บอกบุญ ใครที่กำลัง “มองภาพไม่ชัด แสบตา ตาพร่า” มีสูตรมาบอกเพียงทำตามนี้

0

บอกบุญ ใครที่กำลัง “มองภาพไม่ชัด แสบตา ตาพร่า” มีสูตรมาบอกเพียงทำตามนี้

กินฟักทองมากตาแฉะ คำกล่าวของคนโบราณที่ห้ามเด็กๆทานฟักทองมากเกินไป เป็นความจริงนะครับ เพราะในฟักทองมีวิตามินเอและเบต้าแคโรทีนสูงมาก สารสำคัญทั้งสองช่วยบำรุงตาได้ดีกว่าสารสกัดเป็นเม็ดและถูกกว่ามากครับ

วันนี้เห็นสูตรน้ำฟักทองเลยนึกถึงตอนไปอยู่ฝรั่งเศสมีคนรู้จักทำให้ทานเขาใส่ผงอบเชยลงไปด้วย หอมมากๆและได้ประโยชน์เรื่องลดน้ำตาลในเลือดด้วยครับ

สูตรน้ำฟักทองทำกินทำขายได้!!

1. ฟักทอง 1 ผล

2. น้ำสะอาด(น้ำดื่ม) 2 ลิตร

3. เกลือ 2 ช้อนชา

4. นมจืด 1 กล่อง (200 มิลลิลิตร)

5. น้ำตาล 12 ช้อนโต๊ะ (หรือหวานตามชอบ)

วิธีทำ

1. ล้างฟักทองทั้งผลเพื่อให้สิ่งสกปรกหรือฝุ่นหลุดออก

2. ปอกเฟลือกฟักทอง โดยอย่าให้เหลือส่วนที่เป็นสีเขียวของเปลือก

3. หั่นฟักทองเป็นชิ้นขนาด 1 นิ้ว

4. นำฟักทองที่หั่นเสร็จแล้วล้างอีกเพื่อเอายางออก

5. ต้มฟักทองประมาณ 15 นาที แล้วพักไว้ให้เย็น

6. นำฟักทองที่ต้มแล้วมาบดให้ละเอียด

7. นำหม้อที่มีน้ำต้มฟักทองเหลืออยู่ตั้งไฟให้ร้อน(ไม่ต้องเดือด)

8. ค่อยๆเทฟักทองที่บดละเอียดแล้วใส่ลงในหม้อ

9. เคี่ยวฟักทองโดยใช้ไฟปานกลางพอร้อนแต่ยังไม่เดือด

10. ใส่นมจืดลงไปแล้วเคี่ยวต่อ 2 นาที

11. เติมเกลือ และน้ำตาล เคี่ยวจนน้ำตาลละลายหมด ชิมรสดูให้มีรสหวานกลมกล่อม

12. พักไว้ให้เย็นแล้วตักเสิร์ฟ

สุดท้ายให้เติมผงอบเชยลงไปบนแก้วน้ำฟักทองเล็กน้อยประมาณปลายช้อนชา จะได้น้ำฟักทองอบเชยที่มีประโยชน์มากครับ

*** คนไข้เบาหวานให้เติมน้ำตาลแต่น้อยครับ หรือเปลี่ยนเป็นน้ำตาลมะพร้าวแทน

ประโยชน์ด้านอื่นๆของฟักทอง

1. ฟักทองมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยในการชะลอวัยและความแก่ชรา

2. ช่วยฟื้นบำรุงสุขภาพผิวให้เปล่งปลั่งสดใสและช่วยปกป้องผิวไม่ให้เหี่ยวย่น

3. ช่วยบำรุงและรักษาสายตา

4. ฟักทองมีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพร่างกาย

5. ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย

6. น้ำมันจากเมล็ดฟักทองมีส่วนช่วยบำรุงประสาท

7. เมล็ดฟักทองช่วยทำให้อารมณ์ดี เพราะมีสารที่ช่วยในการสร้าง Serotonin ซึ่งมีผลต่ออารมณ์

8. มีฤทธิ์ในการช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

9. เป็นอาหารที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรืออยากลดความอ้วน เพราะมีไขมันน้อย กากใยสูง

10. ฟักทองมีกรดโปรไบโอนิค ซึ่งมีส่วนทำให้เซลล์มะเร็งอ่อนแอลง

ขอบคุณข้อมูลจาก : สมุนไพรหมอศุภ, บ้านสมุนไพร, longlongdo

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here