น้อยคนจะรู้จัก สุดยอดตำรับโบราณ ถูก ดีไม่แพ้ของนอกแน่

0

น้อยคนจะรู้จัก สุดยอดตำรับโบราณ ถูก ดีไม่แพ้ของนอกแน่

ตำรับตำราโบราณบ้านเรา องค์ความรู้ของแพทย์แผนไทยหรือหมอพื้นบ้านนั้นมีการใช้มาตั้งหลายทศวรรษแล้ว เป็นตำรับที่มีการผลิตขายทั่วไปจนปัจจุบันนั้น ประชาชนทั่วไปนำมาใช้ เพราะเราใช้แล้วเห็นว่าสามารถรักษาอาการแก้ไข้ แก้อาการปวด ตัวร้อน และอื่นๆอีกได้เป็นอย่างดี แถมหายไวไม่ต้องกลับมาใช้ซ้ำอีก

ทำไมถึงกลายเป็นของดีตำรับที่ยังใช้กันอยู่ เมื่อเราลองหันมองย้อนกลับไปในอดีต น้อยคนนักที่จะไม่เคยเป็นอีสุกอีใสหรือไข้ออกผื่น และ ตัวเลือกไม่กี่อย่างที่จะสามารถจัดการกับอาการเหล่านั้นได้ นั้นก็คือ “ ย า เ ขี ย ว” หลายๆคนคงขยาดกับเจ้าตัวนี้และคงพูดว่า “ไม่เอาอีกแล้ว ไม่กินอีกแล้ว มันขมมาก”

หากเราเป็นไข้ ปวดหัว ปวดท้อง ปวดเนื้อปวดตัว ตามประสาคนไทยก็คงนึกถึงแต่พาราเซตามอลขนาด 500 mg. แต่รู้มั้ยว่าเจ้าพาราชนิดนี้ ‘มีผลเสียต่อตับมากกว่าผลดี’ ในต่างประเทศเลยรณรงค์ไม่กินพาราพร่ำเพรื่อกันแล้ว แต่เราคนไทยก็ไม่ต้องคิดเยอะว่าถ้าไม่มีพาราแล้วต่อไปจะกินอะไรแก้ปวดได้ มีความรู้จากเพจ สมุนไพรหมอศุภ ที่ได้เผยว่า ‘เขียว’ บ้านเรานี่แหละ ทดแทนพาราได้แน่นอน

อันที่จริงการใช้เขียวในโรคไข้ออกผื่นในแผนไทย ไม่ได้มีจุดประสงค์ในการยับยั้งเชื้อไวรัส แต่ต้องการกระทุ้งสิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นให้ออกมามากที่สุด ผู้ป่วยจะหายได้เร็วขึ้น ผื่นไม่หลบใน หมายถึงไม่เกิดผื่นภายใน ดังนั้นจึงมีหลายคนที่กินแล้วจะรู้สึกว่ามีผื่นขึ้นมากขึ้นจากเดิม แพทย์แผนไทยจึงแนะนำให้ใช้ทั้งวิธีกินและชโลม โดยการกินจะช่วยกระทุ้งสิ่งไม่ดีออกมา และการชโลมจะช่วยลดความร้อนที่ผิวหนัง

โดยสรรพคุณดั้งเดิมของของดี สีเขียวนั้น

แก้ได้ตั้งแต่เป็นไข้ ร้อนใน ง่ายๆว่าถ้ารู้สึกตัวรุมๆ เหมือนจะเป็นไข้ ตากฝน เพลียแดด ปวดหัวตึ้บๆ สามารถกินได้เลย ซองละ 5 บาทเท่านั้น แถมยังช่วยบำรุงตับ บำรุงร่างกาย ไม่สร้างผลเสียเหมือนทั่วไปที่เรากินกันอยู่ทุกวันล้านเปอร์เซ็นต์

สรุปได้ว่า ตัวนี้ที่ใช้กันมานาน และเป็นมรดกทางการแพทย์แผนไทยที่ควรสืบทอด พร้อมกับศึกษาทางคลินิก หรือการรวบรวมข้อมูลการใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ต่อไป

ขอขอบคุณ : pharmacy.mahidol, รองศาสตราจารย์ รุ่งระวี เต็มศิริฤกษ์กุล

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here