ชายชรารับเลี้ยง “ขอทาน” แต่โดนขโมยเงินไปหมด สุดท้ายมีรถหรูมาจอดหน้าบ้าน

0

ชายชรารับเลี้ยง “ขอทาน” แต่โดนขโมยเงินไปหมด สุดท้ายมีรถหรูมาจอดหน้าบ้าน

มีเรื่องราวของลุงคนหนึ่ง ที่ได้มาพบกับขอทานข้างถนน และเรื่องราวนั้นก็ดำเนินมาเรื่อย จากคนแปลกหน้าที่ไม่เคยข้องเกี่ยวกันมาก่อน ก็ได้เปลี่ยนชีวิตของคุณลุงโจไปตลอดกาล

ในที่ชุมชนมักจะมีคนที่คอยนั่งจับกลุ่มคุยกันตามร้านน้ำชา ที่หมู่บ้านนี้ก็เช่นเดียวกัน เนื่องจากนายโจไม่ได้หล่อเขาอายุได้ 50 ปี ก็ยังไม่มีภรรยาเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ยังคงอาศัยอยู่ในหมู่บ้านขนาดเล็ก บ้านของเขามีพื้นที่เพียงแค่ 20 ตารางวา เป็นที่ที่พ่อแม่ของเขาเหลือไว้ให้

ในแต่ละวันนั้นเขามักจะตระเวนไปตามตรอกซอกซอยเพื่อที่จะรับจ้างลับมีด แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่นิสัยของเขานี่แหละ ที่มักจะชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้านใหม่ๆ

มีวันหนึ่ง

สามีภรรยาคู่หนึ่งได้ทะเลาะกัน มีเสียงดังไปครึ่งซอย บ้านละแวกนั้นก็ออกมายืนมุงดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้าม โจทนดูต่อไปไม่ไหว จึงเดินเข้าไปไกล่เกลี่ย แต่สุดท้ายกลับกลายเป็น 2 สามีภรรยารวมหัวกันมาทำร้ายเราแทน

จากหน้าตาก็ไม่ค่อยจะดีอยู่แล้วก็เลยทำให้มีแผลเพิ่มมากขึ้น จนกลายเป็นเรื่องราวที่คนหมู่บ้านพูดกันไปเป็นปี
ในช่วงเช้าวันหนึ่ง ลุงโจก็ได้ออกจากบ้านขี่มอไซค์คู่ใจไปทำงานเป็นปกติ ระหว่างทางนั้นแกเห็นเด็กอายุประมาณ 10 ปี นอนหลับอยู่ข้างทาง หน้าตาก็มอมแมมมีรอยคราบน้ำตาบนใบหน้า แกก็ถอนหายใจและขี่มอเตอร์ไซค์จากไป

ในช่วงกลางวัน ระหว่างทางที่เขาขี่กับบ้านเขาก็เห็นเด็กคนเมื่อเช้าอีกครั้ง ในตอนนี้เขากำลังนั่งคุกเข่าขอเงิน ขอข้าวจากคนที่เดินผ่านไปผ่านมา แม้ว่าคุณลุงโจนั้นจะเคยเจอดีมาแล้ว แต่นิสัยยุ่งเรื่องของชาวบ้านนั้นก็ไม่หาย แกเดินเข้าไปหาและกล่าวว่า

ลุงทำงานเลี้ยงตัวลุงแค่คนเดียว ถ้าเธอไม่รังเกียจที่ลุงจน โรงรับประกันเลยว่าจะไม่ปล่อยให้เธอหิว

เขาจ้องมองลุงโจสักพักนึง ก่อนที่จะมองไปรอบๆ สุดท้ายเขาก็ปีนขึ้นนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ พอถึงบ้าน ลุงโจก็อาบน้ำสระผมให้กับเขาคนนี้ จากนั้นก็เอาเสื้อผ้าตัวเล็กๆที่เขาใส่ไม่ได้แล้วสัก 2-3 ตัวมาให้คนนี้ใส่ เด็กคนนี้เป็นคนที่ดูมีความรู้ ในทุกทุกวันเขาจะช่วยทำอาหารและทำความสะอาดบ้าน

จากนั้นไม่นานเรื่องของลุงโจที่เอาเด็กขอทานมาเลี้ยงก็ได้เผยแพร่ไปยังทั่วหมู่บ้าน เพื่อนบ้านก็หวังดีให้แกนั้นรีบไล่เจ้าเด็กคนนี้ออกจากบ้านไปซะ

บอกว่าเด็กขอทานพวกนี้ไว้ใจไม่ได้เลย ระวังจะเกิดเรื่องกับตัวเอง แต่ด้วยความที่ลุงโจเป็นคนหัวรั้น ลุงแกจึงไม่ใส่ใจ รู้เพียงแค่ว่าชอบเด็กชายมากขึ้นเรื่อยๆ

พริบตาเดียวก็ผ่านไปหนึ่งเดือน แล้ววันนึง ก็มีชายหญิงวัยกลางคนมาปรากฏตัวที่หน้าบ้านลุงโจ แล้วด่าว่า : แกมันไร้คุณธรรม มากักตัวลูกฉันไว้

โจหันไปถามเด็กชาย : นี่พ่อแม่ของเธอหรอ? เด็กชายตอบอย่างหวาดกลัว : ใช่ ไม่ ไม่ใช่

ลุงโจก็เลยหันไปพูดกับชายหญิงสองคนนั้น : ถ้าพวกคุณบอกว่าเด็กคนนี้เป็นลูก ก็เอาหลักฐานมาให้ฉันดู ฉันถึงจะให้แกไปกับพวกคุณ ไม่อย่างนั้นก็อย่าหวัง

ชายหญิงคู่นั้นเริ่มรน พูดจาข่มขู่ : แม้ว่าพวกเราจะไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ แต่ตอนนั้นที่แกโดนทิ้งไว้ข้างถนน พวกเราเป็นคนช่วยแกไว้ แล้วยังเลี้ยงดูมาอีก 10 ปี ในสิบปีมานี้พวกเราใช้เงินไปไม่น้อยดูแลแก ตอนนี้แกสามารถขอทานหาเงินมาตอบแทนบุญคุณได้แล้ว คุณกลับมาเอาแกกลับมาอยู่บ้าน ทำอย่างนี้ถูกต้องหรือไง

ลุงโจถามเด็กชายว่าที่ชายหญิงสองคนนั้นพูดเป็นความจริงหรือไม่ เด็กชายเม้มปากแล้วก็พยักหน้า ในโลกนี้มีคนแบบนี้ด้วยหรอเนี่ย ลุงโจเลยถามกลับไปว่าต้องทำยังไงพวกเขาถึงจะยอมปล่อยเด็กชายไป

สองคนนั้นก็เลยอบยิ้มแล้วว่า : ให้ปล่อยแกไปน่ะได้ แต่คุณต้องจ่ายเงินให้พวกเรา 25,000 25,000! เขาทำงานมาเกือบทั้งชีวิต รวมบ้านที่อยู่ด้วยยังแค่ 5 หมื่น พวกเขาแค่เอ่ยปากก็จะเอาไปครึ่งนึงเลยหรอไง ลุงโจลังเลอยู่สักครู่ แล้วก็ไปเบิกเงินจากธนาคาร 25,000 มาให้ชายหญิงคู่นี้ ทั้งสองคนมองแต่ไม่มีใครรับเงิน ลุงโจเข้าใจความหมาย ทั้งสองต้องการโก่งราคา แกมองไปเห็นหน้าของเด็กชายน่าสงสาร แกเลยเช็ดเหงื่อแล้วไปเบิกเงินในบัญชีที่เหลือมาจนหมดได้อีก 25,000 ก่อนจะกัดฟันมอบให้ชายหญิงคู่นั้นไปทั้งหมด 35,000

เมื่อชายหญิงสองคนนั้นเดินจากไปไกล

เด็กชายก็คุกเข่าลงกับพื้น ก้มลงกราบลุงโจ : พ่อครับ ต่อไปนี้ลุงคือพ่อของผม

ดีมากไอ้ลูกชาย ลุกขึ้นมาเถอะ ลุงโจดีใจยิ้มไม่หุบ หลังจากนั้น 2 เดือน ก็มีเรื่องบางอย่างที่ลุงโจคาดไม่ถึงเกิดขึ้น เด็กชายกับเงินที่เหลืออีก 15,000 ของเขาหายไปพร้อมกัน แล้วก็เป็นอีกครั้งที่เรื่องราวของลุงโจโดนคนทั้งหมู่บ้านพูดถึง บางคนบอกว่าน่าสงสาร ไม่เพียงแต่โดนขโมยเงินไปจนหมด ยังโดนหลอกให้เสียความรู้สึกอีก แต่ก็มีคนสมน้ำหน้าที่แกชอบไปยุ่งเรื่องของคนอื่น แต่ไม่ว่าใครจะพูดอะไร ลุงโจก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน ทุกวันแกก็ยังพยายามตามหาลูกชาย

ผ่านไป 16 ปี ลุงโจในวัย 70 กว่าร่างกายทรุดโทรมลงเรื่อยๆ หลังงองุ้ม มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเงินช่วยเหลือจากรัฐ วันหนึ่งขณะที่กำลังตากผ้าในสวน อยู่ดีๆแกก็เป็นลมหน้ามืด พอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง แกก็ถูกเพื่อนบ้านส่งไปโรงพยาบาลแล้ว คุณหมอบอกแกว่า ในสมองแกมีเนื้องอก เป็นเนื้อร้าย แต่เนื่องจากแกอายุมากแล้วไม่ควรผ่าตัด ให้แก กิ น ย า ควบคุมไว้แทน แล้วก็ดูแลตัวเองให้ดีที่บ้าน แล้วหมอก็ยื่น ใ บ สั่ ง ย า ให้แกไปรับย า ลุงโจถือกระดาษแผ่นนั้นกลับบ้านเงียบๆ แกจะมีเงินที่ไหนไป จ่ า ย ค่ า ย า หรือต่อให้กินก็ต้องลาโลกอยู่ดี

แล้วตอนที่แกกำลังรอเวลาจากไป รถหรูคันหนึ่งก็มาจอดหน้าบ้าน ชายหนุ่มในชุดสูทคนนึงเดินลงมาจากรถ แล้วมุ่งตรงมาหาแก เมื่อเห็นลุงโจนั่งสัปหงกอยู่ในสวน

ชายหนุ่มก็เรียกว่า : พ่อ ลุงโจสะดุ้งตื่น มองชายหนุ่มอย่างงงๆ ชายหนุ่มหน้าตาคุ้นๆ บนคิ้วขวามีไฝ ลุงโจน้ำตาไหล ชายหนุ่มคุกเข่าลงตรงหน้า

ร้องไห้ไปพูดไป : พ่อครับ ตอนนั้นผมอยากเป็นลูกพ่อจริงๆ อยากอยู่กับพ่อ แต่หลังจากพ่อแม่เลี้ยงของผมเอาเงิน 35,000 ไปไม่นาน พวกเขาก็กลับมาบังคับให้ผมขโมยเงินที่เหลือของพ่อให้ แล้วก็หนีไปกับพวกเขา ไม่งั้นเขาจะเอาไฟเผาบ้านของพ่อ ผมกลัวเขาจะทำร้ายพ่อ ก็เลย….แต่หลังจากผมขโมยเงินไปแล้ว ผมอยากกลับมาหาพ่อ แต่ผมกลัวพ่อไม่เชื่อ พ่อ….ผมขอโทษ

ลุงโจรับชายหนุ่มเข้ามาในอ้อมกอด : พ่อรู้ เธอเป็นลูกที่ดี จากนั้นชายหนุ่มก็รับลุงโจไปอยู่ที่บ้าน แล้วเขากับภรรยาก็ช่วยกันดูแลแก แถมยังหาหมอที่เก่งที่สุดมารักษาให้ด้วย

เขียนเพิ่มเติมโดย : Postsara

ขอขอบคุณ : LIEKR

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here