่อต้าน ตัวพ่อของเขาเองก็มีภรรยามากถึงสี่คน เขาเป็นลูกชายคนเล็กของภรรยาคนที่สอง ถึงแม้ว่าจะเกิดในครอบครัวร่ำรวย

แต่น่าเสียดายที่แม่ของเขาได้ เ สี ย ชี วิ ต ลงขณะที่เขาอายุเพียง 7 ขวบ ภรรยาคนแรกจึงรับเอาเขาไปเลี้ยงดู และดูแลได้ไม่ดีนัก เขาต้องไปอยู่ที่โรงเรียนประจำตั้งแต่อายุ 7 ขวบ และส่งไปเรียนที่อังกฤษในวัย 15 ปี เขาต้องหาเงินเลี้ยงตัวเองที่เมืองนอก โดยเฉพาะหลังจากที่เขาทะเลาะกับพ่อของเขาจนถึงขั้นตัดขาดสัมพันธ์พ่อลูก ชีวิตของเขาไม่ได้ราบรื่นนัก ทุกอย่างได้มาด้วยความพยายามของตัวเอง แม้กระทั่งงานจากไปของพ่อตัวเอง ยังไม่มีเงินพอซื้อตั๋วเครื่องบินกลับมาฮ่องกงเลย

ถึงแม้เขาจะไม่ถูกกับพ่อ แถมยังได้ตัดขาดสัมพันธ์พ่อลูกกันอีก แต่พ่อของเขายังได้เหลือมรดกในชื่อเขามากมายทั้งธุรกิจและหุ้น รวมถึงส่วนแบ่งมรดกทั้งหมด เรียกได้ว่าได้ทำให้เขากลายเป็นคนรวยในวัยหนุ่มก็ไม่ผิดนัก

ด้วยความที่เขาเป็นคนพยายาม และมีวิธีการสั่งสอนลูกในแบบตัวเองอย่างที่เรารู้ ในวัยเด็กเขาไม่ได้ตั้งใจสานต่อธุรกิจของพ่อ แต่เลือกเดินในวงการนักแสดงแทน เขาเลือกเรียนสาขาการแสดงที่อังกฤษ และยังมีโอกาสได้ร่วมแสดงละครโทรทัศน์กับ BBC ถึง 4 เรื่อง ในช่วงยุคปี 70 เขาหวนกลับไปฮ่องกง และเข้าสู่วงการภาพยนตร์เต็มตัวเมื่อปี 1976 จนกระทั่งในช่วงยุคปี 80 ภาพยนตร์เรื่อง “มือปราบจมูกหิน” ได้ทำให้เขาเป็นที่รู้จัก และมีรายได้สูงถึงสิบล้าน เขายอมรับยุคทองของเขาคือช่วงยุคปี 70 ถึงยุคต้นปี 80 ทำให้เขาร่ำรวยจากการแสดงหนัง ซื้อโรลส์-รอยซ์ถึงสองคัน และรถราคาแพงอีกหลายคัน ในปี 1979 เขาได้ซื้อคฤหาสน์หลังใหญ่ ในช่วงยุคปี 80 เขาได้เซ็นสัญญากับบริษัทใหม่ ถ่ายทำภาพยนตร์ไปกว่า 6 เรื่องในช่วงระยะเวลาสามปีด้วยค่าหลายล้าน และยังได้ถ่ายทำเพิ่มอีก 11 เรื่องในเวลาต่อมา ราคาบ้านในฮ่องกงตอนนั้นหลังละ 1 ล้าน เมื่อได้รับค่าตัวเขาก็ซื้อบ้านทันทีหนึ่งหลัง และคอยเก็บค่าเช่ารายเดือนมาตลอด

แต่ก็มีคนบอกว่าเขาใช้เงินหมดตัวไปตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นแล้ว เขาออกมาปฏิเสธ ในช่วงยุคทองของเขาถึงแม้จะใช้เงินเก่ง แต่เขาก็ไม่ได้ใช้เงินเปล่าประโยชน์ เขาลงทุนธุรกิจและซื้อรถที่ราคาไม่ตกมากนัก ปัจจุบันเขามีอายุ 79 ปีแล้ว แต่ยังคงปรากฏตัวอยู่ในหนังฮ่องกงให้เห็นอยู่เสมอ หลายคนบอกว่าเพราะไม่มีเงินจึงต้องไปแสดงหนัง แต่ความจริงคือเขาสนใจในบทละครและตัวผู้กำกับ ไม่ได้สนใจด้วยว่าค่าตัวจะน้อยเพียงใด หากคำนวณแล้วทรัพย์สินของเขาน่าจะมีอยู่ไม่ต่ำกว่า 3,500 ล้าน

เรียกได้ว่าเขาเป็นรู้จักทั้งในวงการภาพยนตร์ฮ่องกง และ TVB ด้วย เพียงแต่อันหลังจะน้อยกว่า เนื่องจากเคยมีปัญหาเรื่องค่าจ้างกันในช่วงปี 70 และในช่วงปี 1989-1990 เขายังเคยแสดงในสถานีโทรทัศน์เอเชียเทลิวิชั่น ปัจจุบันเขาร่วมแสดงในช่อง ViuTV และสถานีโทรทัศน์ฮ่องกง ถึงแม้ว่าเขาจะอายุ 79 ปีแล้ว แต่ก็ยังรับงานแสดงอยู่ถึงสิบกว่าเรื่อง เขาบอกว่าที่ยังทำงานอยู๋ก็เพราะยังหลงรักในการแสดง

หลังจากที่ผู้คนเริ่มรู้จักเขาในเชิงลึกมากขึ้น ข่าวเสียหายเกี่ยวกับการแต่งงานของลูกชายก็เงียบหายไป เขายังคงให้คำตอบแก่สื่อที่มาสัมภาษณ์ว่า ที่เขาไม่ได้ให้เงินลูกชายไปแต่งงานไม่ใช่เพราะขี้เหนียว แต่เป็นเรื่องของความตั้งใจของลูกชายด้วย ลูกของเขาตั้งตัวได้ตั้งแต่อายุ 19 ปี ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยขอเงินเขาอีกเลย ดังนั้นถึงแม้ว่าลูกชายจะไม่มีบ้านและรถใหม่ให้แฟนสาว แต่เขาก็ยังภูมิใจในตัวลูกมาก

ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น ลูกชายที่ขยันทำมาหากินเหมือนพ่อ ย่อมประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน แต่ช่างน่าเสียดายที่ครอบครัวแฟนสาวกลับมองไม่เห็นความพยายามของเขาเลย

ขอขอบคุณ : liekr

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here