ฝึก 9 อย่างใบลาออกจากความทุกข์ แค่2นาที กับชีวิตที่ดีขึ้น
ไม่สำคัญเลยว่าเราจะมีทรัพย์มากมีน้อยแค่ไหน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจะต้องใช้ให้น้อยต่างหาก ชีวิตเราจึงจะมีเหลือมากกว่ามีขาด
คนจนยิ่งจนนั่นเป็นเพราะว่าทำรวย คนรวยยิ่งรวยขึ้นไปนั่นเป็นเพราะว่าเขาทำตัวจน ทำตัวให้เป็นปกติที่สุด อะไรใช้จ่ายที่จำเป็นก็ใช้อะไรไม่จำเป็นก็หยุดซะ
ไม่ยินดีในสิ่งที่ตนได้ ไม่พอใจในสิ่งที่ตนมี นั่นเป็นคนที่อาภัพที่สุดในโลกแล้ว ควรยินดีในสิ่งที่ตนได้และมี ถือว่าเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก
อดทนได้ก็อดทนเอาไว้ อดใจได้ก็อดใจ ถ้าหากไม่อดทนแล้วไม่อดใจ เรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ทันที
คนที่มีความสุขไม่ใช่คนที่มีมากที่สุด แต่เป็นคนที่ต้องการน้อยที่สุด ยิ่งความต้องการของเราน้อยลง สมบัติคือสิ่งที่เรามีอยู่ก็ดูเหมือนจะมีค่ามากขึ้น ความสุขหรือความทุกข์ในชีวิตบางครั้งก็เหมือนการมองผ่านไป มองไปในกระจก หากกระจกของเราใสสะอาด เมื่อเรามองเข้าไปย่อมเห็นแต่ความสุข โดยปราศจากสิ่งที่คุณขุ่นมัว
ฝึก 9อย่างนี้ความทุกข์จะเข้าไม่ถึงใจเรา
วิธีการฝึกจิตใจของตัวเองไม่ให้ฟุ้งซ่านให้มีสมาธิและสติอยู่ตลอดเวลาโดยกุรูได้ชี้แนะให้ประชาชนได้ลองฝึกควบคุมจิตใจของตัวเองและเมื่อทำได้
ก็จะเป็นผลดีต่อตัวเองจิตใจเราจะได้สงบและไม่เป็นทุกข์มาดูกันเลยครับ
1 ฝึกให้ตัวเองเป็นนักไม่สะสม
หมายความว่าการสะสมอะไรสักอย่างนั้นเป็นภาระไม่มีอะไรที่เราสะสมแล้วไม่เป็นภาระยกเว้นความดีนอกนั้นล้วนเป็นภาระทั้งหมดไม่มากก็น้อย
2 ฝึกมองตัวเองให้เล็กเข้าไว้
หมายความว่าจงเป็นคนตัวเล็กอย่าเป็นคนตัวใหญ่จงเป็นคนธรรมดาอย่าเป็นคนสำคัญเวลามีอะไรเกิดขึ้นกับเราอย่าไปให้ความสำคัญกับตัวเองมากไป
3 ฝึกให้ตัวเองเป็นคนนิ่งๆ
หรือไม่ก็พูดในสิ่งที่ดีๆหมายความว่าถ้าอะไรไม่ดีก็อย่าไปพูดมากไม่ว่าสิ่งนั้นจะถูกหรือผิดแต่ถ้ามันไม่ดีเป็นไปได้ก็ไม่ต้องพูดเพราะการพูดหรือวิจารณ์ในทางเสียหายนั้นมีแต่ทำให้จิตใจตนเองตกต่ำและขุ่นมัว
4 ฝึกให้ตนเองเป็นคนสบายๆ
หมายความว่าอย่าไปบ้ากับความสมบูรณ์แบบเพราะความสมบูรณ์แบบมันไม่มีจริงมีแต่คนคิดไม่ได้เท่านั้นแหละ ที่มองว่าความสมบูรณ์แบบมีจริง
5 ฝึกให้ตัวเองรู้ธรรมชาติว่าอะไรๆก็ผ่านไปเสมอ
หมายความว่าเวลามีความสุขก็ให้รู้ว่าเดี๋ยวความสุขมันก็ผ่านไปเวลามีความทุกข์ก็ให้รู้ว่าเดี๋ยวความทุกข์ก็ผ่านไปเวลามีสถานการณ์แย่ๆเกิดขึ้นก็ให้รู้ทันว่าเรื่องราวเหล่านี้มันไม่ได้อยู่กับเราจนวันตๅย
6 ฝึกให้ตัวเองพ้นไปจากความเป็นขีข้าของเงิน
หมายความว่าเราต้องหัดพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่รถยนต์ใช้อะไรอยู่ก็หัดพอใจกับมันนาฬิกาใช้อะไรอยู่ก็หัดพอใจกับมันเสื้อผ้าใช้อะไรอยู่ก็หัดพอใจกับมัน
การที่คนเราจะเลิกเป็นขีข้าเงินได้ต้องเริ่มจากการรู้จักเพียงพอก่อนเมื่อรู้จักพอแล้วก็ไม่ต้องหาเงินมากเมื่อไม่ต้องหาเงินมากชีวิตก็มีโอกาสทำอะไรที่มากกว่าการหาเงิน
7 ฝึกให้ตัวเองเข้าใจเรื่องของการนินทา
หมายความว่าเราเกิดมาก็ต้องรู้ตัวว่าเราต้องถูกนินทาแน่นอนดังนั้นเมื่อถูกนินทาขอให้รู้ว่าเรามาถูกทางแล้วแปลว่าเรายังมีตัวตนอยู่บนโลกคนที่ชอบเต้นแร้งเต้นกา
กับคำนินทาก็คือคนไม่รู้เท่าทันโลกแม้แต่คนเป็นพ่อแม่ก็ยังนินทาลูกคนเป็นลูกก็ยังนินทาพ่อแม่นับประสาอะไรกับคนอื่นถ้าเราห้ามตัวเองไม่ให้นินทาคนอื่นได้เมื่อไหร่ค่อยมาคิดว่าเราจะไม่ถูกนินทา
8 ฝึกให้ตัวเองให้ยอมเสียเปรียบ
หมายความว่าการที่คนๆหนึ่งยอมเสียเปรียบผู้อื่นบ้างเป็นเรื่องจำเป็นใครก็ตามที่บ้าความถูกต้องบ้าเหตุบ้าผลไม่ยอมเสียเปรียบอะไรเลย
ไม่ช้าคนๆนั้นก็จะเป็นบ้าสติแตกกลายเป็นคนที่ถูกทุกอย่างแต่ไม่มีความสุขเพราะต้องสู้รบกับคนรอบข้างเต็มไปหมดเพื่อความถูกต้องที่ตนเองยึดมั่นถือมั่น
9 ฝึกอยู่กับปัจจุบัน
เคยได้ยินไหมคำนี้อยู่กับปัจจุบันพูดง่ายนะแต่ทำยากมากๆการอยู่ปัจจุบันก็คือการไม่หลงเข้าไปในความคิดของตนสติเท่านั้นที่จะเป็นตัวรู้ตัวดูว่าตอนนี้เราคิดอะไรอยู่สังเกตุดูง่ายๆ
หากเรากำลังรู้สึกหดหู่ใจนั่นแปลว่าเรากำลังอยู่กับอดีตหากเรากำลังรู้สึกกังวลใจนั่นแปลว่าเรากำลังอยู่กับอนาคตหากเรากำลังรู้สึกดีและมีความสุขนั่นแปลว่าเรากำลังอยู่กับปัจจุบัน
พระพุทธเจ้าสอนว่าให้เราโฟกัสอย่างใดอย่างหนึ่งให้แน่นอน ให้เราตั้งใจกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แล้วจะมีความสุขเอง
ขอขอบคุณ : พศิน อินทรวงค์, rugyim,108resources